ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 2018

ตอนที่ 2018 : เผชิญหน้า
  “ นายท่าน”
  ในส่วนหลักของเขตฉิวหวัง นายพลคนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นมา
  ซือหมิง ค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปที่นายพลและพูดขึ้น “ มีอะไร ?”
  หากเทียบกับเมื่อหลายล้านปีก่อนแล้ว ซือหมิงในตอนนี้ดูสง่ากว่าเก่า รูปลักษณ์เขาดูสูงส่งกว่าเดิม
  “ นายท่าน จิตของฮอลแลนโดนทำลายไปแล้ว” นายพลขั้นสูงตอบกลับ
  ซือหมิงยักคิ้ว “ ฮอลแลน รึ ? นายพลที่คอยดูแลชายแดนน่ะรึ ?”
  ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว แม่ทัพอาจจะไม่ได้สนใจเหล่านายพลแม้แต่น้อยแต่สถานการณ์ตอนนี้น่ะพิเศษ เขาเพิ่งขึ้นเป็นแม่ทัพ เขายังไม่ชินกับระดับที่เพิ่มขึ้นมา อย่างที่สองคือคนของเขามีน้อย นี่ไม่ต้องพูด
ตอนที่ 2018 : เผชิญหน้า
  “ นายท่าน”
  ในส่วนหลักของเขตฉิวหวัง นายพลคนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นมา
  ซือหมิง ค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปที่นายพลและพูดขึ้น “ มีอะไร ?”
  หากเทียบกับเมื่อหลายล้านปีก่อนแล้ว ซือหมิงในตอนนี้ดูสง่ากว่าเก่า รูปลักษณ์เขาดูสูงส่งกว่าเดิม
  “ นายท่าน จิตของฮอลแลนโดนทำลายไปแล้ว” นายพลขั้นสูงตอบกลับ
  ซือหมิงยักคิ้ว “ ฮอลแลน รึ ? นายพลที่คอยดูแลชายแดนน่ะรึ ?”
  ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว แม่ทัพอาจจะไม่ได้สนใจเหล่านายพลแม้แต่น้อยแต่สถานการณ์ตอนนี้น่ะพิเศษ เขาเพิ่งขึ้นเป็นแม่ทัพ เขายังไม่ชินกับระดับที่เพิ่มขึ้นมา อย่างที่สองคือคนของเขามีน้อย นี่ไม่ต้องพูดถึงนายพลขั้นสูงเลย แม้แต่นายพลขั้นกลางก็มีไม่ถึง 10 คน
  ดังนั้นซือหมิงจึงจำฮอลแลนได้
  แม้แต่ตำแหน่งของฮอลแลนนั้นเขาก็เป็นคนจัดให้เอง มันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาให้ความสำคัญกับฮอลแลนแค่ไหน
  “ มีคนกล้าลงมือกับคนของข้า กล้าดีจริงๆ” ซือหมิงหรี่ตาลง “ เจ้ารู้ตัวตนของอีกฝ่ายรึยัง ?”
  นายพลขั้นสูงส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ฝั่งฮอลแลนไม่ได้ส่งภาพใดๆมา หยกจิตของเขาพังทลายอย่างรวดเร็ว เราไม่มีเวลาตรวจสอบให้แน่ชัด”
  “ งั้นก็ตรวจสอบซะ” ซือหมิงพูดขึ้น “ ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด หากอีกฝ่ายแข็งแกร่ง ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะไปพบกับอีกฝ่ายด้วยตัวเอง”
  นายพลขั้นสูงตอบกลับทันที “ ได้ นายท่าน !”   ทันทีที่นายพลขั้นสูงกลับออกมา ซือหมิงก็หันกลับไปมองข้างหลังแล้วพึมพำออกมา “ แต่เดิมแล้วข้าอยากหาโอกาสที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของข้า และตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี โอกาสกลับมาหาถึงที่”
  แม้ว่าเขาจะมีนายพลหลายคนในสังกัดแต่พวกนี้เหมือนกับไม่เต็มใจโดยเฉพาะพวกนายพลขั้นสูงที่เคารพเขาแต่ภายนอกเท่านั้นแต่อันที่จริงแล้วหาโอกาสที่จะปลีกตัวออกจากเขา
  ซือหมิงไม่พอใจแต่เขาก็ไม่คิดจะฆ่าพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะหาโอกาสเชือดไก่ให้ลิงดู เขาจะใช้อีกฝ่ายเป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้เห็น
  “ ไม่มีนายพลของเขตฉิวหวังที่รอดมาได้ ไม่งั้นแล้วพวกเขาคงโผล่มาตั้งนานแล้วไม่รอจนถึงตอนนี้แน่” ซือหมิงมั่นใจอย่างมาก “ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าแล้ว มันก็ไม่มีปัญหาที่จะยึดครองเขตนี้ !”
  อันที่จริงซือหมิงคิดว่าจะไปหาจักรพรรดิคนอื่นดีรึไม่ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมโยนความคิดนี้ทิ้งไป เขารู้ดีว่าแม่ทัพหน้าใหม่นั้นแทบไม่ได้มีฐานะอะไรในสายตาจักรพรรดิ มันยากที่จักรพรรดิจะสนใจเขา แทนที่จะไปหาจักรพรรดิในตอนนี้ มันจะดีกว่าที่จะตั้งกลุ่มขึ้นมาในเขตฉิวหวังและรอให้อำนาจเขาเติบโตขึ้นมาจนเป็นที่สนใจของจักรพรรดิเอง นั่นคงทำให้เขามีค่ามากกว่า
  ตอนแรกซือหมิงยังกังวลว่าจะโดนกุยหลิงหมายหัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปซือหมิงก็เริ่มเบาใจ กุยหลิงนั้นเหมือนจะหนีจากที่นี่ไปและไม่ได้ปราฏตัวขึ้นอีก แม้แต่จ้าวโกลาหลทั่วไปก็ยังไม่พบกับกุยหลิง
  หลังจากที่ตัดสินแล้วว่ากุยหลิงนั้นหายตัวไปจริงๆ ซือหมิงก็กล้ามากกว่าเก่า
  เขาได้ตัดสินใจและตรงไปยังส่วนหลักของเขตฉิวหวัง เขาพึ่งความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นปกครองเหล่านายพลขั้นสูงรวมถึงนายพลคนอื่นๆโดยใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลางก่อนจะค่อยๆขยายอำนาจออกไป เขาได้นายพลขั้นสูงมา 2 คน นายพลขั้นกลางและต้น 5-6 คน
  ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมานี้ทีมของซือหมิงนั้นพัฒนาขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นทีมขนาดใหญ่แล้ว
  ตอนนตี้เขามีนายพลขั้นสูง 3 คนและนายพลขั้นกลาง 9 คน จำนวนยังเพิ่มขั้นมาเรื่อยๆ ตามที่เขางแผนเอาไว้ อีกไม่ถึง 10 ล้านปีในเขตฉิวหวังนี้นายพลขั้นสูงทั้งหมดจะศิโรราบให้กับเขา อำนาจของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
  แน่นอนว่านั่นแค่การคาดการเท่านั้น เขายังไม่มั่นใจว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไง
  ยังไงซะก็ไม่มีใครรู้ว่านายพลในเขตฉิวหวังนั้นมีมากแค่ไหน บางทีตอนนี้อาจจะเป็นขีดจำกัดของอำนาจเขาไปแล้วก็ได้
  “ อีก 10 ล้านปีก อีก 10 ล้านปีข้าจะพาพวกเจ้าไปหาจักรพรรดิ” ซือหมิงคิด
  ตอนนั้นเอง ซือหมิงกลับเงยหน้าขึ้น สายตาเขาราวกับคบไฟมองผ่านโกลาหลไป  “ นายพลสองคนรึ ?” ซือหมิงแปลกใจและจากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา มันไม่ใช่รอยยิ้มตื่นเต้นแต่เป็นรอยยิ้มแห่งความยินดี “ เมื่อต้องการคน นายพลสองคนก็มาหาถึงที่ จำนวนนายพลที่ข้ามีไม่ใช่แค่ไม่ลดแต่จะเพิ่มขึ้นด้วย มันจะขึ้นเป็นสองหลักเสียที”
  เขานับว่านายพลทั้งสองจะยอมเข้าร่วมกับเขาไปแล้ว
  เขาไม่คิดว่าพวกนี้มาเพราะเป้าหมายอื่น
  สำหรับการตายของฮอลแลนว่าเกี่ยวข้องกับสองคนนี้รึไม่นั้น ซือหมิงไม่คิดด้วยซ้ำ
  สองคนนี้เป็นนายพลขั้นกลาง ความแข็งแกร่งไม่เท่ากับฮอลแลน แม้ว่าจะร่วมมือกันแต่ก็ยากจะฆ่าฮอลแลน ได้ ที่สำคัญที่สุดคือพวกนี้ยังอยู่ในสภาพดีไม่ได้บาดเจ็บเลย หากพวกนี้สู้กับ ฮอลแลน จริงๆแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูกลับมาได้ในเวลาอันสั้น
  เมื่อคิดแบบนั้นซือหมิงก็ยิ้มออกมาและบินไปหานายพลทั้งสอง  เขาต้องแสดงว่าเขาให้ความสำคัญกับผู้คน
  ดังนั้นเขาจึงไปพบกับนายพลทั้งสองด้วยตัวเองเพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับลูกน้องเพียงใด
  หลังจากนั้นไม่นานนายพลทั้งสองก็เข้ามาในระยะสายตาของซือหมิง แต่ซือหมิงไม่คิดว่าจะมีอีกคนอยู่ด้านหลังนายพลทั้งสองด้วย ไม่สิ มันคือหมา
  ซือหมิงหรี่ตาลง เขาไม่อาจจะรับรู้ตัวตนของหมาได้เลย อีกฝ่ายเหมือนกับโผล่มาตรงหน้าเขาได้ในพริบตา
  “ หมานี่…ต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ !” ซือหมิงสีหน้าเปลี่ยนไป สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมา เขามองไปที่หมาด้วยท่าทีสงสัยและกังวล
  ไม่นาน เสี่ยวซี, วินและทอมก็ได้มาหยุดตรงหน้าซือหมิง
  “ เจ้าคือแม่ทัพน้อยรึ ?” เสี่ยวซีทำทีเป็นไม่รู้จักซือหมิง ยังไงซะฐานะตอนนี้ของเขาก็เคือแม่ทัพของเผ่าสวรรค์ ไม่ใช่หมาปีศาจที่เคยเป็น
  ซือหมิงคิ้วขมวด ตั้งแต่ที่เขตฉิวหวังโดนทำลายไป มันไม่เคยมีใครเรียกชื่อเขาเช่นนี้ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเรียกเขาแบบนี้
  แต่เขาไม่ได้เอะใจอะไร เขากลับมองไปที่เสี่ยวซีแทน “ เจ้าเป็นใคร ?” เขามองระดับของเสี่ยวซีไม่ออก เขาไม่อาจจะรับรู้คลื่นพลังของเสี่ยวซีได้ ก่อนที่เสี่ยวซีจะมาถึง เขาไม่อาจจะรับรู้ตัวตนของเสี่ยวซีได้ด้วยซ้ำ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เพียงพอจะพิสูจน์แล้วว่าเสี่ยวซีนั้นไม่ธรรมดา
  “ ข้า ท่านซี !” เสี่ยวซีแสดงท่าทีหยิ่งทะนงออกมา “ เจ้าเรียกราชาผู้นี้ว่า…แม่ทัพซี ก็ได้ !”
  ซือหมิงยังไม่ทันได้พูดอะไร เสี่ยวซีก็ได้พูดขึ้นอีก “ อย่าบอกว่าราชาผู้นี้ไม่ให้โอกาสเจ้า ตอนนี้เจ้าควรคุกเข่าลงไปและเสนอตัวให้กับราชา ราชาจะยอมรับเจ้าเป็นลูกน้องคนที่สาม ในภายหลังเจ้าจะได้ปกครองกองทัพนับพันและดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่”
  วินและทอมได้ยินแบบนั้นก็พากันผงะถอยกลับไปราวกับว่าพวกเขากลัวว่าจะโดนหางเลขไปกับเสี่ยวซีด้วย
  “ พูดบ้าอะไรกัน” ซือหมิงคิ้วขมวด เขาไม่เข้าใจเสี่ยวซี แค่ประโยคเดียวเสี่ยวซีกลับให้เขายอมเป็นลูกน้อง “ แม่ทัพแรนเดลกับแม่ทัพคนอื่นๆไม่ได้ให้ข้าคุกเข่า เมื่อข้าขึ้นเป็นแม่ทัพแล้ว มันกลับมีคนกล้าให้ข้าคุกเข่าให้อีกรึ…”
  สายตาเขาสะท้อนความเย็นชาออกมา สีหน้าเขาหม่นลง “ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้ฆ่าคนมานาน ดังนั้นจึงมีหมากล้าแสดงท่าทีเช่นนี้กับข้า”
  ในตอนที่พูดนั้น ซือหมิงก็ได้ระเบิดคลื่นพลังออกมากระจายไปทั่วทุกทิศทาง
  เหล่าจ้าวโกลาหลที่อยู่ใกล้ๆต่างก็พากันตัวสั่น  นายพลขั้นสูง 3 คนและนายพลขั้นกลาง 8 คนพากันกลัวขึ้นมาและบินเข้ามาหาในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก