ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 2003

ตอนที่ 2003 : หักหลัง ?
  เมื่อเห็นว่าบลูเงียบไปพร้อมกับแสดงท่าทีลนลานออกมา เหล่าจักรพรรดิก็คิ้วขมวด
  “ เจ้าว่าไงนะ ? บอกมา” ข่งจู้เริ่มร้อนใจ
  บลูใจเย็นลงเล็กน้อยและพูดขึ้นมา “ตอนที่ข้ามายังทางออก ข้าโดนคนขวางเอาไว้”
  “ ใครกัน ?” หย่วนเหยี่ยนถามขึ้นมา
  “ คนของเขตเย่าหยางรวมถึงคนของทีมคังเฉียง” เสียงของบลูแหบแห้งไป
  เมื่อได้ยินบลูพูดถึงทีมคังเฉียง เหล่าจักรพรรดิก็พากันใจสั่น
  คังเฉียงนี้หมายถึงจักรพรรดิคังเฉียงที่ลึกลับ คนที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงได้
  คนที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ทะเลโกลาหลที่กล้าเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงและรอดมาได้ !
  รึว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับทีมคังเฉียง ?
ตอนที่ 2003 : หักหลัง ?
  เมื่อเห็นว่าบลูเงียบไปพร้อมกับแสดงท่าทีลนลานออกมา เหล่าจักรพรรดิก็คิ้วขมวด
  “ เจ้าว่าไงนะ ? บอกมา” ข่งจู้เริ่มร้อนใจ
  บลูใจเย็นลงเล็กน้อยและพูดขึ้นมา “ตอนที่ข้ามายังทางออก ข้าโดนคนขวางเอาไว้”
  “ ใครกัน ?” หย่วนเหยี่ยนถามขึ้นมา
  “ คนของเขตเย่าหยางรวมถึงคนของทีมคังเฉียง” เสียงของบลูแหบแห้งไป
  เมื่อได้ยินบลูพูดถึงทีมคังเฉียง เหล่าจักรพรรดิก็พากันใจสั่น
  คังเฉียงนี้หมายถึงจักรพรรดิคังเฉียงที่ลึกลับ คนที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงได้
  คนที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ทะเลโกลาหลที่กล้าเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงและรอดมาได้ !
  รึว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับทีมคังเฉียง ?   แต่เมื่อคิดถึงข้อมูลเกี่ยวกับทีมคังเฉียงที่พวกเขาจำได้ เหล่าจักรพรรดิก็คิ้วขมวดอีกครั้ง ทีมคังเฉียงนั้นไม่มีความสามารถที่จะเป็นภัยต่อบลูได้ไม่ใช่รึ ?
  “ เขตเย่าหยางรึ ? นอกจากซิงฮัวที่แกร่งเล็กน้อยแล้วก็ไม่มีใครคู่ควรให้พูดถึงไม่ใช่รึ ?” เทียนตู่มองไปที่บลูด้วยสีหน้าสงสัย “ แม้ว่าจะมีแม่ทัพกว่า 20 คนในทีมคังเฉียงรวมตัวกันกับแม่ทัพจากเขตเย่าหยาง แต่พวกนั้นก็ไม่อาจจะหยุดเจ้าได้ไม่ใช่รึ ?”
  ด้วยความแข็งแกร่งของแม่ทัพสูงสุดที่มีเกราะขั้นสมบูรณ์แล้ว บลูนั้นถือว่าไร้เทียมทานกว่าแม่ทัพคนไหนๆ
  หากมีแม่ทัพไม่กี่สิบคน แม้ว่าบลูจะไม่ได้ไร้เทียมทาน แต่เขาก็สามารถหนีออกมาโดยที่ไม่อาจจะมีใครหยุดเขาได้
  นอกซะจากว่าบลูนั้นจะโง่ เทียนตู่ก็ไม่คิดว่าแม่ทัพเขตเย่าหยางและทีมคังเฉียงจะแย่งลูกปัดจิตจากเขาได้ยังไง
  “ คนจากเขตเย่าหยางไม่ต้องกังวลก็จริงแต่ทีมคังเฉียงนั้น…” บลูพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง
  “ ทีมคังเฉียงทำไมกัน ?”
  “ ทีมคังเฉียงมีคนถึง 300 คน !” บลูพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปวดใจ “ แม่ทัพถึง 300 คน !”
  ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิก็พากันเบิกตากว้างและไม่อาจจะทำใจเชื่อได้
  หากบอกว่าทีมคังเฉียงมีแม่ทัพกว่า 20 คน พวกเขาอาจจะเชื่อได้เพราะพวกเขาได้ตรวจสอบทีมคังเฉียงในเขตซื่อเซียวมาแล้ว พวกเขายืนยันได้ว่าทีมคังเฉียงนั้นมีแม่ทัพกว่า 20 คน แม้ว่าจะมีแม่ทัพ 30 คน พวกเขาก็พอรับได้แต่การมีแม่ทัพกว่า 300 คนมันดูเกินจริงไปหน่อย
  นี่ไม่ต้องพูดถึงทีมคังเฉียงเลย แม้ว่าทั้งทะเลโกลาหลรวมกันแล้วก็มีแม่ทัพไม่ถึง 300 คน
  รึว่าทีมคังเฉียงแกร่งกว่าทั้งทะเลโกลาหล ?
  “ หากเจ้าคิดจะแก้ตัวกับความล้มเหลว เจ้าควรแต่งเรื่องที่น่าเชื่อถือกว่านี้หน่อย” ข่งจู้สีหน้าบิดเบี้ยวไป
  เหล่าจักรพรรดิรู้สึกว่าโดนบลูปั่นหัวอยู่ !
  บลูเหมือนจะคาดไว้อยู่แล้วว่าพวกนี้ต้องไม่เชื่อ เขาไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของคนเหล่านี้แม้แต่น้อย เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน
  เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้น “ ข้ารู้ว่ามันฟังดูเกินจริง แต่มันคือความจริง หากพวกท่านไม่เชื่อ พวกท่านก็ส่งคนไปยืนยันดูก็ได้ รึพวกท่านไปยืนยันด้วยตัวเองก็ได้และ…”
  “ และอะไร ?”
  “ แม่ทัพกว่า 300 คนของทีมคังเฉียงนั้นไม่ใช่แม่ทัพทั่วไปแต่…” พูดไปแล้วบลูก็เงยหน้าขึ้นเบิกตากว้างมองไปยังเหล่าจักรพรรดิและพูดขึ้นมา “ เป็นแม่ทัพสูงสุด !”   หือ !
  เหล่าจักรพรรดิไม่อาจจะควบคุมคลื่นพลังของตัวเองได้อีก มิติรอบตัวสั่นไหวอย่างรุนแรง พื้นดินสั่นไหวราวกับจะพังลง
  “ เจ้าว่ายังไงนะ !” ข่งจู้เบิกตากว้างมองไปที่บลู
  ภายใต้แรงกดดันจากจักรพรรดิ บลูก็หน้าซีดและเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวแต่เขาก็ยังยืดอกประคองร่างกายที่อ่อนแอของตนและพูดขึ้นมา “ ข้าบอกว่าพวกเขาเป็นแม่ทัพสูงสุด ! แม่ทัพสูงสุดกว่า 300 คน !”
  บลูเหมือนกับแจกันที่แตกสลายไปแล้ว เขาเหมือนกับกำลังจะตาย
  ข่งจู้พูดขึ้นมา “ บลู เจ้าคิดว่าพวกเราโง่งั้นรึ ?”
  “ จักรพรรดิคือผู้ปกครองทะเลโกลาหลและเป็นตัวตนที่สูงส่งอีกทั้งเป็นคนที่ฉลาดเฉลียว” บลูพูดขึ้น
  “ งั้นรึ ? แต่ทำไมเจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อที่เจ้าหลอกด้วย ?” หย่วนเหยี่ยนแสดงสายตาเย็นชาออกมา “ แม่ทัพสูงสุดกว่า 300 คน ขอบคุณจริงๆที่แต่งเรื่องให้เราฟัง ! “
  เทียนตู่พูดขึ้นมา “ ข่งจู้ ข้าคิดว่าเจ้าต้องอธิบายกับเราในเรื่องนี้”
  ในมุมมองของพวกเขาก็ชัดแล้วว่าบลูนั้นผิดปกติ พวกเขาไม่ได้สงสัยในความแข็งแกร่งแต่เป็นการสงสัยในตัวบลูมากกว่า
  บางทีบลูอาจจะหักหลังเผ่าสวรรค์อยู่ก็เป็นได้ !
  ไม่งั้นแล้วบลูจะแต่งเรื่องโกหกแบบนี้มาหลอกพวกเขาทำไม ?
  เมื่อได้ยินคำพูดของเทียนตู่ สีหน้าของข่งจู้ก็บิดเบี้ยวไปทันที เขามองไปที่บลู ก่อนจะพูดขึ้น “ บลู ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจงบอกความจริงกับเรา ลูกปัดจิตหายไปไหน”
  “ ข้าไม่ได้โกหก” บลูกำหมัดแน่นด้วยท่าทีสลดและอ่อนแรง “ หากพวกท่านไม่เชื่อพวกท่านก็ไปยืนยันด้วยตัวเองได้”
  “ เรื่องแบบนี้ยังจำเป็นจะต้องยืนยันด้วยรึ ?” เทียนตู่พูดขึ้น “ แม่ทัพสูงสุดกว่า 300 คิดว่ามันเป็นไปได้รึไง ?”
  “ เรื่องที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้” บลูพูดขึ้น “ แต่มันไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มันคือความจริง”
  “ พอแล้ว ” เทียนตู่ฮึดฮัดออกมาด้วยท่าทีเย็นชา “ ข้าไม่อยากได้ยินเรื่องไร้สาระจากเจ้าอีก เมื่อเจ้าไม่คิดจะบอกความจริงงั้นก็เตรียมตัวรับการลงโทษเอาไว้”
  ในตอนที่พูดนั้นพลังจิตของเทียนตู่ก็ได้ปะทุออกมาครอบคลุมตัวของบลูเอาไว้ จนทำให้บลูไม่อาจจะขยับตัวได้
  ทั้งที่ตอนนี้บลูบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว หากเขาโดนโจมตีอีกครั้ง เขาก็ไม่อาจจะรอดได้
  แต่โชคดีที่ข่งจู้ได้พูดขึ้นมาและได้ลบแรงกดดันจากเทียนตู่ไป “ แม้ว่าข้าจะไม่เชื่อที่เขาพูดมาแต่หากฆ่าเขาไปเช่นนี้ การฆ่าเขานั้นข้าคิดว่ามันเบาเกินไป”
  เทียนตู่ยักคิ้ว “ หือ เจ้าหมายความว่ายังไง ?”
  ข่งจู้ไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่กลับมองไปที่บลูแล้วพูดขึ้น “ เมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้โกหก ถ้าอย่างนั้นเจ้ากล้ารับการทดสอบของเรารึไม่”
  “ ทดสอบงั้นรึ ?” บลูถามขึ้นมา
  “ เปิดทะเลความจำของเจ้าและให้เราตรวจสอบ” ข่งจู้พูดขึ้น “ หากเจ้าบริสุทธิ์ เราก็จะไม่เอาเรื่องเจ้าแต่หากเราพบว่าเจ้าโกหก งั้นเจ้าก็เตรียมรับการลงโทษที่โหดร้ายไว้ได้เลยw
  “ ไม่ !” บลูพูดขึ้นทันที “ จักรพรรดิ ข้าเคารพท่านก็จริงแต่มันไม่ได้หมายความว่าท่านจะดูถูกข้าได้เช่นนี้ !”
  ไม่ต้องเดาเลยว่ามันเป็นการเหยียดหยามกับการเปิดความทรงจำของเขาให้คนอื่นๆตรวจสอบ เขาจะไม่อาจจะปกปิดความลับใดจากจักรพรรดิได้ มันราวกับแก้ผ้าต่อหน้าจักรพรรดิ เขาอาจจะโดนชักใยทางความคิดโดยจักรพรรดิ มันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะรับได้
  แม่ทัพที่มีเกียรติไม่อาจจะรับเรื่องแบบนี้ได้ !
  แม่ทัพสูงสุดอย่างบลูและล็อคยอมตายดีกว่าแทนที่จะยอมตกลง !
  “ ท่านจะฆ่าข้าก็ได้รึอาจจะลบจิตของข้าเลยก็ได้แต่ให้เปิดความทรงจำนั้น ข้าไม่อาจจะตกลงได้” ท่าทีของบลูหนักแน่น แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะยอม เขายอมตายแทนที่จะให้ใครมาดูหมิ่นเช่นนี้ แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่อาจจะยอมได้
  เมื่อเห็นท่าทีหนักแน่นของบลูเหล่าจักรพรรดิก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด
  เทียนตู่เริ่มหมดความอดทน “ รึเราควรฆ่าเขาดี”
  เมิ่งเหยียนมองไปที่บลูแล้วพูดขึ้น “ เจ้าคิดว่าเราไม่มีทางอื่นที่จะยืนยันรึ ?”   บลูยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา “ จักรพรรดิจะใช้วิธีอื่นเพื่อยืนยันก็ได้”
  “ แม้แต่ตอนนี้เจ้าก็ยังปากแข็ง” ข่งจู้พูดขึ้นมา “ ข้าหวังว่าเจ้าจะยืนกรานดังเดิมจนถึงสุดท้าย”
  ระหว่างที่พูดนั้นร่างของข่งจู้ก็แผ่พลังออกมา มันคือพลังผันผวน พลังของจักรพรรดิ
  ต่อมาเขาก็ได้เชื่อมต่อกับแม่ทัพของเขตข่งจู้ ที่อยู่ในส่วนเหนือของเขตต้นกำเนิด พูดให้ถูกต้องคือมันน่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านตราที่พวกนั้นมีกับตัว เพราะตราพวกนี้มีตราของจักรพรรดิอยู่ ผู้ถือผนึกจะสามารถสื่อสารระยะไกลได้ แม้แต่การเคลื่อนย้ายพริบตาก็ยังทำได้แต่เขตต้นกำเนิดนั้นปิดกั้นการเคลื่อนย้ายพริบตา มันจึงทำได้แค่ติดต่อไปยังอีกด้านเท่านั้น
  “ เวล” เสียงของข่งจู้ดังขึ้นมาช้าๆ
  เวลคือแม่ทัพที่แกร่งที่สุดในเขตข่งจู้ รองจากบลูเขาแกร่งเกือบทัดเทียมแม่ทัพสูงสุด เขาแกร่งพอๆกับซิงฮัวและ แรนดอฟ  “ จักรพรรดิ !” เวลที่อยู่อีกด้านตัวสั่น หลังจากที่ได้สติแล้วเขาก็ได้ตอบกลับทันที
  “ ตอนนี้เจ้าอยู่ไหนกัน ?” ข่งจู้ถามขึ้นมา
  “ เรากำลังมุ่งหน้าไปยังทางออก” เวลตอบกลับ “ มันยังอีกกว่า 3 ชั่วโมงกว่าที่เราจะไปถึงทางออก”
  ข่งจู้มองไปที่บลูแล้วบอกกับเวล “ จากนี้ไปเปิดบันทึกภาพแล้วส่งต่อให้กับข้า”
  “ ได้ จักรพรรดิ !” เวลตอบกลับ
  “ พลังจิตใช้มากเกินไป” ข่งจู้คิ้วขมวด ชัดแล้วว่าการส่งพลังผ่านกำแพงเขตต้นกำเนิดเพื่อสร้างการเชื่อมต่อนั้นจะใช้พลังอย่างมาก หากไม่จำเป็นแล้วเขาคงไม่มีทางทำแบบนี้ง่ายๆแต่ตอนนี้เขาต้องทำ ไม่ใช่เพื่อยืนยันที่บลูพูดมาแต่เพราะเขาอยากเห็น
  ว่าเกิดอะไรขึ้นใกล้กับทางออกเขตข่งจู้ “ 3 ชั่วโมงน่าจะทนไหว “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก