รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 252

บทที่ 252 มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่ทำอาหารให้คุณกินเอง

ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปห้องทำงาน ถังซินก็คิดว่าถ้าขึ้นไปแบบนี้ก็จะดูโฉ่งฉ่างมากเกินไป จึงคุยกับเพื่อน ๆ ในแผนกฝ่ายบุคคลที่เจอกันก่อนหน้านี้ที่ชั้นลอยสองสามประโยค

หลังจากที่ตระกูลมู่ปฏิรูปใหม่ แผนกฝ่ายบุคคลไม่ได้ปลดออก คนในแผนกยังคงอยู่ตรวจสอบเรื่องเหล่านั้น

เพราะว่างานมีไม่มาก เวลาส่วนใหญ่ของทุกคนก็เลยว่าง

เพื่อนคนนั้นยังเรียกถังซินว่าผู้จัดการด้วย “ผู้จัดการ” เมื่อไหร่จะกลับมาล่ะ แผนกพวกเราขาดผู้นำ งานก็ไม่เยอะ ทุกวันกลัวโดนไล่ออกจะแย่อยู่แล้ว”

ถังซินหัวเราะ พูดอย่างสงวนท่าทีว่า “ฉันมาที่ตระกูลมู่ความจริงมีเรื่องต้องจัดการ แต่จะจัดการยังไง ฉันต้องดูประธานมู่ ฉันขึ้นข้างบนก่อนนะ”

พอเดินจากมาเธอก็หยิบมือถือส่งวีแชทหาผู้ช่วยจาง

ตอนนี้มู่เฉินหย่วนกำลังใช้แอคเคาท์วีแชทนี้อยู่ เพราะฉะนั้นก็เท่ากับว่าเธอส่งข้อความไปให้มู่เฉินหย่วนนั่นเอง

ถังซิน : ผู้ช่วยจางคะ ยุ่งหรือเปล่าคะ ช่วยเอาอาหารกลางวันขึ้นไปให้ประธานมู่หน่อยสิคะ ชั้นดาดฟ้าคนเยอะมากเลย ถ้าเขาเห็นฉันเขาจะนินทาเอาค่ะ”

มู่เฉินหย่วนเห็นข้อความแล้วไม่พอใจ

จริง ๆ เลย ผู้หญิงคนนี้คุยกับผู้ช่วยจางอย่างหน้าชื่นตาบานจังเลยนะ คุยกันทุกเรื่องไปหมด หลบหน้าเขาอย่างกับอะไรดี ยังจะกลัวคนอื่นรู้อีกเหรอ เขาทำอะไรผิดศีลธรรม ผิดกฎหมายหรือไง

มู่เฉินหย่วนตอบ : คุณถัง คุณมาส่งเองดีกว่าครับ ผมงานเยอะมากเลย เดี๋ยวบ่ายก็ต้องไปแล้วครับ

ถังซิน : ถ้างั้นคุณเรียกให้เลขาลงมาสิ

มู่เฉินหย่วนตอบ : คุณถัง ประธานมู่ของพวกเราทำอะไรไม่ดีเหรอครับ อีกอย่าง คุณอยากกลับตระกูลมู่ไม่ใช่เหรอ หรือว่าต่อไปทำงานไม่ต้องรายงานประธานมู่แล้วเหรอครับ”

ถังซิน : โอ๊ย ๆ ๆ ประธานมู่ของพวกคุณนี่ช่างปากสว่างจริง ๆ ไม่ได้เรื่องยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก

มู่เฉินหย่วนคิดในใจ ฉันพูดเองถือว่าไม่นับใช่ไหม

ถังซินตอบโต้กับ “ผู้ช่วยจาง” อยู่นานสุดท้ายก็โมโหจนปิดวีแชทแล้วค่อย ๆ ย่องขึ้นชั้นดาดฟ้าไป

คิดไม่ถึงเลยว่าแผนกเลขาตรงนี้จะไม่มีอะไร ทางเดินสงบเงียบมาก

เธอเคาะ ๆ ประตู

เสียงเข้มของมู่เฉินหย่วนดังออกมาจากด้านใน “เข้ามา”

หลังจากที่เข้าห้องทำงานมาได้ ถังซินก็เป็นชายหนุ่มยังคงก้มหน้าทำงานอยู่หลังโต๊ะ ดูเอกสารไวมากอย่างตั้งอกตั้งใจ นิ้วเรียวยาวแข็งแรงจับปากกาอยู่

ผู้ชายที่กำลังทำงานอยู่ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

ถังซินคิดในใจจ้องมองชายหนุ่มสักพักแล้วเอาอาหารกลางวันไปวางบนโต๊ะเงียบ ๆ พอจะหันตัวไปก็มีเสียงของมู่เฉินหย่วนที่อยู่ด้านหลังดังขึ้นมา

“จะรีบไปไหนเหรอ”

“เห็นคุณกำลังทำงานอยู่เลยอยากออกไปเดินเล่นรอบ ๆ ก่อนค่อยเข้ามาค่ะ” พอเธอพูดขึ้นมาเห็นว่าไปไม่ได้แล้วก็เลยหันกลับไปเปิดกล่องอาหารกลางวันให้เขา แล้วหยิบข้าวออกมา ปากก็บ่นอุบอิบไปด้วย “คุณนี่มันขี้เหนียวจริง ๆ กินข้าวไม่สั่งเลขาตัวเอง ต้องให้ฉันซื้อข้าวมาส่งให้ได้”

แน่นอนว่ามู่เฉินหย่วนได้ยินอยู่แล้ว

ชายหนุ่มยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีแล้วพูดค่อย ๆ พูด “ตอนห้าโมงเย็นมีการประชุมผู้บริหารระดับสูง ผมนึกว่าคุณถังอยากเข้าประชุมด้วยเสียอีก ในเมื่อคุณถังไม่ว่าง ถ้างั้นก็ไปทำธุระเถอะ”

“ฉันไม่ยุ่งเลยสักนิด มีเวลาประชุ่มตอนเย็นค่ะ” ถังซินรีบตอบ ดันข้าวไปตรงหน้าเขาเหมือนกับจะเอาใจ “ข้าวร้านนี้อร่อยมากเลยนะคะ ประธานลองชิมดูนะคะ”

“ผมไม่กล้าใช้เงินของคุณถังหรอก”

ถังซินมองบนใส่ชายหนุ่มอยู่ในใจแต่หน้ายังคงยิ้มอยู่ “ข้าวที่สั่งมานี้ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ถ้าประธานมู่ชอบ วังหลังฉันซื้อให้คุณอีกก็ได้นะคะ”

มู่เฉินหย่วนส่งเสียง “หึ” ออกมา “ข้าวกล่องกินครั้งสองครั้งได้อยู่ แต่ถ้ามากครั้งเข้าผมก็ไม่ชอบหรอก”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำให้ประธานมู่ได้ค่ะ” ถังซินยิ้มแก้มแทบแตก หายใจลึก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า “ฉันเป็นคนชอบทำอาหารมากที่สุดเลยค่ะ ถ้าประธานมู่ยอมทาน ก็ถือว่าเป็นเกียรติของฉันแล้วค่ะ”

“ในเมื่อคุณถังชอบทำอาหารขนาดนี้ ต่อไปวันละสามมื้อของผมก็คงต้องรบกวนคุณถังแล้วละ” ในที่สุดชายหนุ่มก็แยกตะเกียบ ยอมทานลองทานข้าวกล่องเหล่านี้

ถังซินยังคงยิ้มอยู่

รอให้เข้ามาทำงานก่อนเถอะ มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่ทำอาหารให้คุณ ไอ้ข้าวกล่องมันเนี่ย อยากกินก็ไม่กินไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน!

มู่เฉินหย่วนกินซุปไปหนึ่งคำก็ขมวดคิ้วทันทีแล้วพูดอย่างรังเกียจว่า “ผงชูรสเยอะมาก”

“ไม่มั้งคะ” ถังซินหยิบช้อนตัดชิมหนึ่งคำ ซุปอร่อยมาก “อร่อยดีนี่คะ ประธานมู่เลือกกินมากกว่ามั้งคะ นี่มันอาหารกลางวันจากร้านจิ่นซือจี้เลยนะคะ”

“น่าจะชินกับอาหารที่คุณทำเลยกินข้าวกล่องแล้วไม่ถูกปาก”

ถังซินอึ้งไปเลย โดนแซวจนหน้าร้อนผ่าวรีบเทน้ำแล้วดันไปให้ “ถ้างั้นคุณดื่มน้ำหน่อยนะคะ”

ระหว่างที่มู่เฉินหย่วนกินอาหารกลางวันอยู่ก็ถามเธอขึ้นมา “แม่คุณเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“ฟื้นตัวดีมากค่ะ ไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ” ถังซินตอบและก็เล่าเรื่องที่โมมอยอี้มาหาเธอให้เขาฟังไปด้วย “เธออยากให้ฉันถอนฟ้องกวนลี่หลั่ง แต่ฉันไม่เห็นด้วยค่ะ”

มู่เฉินหย่วนสายตาดูซีเรียสขึ้นมา “คนที่แต่งงานกันมักจะมีความคิดคล้ายกัน มันยากที่เธอจะไม่พาลโกรธแบบนั้นเหมือนกับกวนลี่หลั่งแล้วลงมือกับคุณนะ”

พอหยุดพูดสักพัก เขาก็ถือโอกาสร้องขอ “คุณย้ายไปอยู่บ้านผมนะ จะได้ปลอดภัยหน่อย”

“ไม่ไปค่ะ ฉันอยู่คอนโดดีอยู่แล้วค่ะ” ถังซินปฏิเสธ

ถ้าเธอย้ายไปอีกจริง ๆ ก็เท่ากับยอมรับมู่เฉินหย่วน เธอยังคิดเรื่องนั้นไม่ตกเลย

ริมฝีปากบางของมู่เฉินหย่วนขยับมุบมิบอยากจะพูดอะไรออกมา

แต่ถังซินชิงพูดขึ้นก่อน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันใส่แหวนที่ชิงเฟิงให้อยู่ อีกอย่างฉันคิดว่าโมมอยอี้เขาไม่ใช่คนไม่ดีด้วย”

“ถ้าเขาอยากทำอะไรจริง ๆ เขาจะบอกคุณเหรอ” มู่เฉินหย่วนหัวเราะอย่างเย็นชา ดูเหมือนจะโกรธ “ตอนนั้นคุณก็คิดว่ากวนลี่หลั่งไม่น่าทำอะไรเหมือนกัน เขายังหาคนมาลักพาตัวคุณไปโรงพยาบาลเลยนะ น้องชายคุณไม่ต้องไปอยู่กับแฟนหรอกเหรอ จะเอาเวลาที่ไหนมากมายมาจัดการปัญหาให้พี่สาวอย่างคุณล่ะ”

“ทำไมคุณต้องเหวี่ยงใส่ฉันด้วยล่ะ” ถังซินโดนเขาเหวี่ยงใส่อย่างไร้เหตุผล “ฉันไม่ได้ขัดขวางความรักของพวกเขาสักหน่อย อีกอย่างฉันว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นก็จะได้ติดต่อเขาได้เลย”

“คุณเปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่ได้เหรอ”

“นั่นมันน้องชายแท้ ๆ ของฉันนะ มีแค่เขาช่วยเหลือก็พอแล้ว ทำไมฉันต้องเปลี่ยนคนด้วยล่ะ”

ดวงไฟจากที่ไหนไม่รู้ลุกโชนขึ้นมาในใจของมู่เฉินหย่วน เขาวางตะเกียบลงแล้วพูดกับถังซินว่า “เธอมานี่สิ”

ถังซินไม่ขยับแถมยังหมุน ๆ แหวนที่นิ้วด้วย

“คุณมีอะไรก็พูดสิคะ”

ท่าทางแบบนี้ทำให้มู่เฉินหย่วนโมโหจนลุกขึ้นไปกดถังซินลงไปช้อนท้ายทอยของเธอแล้วจูบเธออย่างหนักหน่วง

ฉวยโอกาสขณะที่ถังซินกำลังงง ๆ ดึงแหวนบนนิ้วของเธอลงมา

“ประธานมู่...”

ผู้ช่วยจางเคาะ ๆ ประตู แล้วก็เข้ามาเลย อยากจะพูดอะไรแต่พอเห็นภาพอันโจ๋งครึ่มก็ป้าปากค้างจากนั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว

มู่เฉินหย่วนปล่อยมือออก เหลือบมองผู้ช่วยจางอย่างไม่พอใจแว๊บหนึ่ง

ผู้ช่วยจางพูดไม่ออก เกลียดตัวเองมากที่ไม่รอข้างนอกก่อนสักสองวินาที เขาพูดอย่างระมัดระวังว่า “ถ้างั้นอะไรดีล่ะ ถ้างั้นให้ผมปิดประตูแล้วเข้ามาใหม่ไหมครับ”

“ไม่ต้องหรอก เข้ามาสิ”

ผู้ช่วยจางรีบเข้าไป วางเอกสารลงแล้วรีบรายงานอย่างรวดเร็ว “ประธานมู่ครับ ผมฝากงานไว้ให้แผนกเลขาแล้วนะครับ ต่อไปเลขาเหอจะรับผิดชอบตารางงานทุกอย่างของท่าน เที่ยวบินไปนิวยอร์กของผมคืนนี้สองทุ่มครับ”

ถังซินลืมเรื่องที่โดนจูบอย่างหนักหน่วงไปชั่วขณะแล้วหันหน้าไปมองผู้ช่วยจาง “คุณไปนิวยอร์กทำไมคะ”

“คนที่สาขานิวยอร์กไม่พอครับ” ผู้ช่วยจางแอบร้องไห้ แต่ก็ทำเป็นแอ๊บเก็บมันเอาไว้ข้างใน “ประธานมู่ก็เลยส่งผมไปประจำการที่นิวยอร์กสองเดือนครับ”

“นานจังเลย แล้วแมวของคุณจะทำยังไงล่ะคะ”

“แมวก็...”

พอผู้ช่วยจางจะเปิดปากพูดก็โดนมู่เฉินหย่วนตัดบทอย่างไร้เยื่อใย “แมวกับหมาของเขา ผมจะหาคนมาดูแลเอง นี่คือจุดที่ฉันสามารถช่วยได้ในฐานะที่เป็นเจ้านาย”

“ใช่ ประธานมู่เป็นคนดีมากจริง ๆ ครับ” ผู้ช่วยจางอยากจะร้องไห้จริง ๆ “เป็นเจ้านายที่ดีที่สุดเลยครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน