รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 25

บทที่ 25 ฉากเด็ด

ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่เธอเองไม่เคยไปทำเรื่องไม่ดีกับคุณอามู่ไว้

ห้องนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์นุ่มและเหมาะกับการนอน คืนนี้ถือว่าถังซินได้นอนอย่างสบาย พอตื่นมาก็ได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆเดินไปเดินมาและมีเสียงโอกเอกโวยวาย

ฉากเด็ดๆเริ่มขึ้นแล้วหรอ?

ถังซินยิ้มอ่อนๆ แบบไม่ได้รีบร้อนอะไร ค่อยๆอาบน้ำล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าแต่งตัวปกติ เอาแหวนที่มู่หยางซิวให้มาสวมไว้ที่นิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะเปิดประตูห้อง

มีกลุ่มของนักข่าวมายืนรวมกันอยู่แถวทางเดินเท้าและมู่หยางซิวก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

มู่หยางซิวไม่ทันได้สังเกตถังซินที่ออกมาจากห้องข้างหลังเขา แต่กลับพูดกับกลุ่มนักข่าวด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองว่า “ ทุกคนครับ ผมรู้ว่าเรื่องที่แย่ๆภายในครอบครัวไม่สมควรเอาออกมาพูด แต่ว่า ภรรยาของผมทำเกินไปแล้ว”

“ ผมอยู่ข้างนอกทำงานเพื่อหาเงินอย่างทุกข์ยากลำบาก, เขาไม่เคยคำนึงถึงความยากลำบากของผมเลย และยังทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก ตอนนี้ผมสงสัยว่าเด็กในครรภ์ของเธอก็น่าจะไม่ใช่ลูกของผม”

มู่หยางซิวทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูน่าสงสาร เป็นสามีที่ถูกสวมเขา นักข่าวรอบๆนั้นล้วนแต่ออกแนวเห็นใจ ส่วนถังซินก็ยืนดูอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

ฝีมือการแสดงของมู่หยางซิวนี่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับรางวัลออสการ์การแสดงดีเด่น

พอได้คำชักจูงจากนักข่าวแล้ว มู่หยางซิวก็ถอยไปสองสามก้าวก่อนจะหันไปถีบประตูแถมยังได้นักข่าวมาช่วยอีกแรง ถีบไม่กี่ครั้งประตูก็เปิดออกแล้วกลุ่มคนก็พากันพุ่งกันเข้าไป

ถังซินเดินเข้าไปในห้องนอนและมองไปที่ใต้ผ้าห่มที่นูนออกมา แววตาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความตื่นเต้นออกมา

เธอจบแน่ ถังซิน!

“ถังซิน เธอทำอะไรหน่ะ!! ” มู่หยางซิวตะโกนอย่างดัง ก่อนจะดึงผ้าห่มออก ก็เผยให้เห็นคนสองคนที่นอนเปลือยอยู่ แต่ไม่นานภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาตะลึง

ผู้หญิงบนเตียงนั่นไม่ใช่ถังซินแต่เป็นเฉียวมั่นหลัว!

พวกนักข่าวบริเวณรอบๆต่างพากันถ่ายรูป เสียงปิดประตูปลุกให้มู่หยางซิวมีสติ เขาคิดว่าตัวเองโดนหักหลังซะแล้ว และกระชากผมของเฉียวมั่นหลัวไปตบอย่างแรง

เพี๊ยะ!

การตบไปหนักๆนั่น ทำให้เฉียวมั่นหลัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

เฉียวมั่นหลัวมึนไปสักพัก หลังจากนั้นก็พบว่าบริเวณรอบๆมีกลุ่มคนซุบซิบนินทา และมีมู่หยางซิวสีหน้าค่อนข้างโกรธ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาและเฉินเสียงนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง

“ อร๊ายยย !! ”เฉียวมั่นหลัวกรีดร้องและรีบดึงผ้าห่มมาปกปิดตัวเอง “ ทำไมเป็นแบบนี้? ฉันมาอยู่กับเขาได้ยังไง ไม่ควรจะเป็นชั้นสิ! ”

“ไม่ใช่เธอจะเป็นใครอีก! เธอคิดว่าพวกเราตาบอดหรอ? ” มู่หยางซิวพูดอย่างโหดเหี้ยม “ ไม่เลวนี่ เฉียวมั่นหลัว คืนเมื่อวานบอกว่าทางบ้านมีธุระ ให้ฉันพักอยู่ที่โรงแรม แล้วสุดท้ายเธอก็หนีไปนอนอยู่กับผู้ชาย?”เฉียวมั่นหลัวตกใจมากก่อนจะกรีดร้องแล้วพูดขึ้น : “ ฉันได้พูดแบบนั้นเมื่อไหร่กัน? และคุณนั่นแหละที่ส่งข้อความหาฉันว่าให้มาหาที่โรงแรม, ฉันคิดว่าเป็นคุณ….”

“ ฉันไม่เคยส่งข้อความแบบนั้นสักหน่อย! ”

ทั้งสองต่างทะเลาะกันขึ้นมา จนเฉียวมั่นหลัวรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ เธอหยิกเฉินเสี่ยงอย่างแรงให้เขาสะดุ้งตื่น “ เมื่อคืนนายอุ้มเขามาที่โรงแรมไม่ใช่รึไง แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้? ”

“ ฉัน..ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ! ” เฉินเสียงรู้ว่าตื่นมาจะต้องโดนถ่ายรูป แต่ไม่รู้ว่าเรื่องมันจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้ และอีกอย่างเขาก็มั่นใจว่าเขาเข้ามาที่ห้องนี้กับถังซินจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นเฉียวมั่นหลัวได้

นักข่าวเห็นว่าเรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ,ก็ยิ่งกระตือรือร้นกับการถ่ายรูปมากขึ้น

ถึงขนาดมีนักข่าวถามขึ้นมาว่า “ คุณมู่หยางซิวครับ, คนที่พวกคุณพูดขึ้นมาเมื่อกี้เป็นใครครับ? และ พอคุณมู่เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ก็รู้สึกว่าคุณจะโกรธมาก คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าครับ?”

เมื่อกี้ตอนเฉียวมั่นหลัวกับมู่หยางซิวทะเลาะกันไม่ทันได้สนใจนักข่าวบริเวณรอบๆ นึกถึงเรื่องที่พูดเมื่อกี้แล้วพวกนักข่าวคงได้ยินหมดแล้วสิ, สีหน้าซีดแล้วซีดอีก

“ทุกคนคะ ฉันกับคุณมู่เป็นแค่เพื่อนสนิทกันแค่นั้นเองค่ะ” เฉียวมั่นหลัวกัดฟันพูด,และผลักเฉินเสี่ยงออกไป, “เขาคิดว่าฉันโดนเพื่อนร่วมงานคนนี้หลอกมา,เลยเข้ามาช่วยฉันแค่นั้นเอง”

สายตาพวกนักข่าวดูแปลกประหลาดใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน