รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 253

บทที่ 253 ผู้ชายคนนี้หึงเข้าแล้ว

“ถ้างั้นต่อไปถ้าฉันว่าง น้องแร็กดอลล์ไปเยี่ยมแม่มันนะคะ” ถังซินพูด “ถ้าคุณไปนิวยอร์ก ใช้วีแชทไม่สะดวก เรามาแอดอินสตาแกรมกันดีกว่าค่ะ”

พูดแล้วก็ควักมือถือออกมา

ดวงตาดำขลับของมู่เฉินหย่วนมองผู้ช่วยจางแววตาสื่อความหมายอย่างชัดเจน

ผู้ช่วยจางเข้าใจทันที

เถ้าเขาแอดถังซินเป็นเพื่อนในอินสตาแกรม เกรงว่าต้องแกร่วอยู่ที่สาขานิวยอร์กสองสามปี เลยได้แต่บอกกับถังซินไปว่า “คุณถังครับ ผมไม่เล่นอินสตาแกรม และก็ไม่มีแอคเคาท์ด้วยครับ”

“เอ่อคืออะไรดีล่ะ ทางนิวยอร์กขาดคน ผมไปแล้วก็คงยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่างหรอกครับ คุณมีปัญหาอะไรถามประธานมู่ได้นะครับ ประธานมู่มีความรู้ความสามารถหลายด้าน เก่งกว่าผมอีกครับ”

ถังซินมองแรงอย่างเหยียด ๆ ใส่มู่เฉินหย่วนแว๊บหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าคุณเก่งมากเลยนะคะ”

“คุณถัง คุณอย่ายอผมโดยไม่มีเหตุผลสิครับ ผมได้จากประธานมู่ทั้งนั้นแหละครับ” ผู้ช่วยจางเหงื่อแตกเต็มหัว ขืนเขายังไม่ไปอีกต้องโดนมู่เฉินหย่วนจำเอาไว้แน่ “ผมไปเก็บของก่อนนะครับ”

หันตัวเผ่นออกไปอย่างรวดเร็ว

ถังซินพึมพำ ๆ “ดูท่าทางของเขาสิคะ ทำไมเมินใส่ฉันล่ะ ฉันน่าเกียจขนาดนี้เลยเหรอคะ”

“คุณถัง เขาไปแล้วนะ” เส้นเลือดดำที่หน้าผากของมู่เฉินหย่วนกระตุกตลอด

เขารู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้มองใครโอเคไปหมด แต่พอมองเขากลับทำท่ารังเกียจ

“ฉันรู้ค่ะ คุณไม่ต้องบอกหรอก” พอถังซินเห็นเขาก็นึกถึงจูบเมื่อครู่นี้ สีหน้าก็ไม่เป็นปกติ เอานิ้วถูกันอย่างไม่รู้ตัวแต่กลับพบว่านิ้วโล่ง

“เอ๊ะ แหวนของฉันละ”

มู่เฉินหย่วนแอบเอาแหวนหย่อนลงในกล่องในปากกาเงียบ ๆ “หล่นหายไปไหนหรือเปล่า”

“เป็นไปได้ยังไงคะ ขนาดกำลังพอดีเลยนะคะ” ถังซินมองเขาอย่างสงสัย “ตอนที่คุณจูบฉันเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าจะลูบมือฉันด้วยหรือว่า...”

มู่เฉินหย่วนสีหน้าไม่เปลี่ยน “ผมมือนึงก็ล็อกท้ายทอยคุณ มือหนึ่งก็ยันบนโต๊ะ ไม่เหลือไหนว่าง คุณเข้าใจผิดแล้วละ”

“แต่คุณลูบ...ชัด ๆ เลยนะ”

“ถ้างั้นก็ลองดูอีกทีสิ เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง” ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าไปใกล้เธอ

“ไม่ต้องหรอก”

ถังซินกลัวว่าเขาจะทำอะไรมาก รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้มหน้าหาบนพรมไปทั่ว

เธอหาไปทั่วห้องทำงานทุกตารางนิ้วแต่ก็หาไม่เจอจึงพูดด้วยความไม่สบายใจว่า “ต่อให้แหวนหลุดออกจากนิ้วก็ไม่น่าจะหายมั้งคะ”

มู่เฉินหย่วนค่อย ๆ กินอาหารกลางวันอย่างช้า ๆ แล้วก็มองเธอแว๊บหนึ่ง “หล่นไปแล้วก็ช่างมันเถอะ แต่แหวนบอกพิกัด เดี๋ยวผมหาคนทำให้คุณวงหนึ่งเอง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะให้น้องชายทำให้”

“ถังซิน” ชายหนุ่มผู้เสียงทุ้มต่ำลงมานิดหน่อย “หลังจากที่คุณเข้ามาอยู่ในตระกูลมู่แล้ว ผมก็คือเจ้านายของคุณ ผมต้องใส่ใจความปลอดภัยของคุณอยู่แล้ว คุณอย่าไปรบกวนของคุณเลย”

หลังจากที่ฟังเขาพูดมาจนถึงตอนนี้ถังซินก็เข้าใจแล้วว่า

ผู้ชายคนนี้กำลังหึงอยู่

เขาต้องซ่อนแหวนเอาไว้แน่นอนก็เพราะว่าเวลาเธอตกอยู่ในอันตรายก็ชอบเรียกหาแต่กวนชิงเฟิง พึ่งกวนชิงเฟิงแต่มองเขาเป็นคนไร้ตัวตนเขาเลยไม่พอใจ

ทันใดนั้นถังซินก็อารมณ์ดีขึ้นมา

เธอเม้มปากยิ้ม ๆ จากนั้นก็ทำเป็นพูดอย่างจนปัญญา “หายไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ ถ้างั้นก็รบกวนประธานมู่ด้วยนะคะ”

มู่เฉินหย่วนได้ยินแล้วก็รู้สึกสบายใจ

ไม่นาน ประตูห้องทำงานท่านประธานก็ถูกเคาะอีก เสียงอันประหม่าของผู้ช่วยจางลอดเข้ามา

“ประธานมู่ครับ เข้าไปได้ไหมครับ”

“เข้ามา”

ผู้ช่วยจางเปิดประตูอย่างระมัดระวัง พอไม่ได้เห็นภาพอันเร่าร้องอะไร ถึงได้ทำหน้าโล่งอกสบายใจ เขาส่งบัตรเชิญสีทองให้ถังซินหนึ่งใบ ส่วนอีกใบก็ให้มู่เฉินหย่วน

“เสาร์หน้าตระกูลส้งโจวจี้จัดงานเลี้ยง เชิญประธานมู่กับคุณถังทั้งสองท่านไปร่วมงานด้วยครับ”

“ตระกูลส้งก็เชิญฉันด้วยเหรอคะ” ถังซินรับซองบัตรเชิญสีทองที่ผู้ช่วยจางให้มา พอเปิดออกแล้วเห็นคำเชิญที่เขียนด้านล่าง : ท่านประธานใหญ่แห่งตระกูลส้งส้งจิ้งเหอ ก็ตาโตอ้าปากค้าง

เธอพูดอย่างอึ้ง ๆ “คุณส้งได้ตระกูลส้งมาแล้วเหรอคะ”

มู่เฉินหย่วนด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก่อนหน้านี้เขาก็มีหุ้นของตระกูลมู่อยู่ในมือยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ ภายหลังก็ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นคนอื่นบางส่วนอีก จึงมีหุ้นอยู่ในมือเต็ม ๆ ห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ผู้ถือหุ้นตระกูลมู่ครึ่งหนึ่งสนับสนุนเขา ทำให้เปิดประชุมผู้ถือหุ้นเปลี่ยนคนนั้นง่ายมาก”

“เก่งจังเลยค่ะ”

ถังซินนับถือส้งจิ้งเหอจริง ๆ จากลูกเมียน้อยที่ไม่มีใครยอมรับจนกลายเป็นประธานใหญ่ของตระกูลมู่ เป็นการอัพเกรดตัวเองอย่างงดงามมาก

เธอพูอย่างปลง ๆ “ที่ฉันประสบความสำเร็จมากได้ขนาดนี้ก็เพราะได้เข้ามาเรียนรู้ในตระกูลมู่อันสูงส่ง แถมยังได้พวกคุณเป็นแบ็คอัพช่วยเหลือด้วย คุณส้งดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเองแต่กลับคว้าตระกูลมู่ทั้งหมดมาได้”

ก็เพราะว่ามีคุณแม่ที่ฉลาดขนาดนี้ ฉางผิงถึงได้ฉลาดและสุขุมเยือกเย็นตั้งแต่ยังเล็กแต่น้อย

“เขาก็แค่ใจแข็งกับตัวเองเท่านั้น คุณไม่ต้องไปเลียนแบบเขาหรอก” มู่เฉินหย่วนพูด “ผมหวังว่าถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็ถามผม ให้ผมได้แบ่งเบาปัญหาของคุณด้วย อย่าแบกมันเอาไว้คนเดียว”

ส้งจิ้งเหอเป็นคนฉลาด มีลูกไม้แพรวพราว แต่ตั้งแต่เข้าตระกูลส้งไปจนคว้าตระกูลส้งมาได้ ที่ก้าวหน้าไปได้อย่างราบรื่นก็เพราะวี่เหวินถิงปูทางให้ ถ้าวี่เหวินถิงไม่ได้จัดการผู้ถือหุ้นครึ่งนั้นของตระกูลมู่เอาไว้ กว่าส้งจิ้งเหอจะคว้าตระกูลส้งมาได้อย่างน้อยต้องใช้เวลาสามปี ซึ่งทำให้ต้องเสียแรงไปไม่น้อยเลย

ผู้ช่วยจางถอยหลังออกไปเงียบ ๆ

ถังซินโดนคำพูดของชายหนุ่มทำให้จุกจนหายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็ว พักใหญ่ถึงหาเสียงของตัวเองกลับมาได้ “ประธานมู่คะ คุณดูแลตระกูลมู่ให้ดี ๆ ก็พอดีค่ะ เรื่องเล็กน้อยของฉัน ฉันจัดการเองได้ค่ะ”

“...”

มู่เฉินหย่วนแอบถอนหายใจอยู่ในใจ บอกกับตัวเองว่าช่างมันเอง ต่อไปยังมีเวลาอีกมา อย่าใจร้อน

เขาดึงลิ้นชักออก หยิบเอาป้ายชื่อฝังเพชรออกมาหนึ่งอันแล้วยื่นให้ถังซิน

มันคืออันที่เขาให้ถังซินก่อนหน้านี้นั่นเอง

มู่เฉินหย่วนพูด “ก่อนหน้านี้คุณไปเร็ว ผมเลยไม่ทันได้พูด ป้ายชื่ออันนี้ให้คุณนะ มันอยู่ในลิ้นชักของผมมานานมากแล้ว หวังว่าคุณจะไม่ปล่อยให้มันฝุ่นเกาะอีกนะ”

ถังซินนึกถึงเรื่องเหล่านั้นในสมัยก่อนแล้วก็เม้มปาก “มันไม่ใช่ของตระกูลมู่หรอกเหรอคะ”

“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ” มู่เฉินหย่วนหุบยิ้ม “ผู้ช่วยจางเอาแคตตาล็อกจิวเวอร์มาให้ผมดู ผมเดาว่าคุณน่าจะชอบอันนี้ถึงได้ซื้อมา ปราสาทเพชรหลังนั้นก็เช่นกัน”

ที่แท้ก็เป็นของขวัญที่ให้เธอจริง ๆ

ถังซินรู้สึกโล่งใจ แต่ก็อดที่จะถามอีกไม่ได้ “ถ้าฉันไม่ชอบล่ะคะ”

“เมื่อก่อนผมเห็นคุณชอบมากไม่ใช่เหรอ” มู่เฉินหย่วนขมวดคิ้ว “ได้ข่าวว่าผู้หญิงชอบของที่มันวิบวับ ๆ นี่ยังวิบวับ ๆ ไม่พออีกเหรอ ถ้างั้นผมติดต่อบริษัทจิวเวอร์รี่ให้พวกเขาฝังเพชรให้มากกว่านี้นะ”

“นั่นโอเวอร์เกินไปแล้วค่ะ คนเห็นเขาจะหัวเราะเอาได้นะคะ” ถังซินมองบนใส่เขาแล้วหยิบป้ายชื่อฝังเพชรนั้นมาเอานิ้วมือลูบ ๆ จากนั้นก็เอาไปใส้ที่คอ

นัยน์ตาของมู่เฉินหย่วนฉายรอยยิ้มบาง ๆ อยู่

ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคนจะยังไม่ได้คืบหน้าไป แต่ของขวัญชิ้นนี้ได้กลับไปอยู่ในมือของเธอก็เพียงพอแล้ว

ผู้ช่วยจางเข้ามาห้องทำงานท่านประธานเป็นครั้งที่สาม คราวนี้เอาสัญญาจ้างของถังซินมาให้

ถังซินเซ็นชื่อแล้วก็อดที่จะพูดกับมู่เฉินหย่วนไม่ได้ “สาขานิวยอร์กขาดคน คุณส่งคนอื่นไปก็ได้นี่คะ ฉันเห็นผู้ช่วยจางยุ่งมากนะคะ อย่าส่งเขาไปเลยนะคะ”

ผู้ช่วยจางพยักหน้าอย่างหนักอยู่ในใจ

เขาเอาของมาส่งที่ห้องของท่านประธานเรื่อย ๆ ก็เพราะหวังว่ามู่เฉินหย่วนจะมีเมตตา ไม่ให้เขาไปนิวยอร์ก

“เขาคือผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่อยู่ข้าง ๆ ผม ส่งเขาไปถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว” มู่เฉินหย่วนพูด

ต่อไปถ้าถังซินมาอยู่ตระกูลมู่อย่างถาวร ถ้าเขาไม่ส่งผู้ช่วยจางไปสาขานิวยอร์ก หรือว่าต่อไปจะให้เขาเห็นถังซินคุยกับผู้ช่วยจางทุกวันหรือไง ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่พอใจเอามาก ๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน