รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 126

บทที่ 126 ท่านมู่หนุนหลังเธออยู่(2)

เสียงคัดค้านเหล่านั้นทำให้ท่านมู่ขมวดคิ้ว เขาใช้มือเคาะไปที่บนโต๊ะอย่างแรง หลังจากที่รอให้ห้องประชุมสงบลง จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ผู้จัดการแล้วยังไง? เพียงแค่มีความสามารถพอก็ใช้ได้แล้ว”

“ฉันจะไม่ทำลายกฎเกณฑ์ของบริษัมมู่ซื่อ ดังนั้นคนในตระกูลมู่ไม่กี่คนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่รองประธานแทนได้ และสำหรับรองประธานซูนและรองประธานกาว พวกคุณต้องจัดการงานอีกมากมาย ภาระหน้าที่อันหนักนี้ฉันคงจะไม่เอาไปให้พวกคุณต้องลำบากเพิ่มอีก”

ประธานซูนและประธานกาวยิ้มอย่างฝืนใจ และไม่กล้าโต้แย้งอะไรอีก

พวกเขาปรารถนาเป็นยิ่งที่เอาภาระหน้าที่นี้มาอยู่กับตนเอง

“พี่รอง พี่ตัดสินใจแบบนี้ทำให้บริษัทมู่ซื่อทั้งหมดเสี่ยงอันตรายนะ” มู่เจิ้งหย่าคิดไม่ถึงว่าท่านมู่จะยืนหยัดขนาดนี้ จึงพูดด้วยเสียงสั่นเทา “ถ้าบริษัทมู่ซื่อพังทลายจะทำยังไง?”

ในเวลานี้ กาวเหม่ยซีก็หอบเอกสารเข้ามา

“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันอยู่แผนกเลขา กาวเหม่ยซี และเป็นเลขาของประธานมู่” กาวเหม่ยซีโค้งคำนับให้กับทุกคน และพูดขึ้นอย่างมีมารยาทว่า ฉันอยากจะให้ทุกคนดูเอกสารที่ประธานมู่ได้ทิ้งไว้

กาวเหม่ยซีเอ่ยถาม “ท่านมู่ ฉันขอรบกวนเวลาพวกคุณไม่กี่นาทีได้มั้ยคะ?”

ท่านมู่กวักมือให้เข้ามา

กาวเหม่ยซีนำเอาเอกสารให้ท่านมู่ดู เมื่อให้ท่านมู่ดูเสร็จก็นำเอาเอกสารให้ไปให้มู่เจิ้งหย่าดูต่อ และยังพูดขึ้นอีกว่า “นี่เป็นเอกสารที่ประธานมู่ได้เซ็นต์เมื่อครั้งที่ได้ก่อตั้งแผนกบริหารขึ้น เชิญทุกคนดูหัวข้อที่สิบสี่ หัวข้อนี้ประธานมู่ได้เพิ่มเข้าไป”

“เมื่อประธานมู่เกิดเรื่องฉุกเฉิน หรือร่างกายเจ็บป่วย ให้แผนกบริหารรับผิดชอบบริษัทมู่ซื่อทั้งหมด ตอนนี้ประธานมู่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มาทำงานไม่ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็ควรจะให้ผู้จัดการถังปฏิบัติภาระหน้าที่แทนประธาน”

“ก่อเรื่องวุ่นวาย บริษัทมู่ซื่อก็ไม่ใช่ของเขา และยังมีผู้ถือหุ้นอยู่เยอะขนาดนี้” มู่เจิ้งหย่าพูดขึ้น ทำไมทุกคนจะต้องเอาอนาคตไปขึ้นอยู่กับผู้จัดการคนหนึ่ง และนี่ก็เป็นเพียงแค่ประธานมู่เซ็นต์ฝ่ายเดียว และเป็นเพียงแค่ประธานบริหาร นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความอันตรายของบริษัทควรที่จะให้คณะกรรมการบริหารเป็นคนตัดสินใจ”

ท่านมู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อผู้ถือหุ้นคนแรกดูเสร็จ ท่านมู่ได้ให้กาวเหม่ยซี เอาเอกสารกลับมา เปิดปลอกปากกา และเซ็นต์ชื่อตนเองลงบนเอกสาร

ท่านมู่เอ่ยถามมู่เจิ้งหย่า “ประธานคณะกรรมการบริหารคือฉัน ฉันเซ็นต์ลงบนเอกสารนี้แล้ว ตอนนี้ได้รึยัง?”

มู่เจิ้งหย่าคิดไม่ถึงว่าท่านมู่จะทำเช่นนี้ จึงชะงักงงไม่สักครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจากปกติ และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก

ถังซินก้มหน้าและอดความคิดที่จะหัวเราะไว้ไม่ไหว

เธอคิดไม่ถึงว่าท่านมู่จะดื้อขนาดนี้ ไม่ไว้หน้าน้องของตนเองแม้แต่นิดเดียว

“คุณลุงจะเลือกผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไร” มู่จิ่นหลิงพูดถึงถังซิน “ก่อนหน้านี้เธอเพื่อที่จะหย่ากับมู่หยางซิว จึงวางแผนให้ร้ายหยางซิว!”

“ข่าวลือ” ท่านมู่รีบหันไปทางถังซิน และพูดด้วยความประหลาดใจ “เป็นความจริงหรอ เธอเคยแต่งงานกับหยางซิว?”

ถังซินพยักหน้า ในใจรู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูก

หลังจากที่ตอนนี้รู้ฐานะทางสังคมของท่านมู่ เธอพบว่าก่อนหน้านี้ลูกที่เขาพูดถึงก็คือมู่เฉินหย่วน แต่ว่าเธอเคยแต่งงานกับมู่หยางซิวประมาณหนึ่งปี มู่หยางซิวกับมู่เฉินหย่วนมีความสัมพันธ์กันเป็นลุงหลานแท้ๆ จะไม่ให้รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?

“พวกเธอ…”ท่านมู่ชี้ไปที่ถังซิน และมองไปที่มู่หยางซิว และพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ “ผู้หญิงที่ดีอย่างถังซิน ทั้งสวยและมีความสามารถ หยางซิวทำไมนายถึงต้องหย่า?”

“คุณลุงเข้าใจผิดจุดแล้ว มู่จิ่นหลิงรีบพูดขึ้นจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ สิ่งที่สำคัญก็คือ เธอเอาคลิปวิดิโอที่แอบคบกันของหยางซิวกับผู้จัดการแผนกวางแผนคนก่อนที่ชื่อเฉียวมั่นหลัวเผยแพร่ในบริษัทมู่ซื่อ เป็นเพราะข่าวอื้อฉาวนี้ ในตอนนั้นหุ้นของบริษัทมู่ซื่อผันแปรไปหลายวัน หยางซิวก็ถูกย้ายไปอยู่บริษัทที่เมืองหวยเป่ย”

“ฉันเข้าใจความหมายของเธอ” ท่านมู่พยักหน้า ได้เข้าใจจากคำพูดที่ตื่นตระหนกของมู่จิ่นหลิงไม่น้อย “เป็นการนอกใจระหว่างแต่งงานของหยางซิว ทำให้ภรรยาต้องแก้เผ็ด ใช่หรือไม่?”

“ใช่ค่ะ เป็นแบบนั้น แต่ว่าคุณลุง…”

“นั่นก็แสดงว่าความผิดอยู่ที่หยางซิว ถังซินคือผู้ได้รับความเสียหาย” ท่านมู่ขัดคำพูดของเธอ และมองมาที่มู่หยางซิว หยาบซิว “นายพูดออกมาเองซิ เธอแก้เผ็ดนายนั้นผิดใช่มั้ย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน