ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 395

คนที่มาจากแผ่นดินใหญ่หลงหยิน จำต้องยอมรับจริงๆว่า นางค่อนข้างระแวงอยู่บ้าง

เฉินซ่าไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร กล้ามาแย่งโหลชี มีแค่ผลลัพธ์เดียว ตาย

เขาดึงมือโหลชีออก "อยู่นิ่งๆ"

"เฉินซ่า...."

โหลชีดึงเขาไม่อยู่ เขากระโดดลงจากหลังม้าไปที่พื้น และไปยืนต่อหน้าเฮ่อเหลียนเจี๋ย

เขามองเฮ่อเหลียนเจี๋ย พลางพูดเสียงเย็นว่า "สู้ หรือว่าตาย?"

หลานยีและชิงยีต่างตะลึงอึ้ง"ท่านอ๋อง" พวกเขายังไม่เคยเจอผู้ใดกล้าพูดจาเยี่ยงนี้ต่อหน้าท่านอ๋องของพวกเขา และยังพูดจาด้วยท่าทีโอหังเยี่ยงนี้! ล้อกันเล่นกระมัง? นี่เป็นคนแผ่นดินใหญ่ซื่อฟาง!

เมื่อก่อนพวกเขามิเคยเห็นคนแผ่นดินใหญ่ซื่อฟางอยู่ในสายตาเลย แต่คนนี้ที่ได้เห็นตอนนี้ ช่างทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก

ท่านอ๋อง?

เฉินซ่ากับโหลชีได้ยินสรรพนามเรียกตนเองนี้ คนคนนี้เป็นอ๋องของแผ่นดินใหญ่หลงหยิน?

เฮ่อเหลียน หรือว่าจะเป็นแซ่ของสักราชวงศ์หนึ่ง?

โหลชีได้แต่เสียดาย ที่นักพรตเลวเป็นคนของแผ่นดินใหญ่หลงหยิน แต่กลับไม่รู้อะไรเลย!

เฮ่อเหลียนเจี๋ยเองก็อึ้ง จากนั้นยิ้มน้อยๆอย่างอดไม่อยู่

"จักรพรรดิพั่วอวี้ เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ข้า"

แผ่นดินใหญ่หลงหยินมีอะไรดียิ่งกว่าแผ่นดินใหญ่ซื่อฟางหรอ? ทำไมคนทางนั้นถึงได้มีท่าทีประหนึ่งอยู่เหนือกว่ายามยืนอยู่ต่อหน้าคนจากแผ่นดินใหญ่ซื่อฟาง? เหมือนกำลังก้มมองดูพวกเขายังไงยังงั้น

"งั้นรึ?" เฉินซ่าแค่นเสียงเย็น

"ตอนนี้สภาพเจ้ามิดี ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา" เฮ่อเหลียนเจี๋ยบอก "ข้าจะพาโหลชีไปแน่"

"พูดจามากความ!" เฉินซ่าปราดไปข้างหน้า มือถือกระบี่เข้าใกล้เฮ่อเหลียนเจี๋ย

ชิงยีและหลานยีจะเข้าป้องกัน เฮ่อเหลียนเจี๋ยดึงพวกเขาหลบ ปราดร่างรับเข้าไป "เจ้าอยากรนหาที่ ข้าจะช่วยเจ้าเอง"

"พูดจาโอ้อวดมีประโยชน์?"

เฉินซ่ายังคงเย็นชาอย่างนั้น ในตอนที่กำลังจะปะทะเฮ่อเหลียนเจี๋ย ในตอนที่เฮ่อเหลียนเจี๋ยคิดว่ากระบี่เขาจะแทงเข้าไป เขากลับพลิกมือโยนกระบี่ทิ้งไป กระบี่ยาวนั่นวาดออกไปตามรูปเส้น ตกลงบนพื้น ปักเข้าไปในดิน นิ่งอยู่อย่างนั้น

ทุกคนพากันตะลึง

กระบี่เล่มนั้นเป็นอาวุธวิเศษที่หายาก ต่อให้ในแผ่นดินใหญ่หลงหยินก็น่าจะติดอันดับอยู่ มีกระบี่เล่มนี้ เฉินซ่าปะทะเฮ่อเหลียนเจี๋ยก็พอจะมีความหวังขึ้นมาหน่อย แน่นอน ในสายตาชิงยีและหลานยี ต่อให้มีกระบี่เล่มนี้ เฉินซ่าก็ไม่มีทางชนะ อย่างมากก็คงแพ้อย่างไม่อนาถนัก

แต่ตอนนี้เขากลับโยนกระบี่เล่มนี้ทิ้งไป!

นี่คือจะใช้หมัดมวยสู้กับท่านอ๋องของพวกเขา?

อยากตายก็ไม่ควรจะเล่นวิธีนี้กระมัง!

ชิงยีและหลานยีถอยหลังไปหลายก้าวอย่างผ่อนคลายทันที สายตาที่มองดูเฉินซ่าราวกับกำลังมองคนตายคนหนึ่ง

ส่วนทางด้านนั้น เทียนยีตี้เอ้อร์กลับหวั่นขึ้นมา พวกเขามองออกอยู่แล้วถึงวิทยายุทธ์ล้ำลึกของเฮ่อเหลียนเจี๋ย เดิมคิดว่าฝ่าบาทของตนมีอาวุธวิเศษ ก็ไม่ถึงกับไม่มีความหวัง แต่ตอนนี้เขากลับโยนอาวุธวิเศษทิ้งไป!"

"ฝ่าบาท!"

ทั้งสองอดไม่อยู่ส่งเสียงราวกับจะห้ามปราม จากนั้นหันไปมองโหลชีพร้อมกัน

หากพระสนมส่งเสียง ลางทีฝ่าบาทอาจจะฟังบ้างกระมัง? หรือมิเช่นนั้น พระสนมออกคำสั่ง ให้พวกเขาสองคนขึ้นหน้าก่อน อย่างน้อยคงช่วยฝ่าบาทลองเชิงอีกฝ่ายได้อยู่บ้างน่ะ

แต่โหลชีกลับเม้มปากแน่น สายตาจับจ้องไปที่เฉินซ่าเขม็ง

ผู้ชายคนนี้เย็นชาอย่างน่าตายนัก เย่อหยิ่งโอเวอร์จริงๆ!

แต่ว่า น่าตายนัก ทำไมนางถึงใจเต้นกับเขาในตอนนี้ล่ะ นางรู้สึกว่า ท่าทางเขาตอนโยนกระบี่ยาวออกไปหล่อเอามากๆเลย!

เมื่อก่อนถึงโหลชีจะชอบเฉินซ่า แต่สู้บอกว่าชอบหน้าตาของเขาจะดีกว่า แล้วยังโดนบังคับให้ยอมรับเพราะความบ้าอำนาจของเขา เพียงแต่ในวินาทีนี้ นางถึงมีความรู้สึกโดนกระแทกใจอย่างแรงกับเสน่ห์เฉพาะตัวของเขา ถึงได้หวั่นไหว!

สายตานางเป็นประกายขึ้นมา มือป้องปากตะโกนเสียงดังออกไปว่า "เฉินซ่าสู้ๆ อัดเขาเลย!"

ชิงยีและหลานยีทนไม่ไหวถลึงตามองมา

โหลชีถลึงตากลับไป "มองอะไร? ไม่เคยเห็นเชียร์ลีดเดอร์สาวหรือไง?"

ส่วนทางนั้น เฉินซ่าได้สู้กับเฮ่อเหลียนเจี๋ยแล้ว ร่างทั้งสองรวดเร็วจนทุกคนมองไม่ชัดว่าพวกเขาลงมือยังไง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ