รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 237

ตอนที่ 237 นายกำลังโขกกับสายคาดเอวฉัน

“พ่อ ผมไม่ดีตรงไหน” ลู่เหวินซูไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ในเมื่อฉันพูดแบบนี้ ก็ต้องดูแลซูเจ๋เป็นอย่างดี พ่อไม่ชอบซูเจ๋หรอ?”

“ใช่ ตระกูลของเธอมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม” คุณพ่อมลู่เอ่ยขึ้น “บ้านเธอก็ไม่ได้มีบริษัทอะไร จะสามารถช่วยอะไรนายได้? นายอายุยังน้อย ยังคิดไม่ละเอียดรอบคอบพอ”

“พ่อแม่ของเธอเป็นถึงศาสตราจารย์ด้วยกันทั้งคู่ ตระกูลของเธอทำไมถึงไม่ดีหล่”ะ ลู่เหวินซูทนฟังน้ำเสียงแบบนี้ของพ่อไม่ได้ “พ่ออย่าพูดแรงขนาดนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่มุ่งไปหาเงิน”

และอีกอย่าง ตัวผมเองมีชื่อในบริษัทหลายแห่ง ทำกำไรได้มาก ถ้าพ่อกังวลแบบนี้ “พรุ่งนี้ผมจะเอาหุ้นในบริษัทลู่คืนให้พ่อ”

“ลู่เหยินซู ทำไมนายพูดกับพ่อแบบนี้?” คุณพ่อลู่ทั้งโกรธและโมโห ยื่นมือไปตบหน้าลู่เหวินซูแรงๆหนึ่งที “นายพูดอีกครั้ง!”

“ที่รัก!”

คุณแม่ลู่ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน หลังจากที่ได้สติ เธอรีบคว้าจับแขนของคุณพ่อมู่ เพื่อห้ามไม่ให้เขาลงมืออีก “เหวินซูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณนั่งลงก่อน”

คุณพ่อลู่ด่าขึ้นว่า “เขากระด้างกระเดื่องกับผมเพราะผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่ใช่ต่อต้านแล้วจะหมายความว่ายังไง?”

“เขาคิดว่าตอนนี้ตัวเองหาเงินเองได้แล้ว มีความสามารถแล้ว จึงไม่เห็นหัวพ่อ คนที่ปีหนึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นกี่สิบล้าน เพื่อที่จะให้เขากิน ซื้อของซื้อเสื้อผ้า ทำให้เขาได้เข้าโรงเรียนดีๆ ถ้าไม่มีพ่อคนนี้เขาจะมีวันนี้มั้ย?”

ลู่เหวินซูโดนคุณพ่อลู่ตบอย่างแรง ทำให้มุมปากมีเลือดไหลซิบ หลี่ซูเจ๋อยากที่จะช่วยเช็ดออก แต่ลู่เหวินซูกลับใช้มือขวางออก

ลู่เหวินซูใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปากออก ท่าทางเย่อหยิ่งไม่ยอมใคร “พ่อคือพ่อ ทุบตีผมก็เป็นสิ่งที่สมควร ถ้ายังไม่พอใจ ผมจะเอาแก้มข้างซ้ายยื่นให้พ่อตบอีก”

คุณพ่อลู่โกรธมาก “ไม่ว่านายจะเที่ยวเล่นยังไง นานแค่ไหนก็ตาม ถ้านายอยากจะแต่งงาน ก็แต่งกับลูกสาวของกลุ่มบริษัทคนที่มีเงิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาคุยกัน”

“ผมไม่แต่ง ถ้าพ่ออยากแต่งก็ไปแต่งเอง!”

“เหวินซู” คุณแม่ลู่ตำหนิเสียงดัง “หยุดก่อเรื่องวุ่นวาย ขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้!”

“พ่อดูถูกคนอื่นก่อน” ลู่เหวินซูเอ่ยขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความระอา “เป็นเพราะว่าพ่อเป็นแบบนี้ ผมถึงได้รังเกียจการแต่งงาน เอาทั้งชีวิตไปชดใช้เพื่อเงิน”

ลู่เหวินซูยิ้มอย่างเย็นชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พ่อคิดว่าผมรักและใส่ใจคนอย่างพ่อหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อก่อเวรก่อกรรมมาก แม่ผมคงไม่ถูกคนลักพาตัวไป และคู่ฝาแฝดก็คงไม่ตาย”

“นายไสหัวไป!” คุณพ่อลู่พูดตะคอกออกมา เขาโกรธจนพลิกคว่ำโต๊ะอาหาร

“ที่รักคุณอย่าโกรธเลย ลู่เหวินซูยังเด็ก” คุณแม่ลู่รีบกอดที่เอวของคุณพ่อลู่ คุณแม่ลู่ส่งสายตาไปทางหลี่ซูเจ๋ ให้หลี่ซูเจ๋ออกแรงบังคับลากตัวของลู่เหวินซูออกไป

พวกเขาออกมาจากบ้านยังได้ยินเสียงข้าวของตกแตกดังออกมา

สีหน้าของลู่เหวินซูเศร้ามาก ขึ้นรถไม่พูดไม่จา หลี่ซูเจ๋ก็ไม่เปล่งเสียงพูดออกมา

จากนั้นก็จอดรถที่ข้างๆทะเลสาบ

หลังจากที่หลี่ซูเจ๋ลงจากรถ ก็เดินลงไปตามบันได เห็นลู่เหวินซูยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ข้างราวจับ อีกมือหนึ่งจุดไฟแช็ก ควันสีขาวปกคลุมไปทั่วหน้าของเขา

เขาหน้าตาหล่อเหลา จริงๆแล้วสามารถทำให้ผู้หญิงหลงใหลคลั่งไคล้จนโงหัวไม่ขึ้นได้

“ขอโทษ” หลี่ซูเจ๋กอดเขาจากข้างหลัง แต่แววตากลับไม่มีความทุกข์ใจแม้แต่นิดเดียว “ฉันไม่ควรที่จะไปกินข้าวกับนายที่บ้านนายเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ” ลู่เหวินซูพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เขาเป็นคนแบบนี้แหละ เห็นแก่ตัว เพียงแค่เขาไม่ชอบอะไร เขาก็จะคิดว่าไม่ดีไปหมด”

ลู่เหวินซูหันหน้ามา ดึงเธอเข้ามาในอ้อมอก และใช้เสื้อกันลมห่มห่อเธอไว้ “ทะเลาะกันบ่อย ไม่ใช่เพราะเธอก็ยังมีเรื่องอื่นที่เป็นชนวน มา! ยิ้มหน่อย”

หลี่ซูเจ๋เขย่งเท้าและเงยหน้าจูบเขา

ลู่เหวินซูไม่เกรงใจอย่างแน่นอน เขาเอาฝ่ามือจับไปที่ท้ายทอยของเธอและจูบอย่างมีทักษะ ไม่นาน หลี่ซูเจ๋ก็เพียงแค่หายใจแรงอยู่ในอ้อมอกเขา

“อย่าสูบบุหรี่อีกเลย ไม่ดีกับปอด” หลี่ซูเจ๋แย่งบุหรี่ที่เขาใช้นิ้วคีบไว้มาบี้ดับ

ลู่เหวินซูแกล้งทำเป็นขู่ “แย่งของฉันหรอ? อืม?”

และจูบหลี่ซูเจ๋แรงๆอีกครั้ง และจูงเธอไปนั่งพักที่บนเก้าอี้ ถึงแม้ว่ารอบๆยังมีคนเดินผ่านมา ก็ยังไม่หลีกเลี่ยงที่จะให้หลี่ซูเจ๋นั่งลงบนตักเขาแม้แต่นิดเดียว

หลี่ซูเจ๋ผลักออกอยู่นาน เห็นว่าเขาไม่ปล่อยมือและทำหน้าทะเล้น จึงปล่อยเลยตามเลย

ทั้งสองคนคลอเคลียเข้าด้วยกัน เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ ยามค่ำคืน

หลี่ซูเจ๋ลูบผมของเขา พูดอย่างชะล่าใจขึ้นว่า “เมื่อสักครู่ที่นายพูดแบบนั้น คือนายยังมีน้องสาวหรือน้องชายหรอ?”

“ อืม “ลู่เหวินซูเอาหัวซบบนไหล่เธอ เดิมทีมีพ่อฉันใช้ความเกี่ยวพันธ์เพื่อแย่งเอาโครงการใหญ่มาจากบริษัทหนึ่ง ผู้จัดการใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามโกรธมาก จึงให้คนมาลักพาตัวแม่ฉันไป ตอนนั้นแม่ฉันกำลังตั้งท้อง ถูกคนลักพาตัวและยังถูกขู่ขวัญ เมื่อถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลก็แท้งลูกแล้ว ร่างกายเกิดปัญหาขึ้น จึงไม่สามารถมีลูกได้อีก”

“โลกของธุรกิจก็เหมือนสนามรบ ยากที่จะหลีกเลี่ยงการขัดแย้งทางประโยชน์” หลี่ซูเจ๋ถอนหายใจ “แต่พวกเขาทำเกินไป ที่มาแตะต้องเมียและลูก ! ก็ไม่ใช่ความผิดของพ่อนายทั้งหมด”

ลู่เหวินซูยิ้ม “เรื่องที่เขาทำนั้นมีเยอะมาก พูดออกมากลัวจะทำให้หูเธอสกปรก บางครั้งฉันก็คิดว่า มันเป็นเพราะว่าเขาทำเวรทำกรรมไว้เยอะ ดังนั้นกรรมจึงสนองมาที่แม่ฉัน”

“พ่อนายก็ทำเพื่อให้นายและแม่มีชีวิตที่สุขสบาย นายอย่าโทษเขาเลย” หลี่ซูเจ๋ดึงหูเขา “เป็นลูกไม่สามารถโกรธพ่อได้ตลอด พรุ่งนี้ก็ไปขอโทษ รู้มั้ย?”

“ไม่กลับ!”

“ลู่เหวินซู นายพูดอีกครั้ง” หลี่ซูเจ๋เพิ่มระดับเสียง “กลับไม่กลับ?”

“ก็ได้ ก็ได้ กลับ” ลู่เหวินซูเอาหัวซ่อนไปตรงหน้าอกเธอ เอาเปรียบอย่างหน้าไม่อาย และพูดขึ้นว่า “วันนี้เธอใส่เสื้อในอะไรอ่ะ ดูแข็งๆ”

นายกำลังโขกกับสายรัดเอวฉัน

ไม่น่าหล่ะฉันคลำไปไม่เจอเนื้อ ลู่เหวินซูพูดอย่างรังเกียจ ไม่เป็นไรแล้วเธอใส่สายคาดเอวทำไม

“ฉันชอบใส่ มีอะไรมั้ย!”

หลี่ซูเจ๋ต่อยลู่เหวินซูจนร้องเสียใจออกมาและไม่กล้าที่จะพูดบ่นอีก

ลู่เหวินซูเอาแหวนวงนั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และส่งให้ต่อหน้าหลี่ซูเจ๋ “นางฟ้าน้อย ฉันจริงจังนะ ฉันไม่สามารถสัญญาอะไรกับเธอได้ แต่เมื่อเราอยู่ด้วยกัน ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีแน่นอน”

หลี่ซูเจ๋มีความลังเลใจ แต่ไม่นาน ความลังเลทั้งหมดก็ถูกความแค้นปกคลุม

“ได้” เธอยื่นมือออกไป

แหวนวงนั้นได้ไปอยู่บนนิ้วนางที่เรียวยาว เพชรเมื่ออยู่ใต้แสงไฟแล้ววิบวับมาก ลู่เหวินซูจูบที่มือเธอ และจูบเธออีกอย่างหน้าไม่อาย

เสียงของลู่เหวินซูแฝงไปด้วยความต้องการ เขาพูดเสียงแหบๆออกมาว่า “คืนนี้ไม่กลับบ้าน ได้มั้ย?”

หลี่ซูเจ๋สองจิตสองใจ และเอ่ยถามว่า “บ้านของนายที่นั่นปลอดภัยมั้ย ฉันไม่อยากจะโดนอะไรแบบนั้นอีก…อายมากแล้ว”

“ปลอดภัยแน่นอน ฉันรับรอง ฉันตรวจดูหมดแล้วทั้งด้านนอกและด้านใน” ลู่เหวินซูอุ้มเธอออกไปอย่างมีพลัง มีแผนกลับบ้านไปพลอดรัก สุดท้าย เมื่อกำลังจะขึ้นรถ ก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง

หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ สีหน้าของลู่เหวินซูก็ดูไม่สบายใจขึ้นมา

เขาปัดผมสองทีและพูดกับหลี่ซูเจ๋ขึ้นว่า “พี่รองฉันเป็นบ้าอีกแล้ว ฉันต้องไปที่คลับเฮ้าส์”

“นายไปเถอะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเรียกรถกลับเอง”

“ทำแบบนั้นได้ยังไง”

ลู่เหวินซูส่งหลี่ซูเจ๋กลับบ้าน จากนั้นลงรถก็กอดและจูบเธออย่างแรง และพูดอย่างน่าสงสารขึ้นว่า “เดิมทียังอยากที่จะให้เธออยู่ปลอบฉัน ความปรารถนาดับสูญ”

“พอได้แล้ว นายไปเถอะ” หลี่ซูเจ๋ผลักเขาไป และพูดด้วยแก้มแดงก่ำ “ครั้งหน้าก็เหมือนกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน