ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1968

จากการดึงจิตออกมาของหยงซิวนั้น ราวกับว่าเกิดการกระตุ้นกฎ จิตได้แผ่แสงออกมา แสงหลากสีส่องประกายไปทั่วทั้งทะเลบรรพกาล
  ต่อมาจิตนั้นก็เหมือนจะเผาไหม้จนเปลี่ยนเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วทะเลบรรพกาล
  ในเวลาเดียวกันแรงกดดันอันหนักหน่วงก็ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง มันเหมือนกับตอนที่เรนไนได้ขึ้นไปเป็นจักรพรรดิ
  แรงกดดันอันน่ากลัวนี้ครอบคลุมไปทั่วทะเลบรรพกาลราวกับบอกถึงการมาถึงของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล !
  ทะเลบรรพกาลสั่นไหว เหล่าแม่ทัพและจักรพรรดิพากันจิตสั่นไหว พวกเขาพากันคุกเข่ากันลงเพื่อพบกับผู้ปกครองสูงสุดของที่นี่  หยงซิวอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เขาราวกับเห็นอนาคตอันสดใสรออยู่ เขาเห็นทางที่เขาจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ !
  ในอีกที่….
  “ มีคนคิดจะลองขึ้นเป็นจักรพรรดิงั้นรึ ?” จางหยูตื่นขึ้นมาจากการฟื้นฟูและแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
  ก่อนหน้านี้ที่เรนไนขึ้นเป็นจักรพรรดิ จางหยูจึงได้ตั้งเงื่อนไขให้สละจิตและภาวนานี้คือขั้นตอนของการที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิ แต่ความจริงแล้ว ในฐานะจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล จิตของจางหยูคือจิตของทะเลบรรพกาล เขาจึงไม่จำเป็นต้องตั้งกฎใดๆขึ้นมา เพราะจิตของเขาคือกฎ แต่เขาแค่อ้างถึงกฎพวกนี้ก็เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติเหมือนกันและได้โอกาสในการทะลวงผ่านที่เท่าเทียมกัน
  เขาลองตรวจสอบคนที่คิดจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ ก่อนจะยักคิ้ว “ เพิ่งขึ้นเป็นแม่ทัพงั้นหรือ ? “
  แม่ทัพแบ่งเป็น 3 ขั้น ความแข็งแกร่งของหยงซิวนั้นอยู่แค่ขั้นต้น บอกได้ว่าอยู่ระดับล่างสุดของแม่ทัพ แม้แต่เสียเทียน ก็ยังแกร่งกว่าหยงซิวอย่างมาก
  หลังจากที่ตรวจสอบสถานการณ์แล้ว จางหยูก็พอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
  “ เมื่อเห็นว่าเรนไนขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ คนอื่นๆเลยอยากทำเหมือนกันงั้นหรือ ?” จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี “ แม่ทัพขั้นต้น ข้าไม่รู้ว่าเขาเอาความกล้ามาจากไหนกัน…”
  แต่จางหยูก็ไม่คิดจะขัดขวางหยงซิว เขาอยากเห็นว่าแม่ทัพขั้นต้นจะทนรับพลังสิทธิ์จากเขาได้รึเปล่า แม้ว่าจะมีโอกาสที่หยงซิวจะทะลวงผ่านไม่สำเร็จนั้นสูง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หากหยงซิวทะลวงผ่านได้ งั้นมันก็หมายความว่าเกณฑ์สำหรับการรับพลังสิทธิ์อาจจะไม่ได้สูงแบบที่เขาคิด
  จางหยูมองดูหยงซิวด้วยความสนใจและปล่อยให้อีกฝ่ายรับพลังจิตของเขาเข้าไป
  ไม่กี่อึดใจพลังจิต 12 เส้นก็ได้ไปไหลเข้าไปในตัวของหยงซิว !   ต่อมาพลังจิตทั้ง 12 เส้นก็มารวมตัวกันและสร้างสิทธิ์ที่สมบูรณ์ขึ้นมา พลังสร้างอันน่ากลัวก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พลังสร้างอันน่ากลัวนี้แผ่กระจายไปทุกทิศทาง เหล่าแม่ทัพทุกคนพากันถอยกลับราวกับเผชิญหน้ากับจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง
  ซื่อเซียว, เย่าหยาง, อู่หมิง หว่านเก่อและ เรนไนก็พากันมองไปที่หยงซิวและคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง
  พลังสร้างอันน่ากลัวนี้เรียกได้ว่าเป็นพลังของจักรพรรดิ มันคือเครื่องหมายของจักรพรรดิ !
  จากมุมมองจุดนี้แล้วไม่ว่าหยงซิวจะทำสำเร็จรึล้มเหลว มันก็พิสูจน์ได้อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือ…แม้แต่แม่ทัพที่อ่อนแอก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ แม้ว่าโอกาสจะน้อยรึเข้าใกล้ศูนย์ก็ตาม
  ตอนนั้นภายใต้พลังสร้างอันน่ากลัว ร่าง, จิต, และวิญญาณของหยงซิวต่างก็ลุกไหม้มันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแต่ความแข็งแกร่งของเขาน้อยเกินไป ตอนนั้นร่างเขากำลังจะโดนเผาเป็นเถ้า ความคิดแทบสลาย วิญญาณเหือดแห้ง จิตพร่ามัวไปอย่างรวดเร็ว
  “ อ๊า !” หยงซิวกรีดร้องออกมา การผันผวนของจิตนั้นสะท้อนได้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน
  ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของหยงซิวและสภาพที่น่าอนาถของเขา
  สายตาอิจฉานั้นหายไปถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวแทน
  “ ตูม !”
  หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจความคิดและวิญญาณของหยงซิวก็หายไป จิตของเขาเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า ตัวเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มีแค่เสียงโหยหวนของเขาที่ยังดังก้องในหูทุกคนซึ่งยืนยันว่าเขาเคยมีตัวตนอยู่  ล้มเหลว !
  ไม่ถึง 10 อึดใจ แม่ทัพที่เหนือกว่าจ้าวโกลาหลกลับหายไปอย่างสมบูรณ์ราวกับพลุไฟที่ระเบิดออก แม้ว่าจะเคยเผยความงดงามออกมาแต่สุดท้ายก็จางหายไปตามลม
  แม่ทัพหลายคนพากันขนลุก ความโหยหาถึงจักรพรรดิในใจพวกเขาเปลี่ยนเป็นความกลัวที่มีต่อความตายแทน แม้ว่าส่วนมากจะแกร่งกว่าหยงซิวแต่เมื่อคิดถึงพลังสร้างเมื่อตะกี้แล้ว พวกเขาก็คิดว่าไม่อาจจะทนได้ไหว บางทีพวกเขาอาจจะทนได้นานกว่าหยงซิวแต่ผลลัพธ์สุดท้ายคงไม่ต่างจากหยงซิว
  ชะตาของหยงซิวทำให้ความเพ้อฝันของทุกคนปลิวหายไป พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถอยกลับมา
  คนที่เกือบไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มีแค่สองคน หนึ่งคือซิวฮัว ส่วนอีกคนคือแรนดอฟ
  ซิวฮัวและแรนดอฟ คือสองคนที่อาจจะเป็นแม่ทัพสูงสุดนอกจากเรนไน !   เรนไน, ซิวฮัว และแรนดอฟ คือแม่ทัพสูงสุดสามคนของมนุษย์ พวกเขาคือเสาหลักในการต้านทานเผ่าสวรรค์เอาไว้ พวกเขาปกป้องมนุษย์มานาน เรนไนนั้นแกร่งที่สุดและได้รับการยอมรับว่าต่ำกว่าจักรพรรดิแล้วเขาคือคนที่แกร่งที่สุด แม้ว่าซิวฮัวกับแรนดอฟจะอ่อนแอกว่าแค่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึง
  ซิวฮัวและแรนดอฟเป็นแม่ทัพสูงสุด พวกเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง แม้ว่าทั้งสองจะได้รับผลกระทบจากการตายของซิวฮัว แต่มันก็ไม่อาจจะพังความเชื่อมั่นในใจที่พวกเขามีได้
  “ ข้าบอกเจ้าแล้ว” หว่านเก่อมองไปที่ซื่อเซียว “ วิธีนี้อันตรายอย่างมาก แม้แต่เรนไนก็เกือบตายมาหลายครั้ง หากแม่ทัพทั่วไปลอง งั้นไม่ต้องเดาเลยว่าต้องตาย …”
  ซื่อเซียวสีหน้าบิดเบี้ยวไป แต่เขาไม่อาจจะเถียงหว่านเก่อได้
  เม่ยหมิงสีหน้าไม่สู้ดีนัก หยงซิวเป็นแม่ทัพของเขา การตายของแม่ทัพคนนี้เท่ากับความแข็งแกร่งของเขตอู่หมิงนั้นลดลงเล็กน้อย แต่โชคดีที่มีแม่ทัพเขตอู่หมิงอีกหลายคน มันยังมีแรนดอฟที่เป็นแม่ทัพสูงสุดอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้ถือว่าเสียหายมากนัก
  “ ข้ายังต้องลองอีกรึไม่ ?” เย่าหยางลังเลสักพักก่อนจะถามซื่อเซียวกับอู่หมิง
  ปากของซื่อเซียวกระตุกไปตาม ยังจะลองอีกหรือ ? การตายของแม่ทัพคนเดียวยังไม่พออีกรึไง ?
  แม้ว่ามันจะยากที่จะยอมรับ แต่ซื่อเซียวก็ต้องยอมรับว่าหว่านเก่อนั้นไม่ได้โกหก พลังของจักรพรรดิใช่สิ่งที่แม่ทัพทั่วไปจะรับได้ไหว บางทีคงมีแค่ซิวฮัวและแรนดอฟที่มีหวังจะทำได้สำเร็จ แต่ทั้งสองนั้นสำคัญต่อมนุษย์อย่างมาก แม้ว่าสองคนนี้จะกล้าทดลองแต่พวกเขาคงไม่ยอมจะให้ทั้งสองเสี่ยง
  มันคุ้มกับการพนันชีวิตตัวเองกับโอกาสไม่ถึง 1 ใน 10 รึ ?
  “ ยอมแพ้เถอะ” อู้หมิงถอนหายใจและพูดขึ้นมา “ การแข่งขันเพื่อก้อนแก่นกำลังจะมาถึง เราไม่อาจจะเสียคนมากกว่านี้ได้”
  เมื่อได้ยินแบบนั้นแม่ทัพทุกคนต่างก็พากันโล่งอก แม้แต่ซิวฮัวและแรนดอฟก็โล่งอกไปด้วย
  การตายของหยงซิวกลายเป็นแผลในใจของพวกเขา คงไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ไปอีกสักพัก แม้แต่ซิวฮัวและแรนดอฟก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยง
  “ อันที่จริงการทดลองนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไร” ซื่อเซียวพยายามให้กำลังใจทุกคน “ หยงซิว ล้มเหลวก็จริงแต่อย่างน้อยก็พิสูจน์แล้วว่าจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลยังมีที่ว่างอยู่ การสละจิตและภาวนานั้นคือโอกาสที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิ แม้ว่าเขาจะเพิ่งขึ้นมาเป็นแม่ทัพแต่ก็ยังได้โอกาสนี้ แต่ยากที่เขาจะทนพลังของจักรพรรดิได้”
  เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่าหยางก็พยักหน้า “ ใช่ นี่คือวิธีที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิโดยไม่ต้องพึ่งลูกปัดจักรพรรดิ”   แต่เส้นทางนี้ยากและอันตรายกว่าการดูดซับลูกปัดจักรพรรดิ
  มันพิสูจน์ได้ว่าพวกเขามีโอกาสทุกคนจากจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล !
  มีแค่คนที่เป็นแม่ทัพสูงสุดเท่านั้นที่จะกลายเป็นจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลได้ เมื่อพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาก็จะมีความแข็งแกร่ง แกร่งกว่าซื่อเซียวและคนอื่นๆตอนที่เพิ่งขึ้นเป็นจักรพรรดิ…
  “ หากคิดว่าพวกเจ้าทนพลังของจักรพรรดิได้ พวกเจ้าจะลองดูก็ได้” อู่หมิงมองไปที่เหล่าแม่ทัพ “ สำหรับตอนนนี้แล้วพวกเจ้าอย่าเพิ่งลองกันจะดีกว่า”
  อันที่จริงเขาก็ได้บอกทุกคนว่าก่อนที่จะขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดแล้วไม่ควรจะมีใครทดลองทำแบบนี้
  ไม่งั้นแล้วก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก