บทที่259 คุณจูบแมวแล้วมาจูบผม
มู่เฉินหย่วนก้มหัวลงมองหล่อน สีหน้าดูแย่:“คุณจูบแมวแล้วมาจูบผมเนี่ยนะ?”
“โธ่ เร็วๆหน่อยคุณ!”
ถังซินไม่อยากเถียงกับเขา จึงเอากางเกงเขามาสวมแล้วเดินออกไปอย่างรีบๆแล้วเตือนว่า:“กระโปรงนี้ของLV คุณใส่หลวมๆอย่าทำพัง!”
“......”
มู่เฉินหย่วนทำให้ตัวเองดูเป็นผู้หญิง เขาใส่กระโปรงยาวออกมาจากห้องน้ำหญิง แม้ว่าจะใส่แมสแต่รูปร่างที่สูงเพรียวนั่นต่างดึงดูดสายตาคนที่ผ่านไปมา
เด็กน้อยคนนึงจูงมือแม่ผ่านมาทางนี้
เด็กน้อยเงยหัวขึ้นมองมู่เฉินหย่วนแล้วถามแม่ด้วยเสียงหวานๆ:“คุณแม่ พี่สาวคนนี้สูงจัง เหมือนยักษ์เลย ทำไมแม่เตี้ยขนาดนี้?”
“นี่ไม่ใช่พี่สาว เป็นผู้ชาย”แม้ใช้มือเขกหัวเด็กน้อยไปหนึ่งที
“งั้นทำไมเขาใส่กระโปรงล่ะ?”
แม่ของเด็กนั่นกลัวว่าจะทำให้มู่เฉินหย่วนอับอายจึงพูดเบาๆว่า:“เพราะว่าพี่เขาชอบใส่กระโปรงไงล่ะ”
มู่เฉินหย่วน:“......”
ผู้ชายเอาหมวกดึงลงพยายามปกปิดใบหน้าแล้วเดินกลับไปที่สนามแข่ง เขาเห็นว่าการแข่งขันกำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัว
ถังซินอยู่ท่ามกลางผู้หญิงคนอื่นอีกสิบเก้าคนกำลังวอร์มร่างกาย
กางเกงออกกำลังกายสีเทาที่ใส่บนตัวหล่อนใหญ่นิดหน่อย ขากางเกงพับขึ้นไป กางเกงไม่เหมาะกับรูปร่างแต่กลับมีท่าทางดีใจ
“เตรียมตัว!”
พอได้ยินเสียงกรรมการ เหล่าสาวๆก็วิ่งกันออกไป วิ่งแซงกันอย่างเร็ว
แม้ว่าถังซินจะวิ่งอยู่ด้านข้างแต่กลับนำหน้าคนอื่นๆ
สายตาของมู่เฉินหย่วนจ้องไปที่หล่อนเห็นท่าทางที่สู้ตายนั่นก็ส่ายหัวไปยิ้มไปเหมือนมองเห็นด้านที่ไม่เคยเห็นของผู้หญิงคนนี้
แค่ลิปสติกแท่งเดียวแม้ว่าจะมีจำนวนจำกัด แค่ไปที่บริษัทTFเอามาหนึ่งร้อยแท่งก็ได้แล้ว หล่อนกลับเข้าร่วมการแข่งขันด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะได้ชนะแล้วได้เลือกลิปสติกที่ชอบ
วิ่งไปได้ครึ่งทางกางเกงก็ตกลงมาจนถังซินเกือบจะสะดุด หล่อนรีบก้มลงม้วนกางเกง เมื่อเห็นผู้หญิงข้างๆวิ่งแซงหล่อน มู่เฉินหย่วนก็กังวลขึ้นมา
หลังจากพับกางเกงขึ้นดีแล้วถังซินก็วิ่งอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่ใกล้จะถึงเส้นชัยนั้น ในที่สุดจากที่หกก็วิ่งมาได้ที่หนึ่ง
ศีรษะหล่อนเต็มไปด้วยเหงื่อแต่กลับดีใจอย่างกลับเด็ก หลังจากมองเห็นมู่เฉินหย่วนก็รีบวิ่งเข้าไปจูงมือด้วยรอยยิ้มสดใส มู่เฉินหย่วนก็ยิ้มออกมา
ผู้หญิงเป็นของขวัญที่น่ามหัศจรรย์อย่างหนึ่งจริงๆ!
มู่เฉินหย่วนหยิบกล้องมาถ่ายตอนที่หล่อนได้ชัยชนะได้ยินเสียงโทรศัพท์เบาๆ ต่อมาถึงได้เห็นว่าเป็นโทรศัพท์ของถังซินดังขึ้น เป็นเบอร์โทรของคนแปลกหน้า
เห็นถังซินไปเลือกลิปสติกที่เคาเตอร์เขาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ
“คุณถัง ฉันโมมอยอี้เอง”ปลายสายพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่นุ่มนวลอย่างมีมารยาท
มู่เฉินหย่วนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอย่างลึกลับหัวใจก็เต้นขึ้นมาอย่างไม่ค่อยสบายใจ
มู่เฉินหย่วนไม่ได้พูดอะไรไป โมมอยอี้จึงพูดต่ออย่างรีบๆว่า“คุณมีเวลาไหม ฉันอยากคุยกับคุณ ไม่เกี่ยวกับกวนลี่หลั่ง เป็นเรื่องอื่น”
“หล่อนไม่อยู่”มู่เฉินหย่วนพูดด้วยเสียงต่ำๆรู้ว่าโมมอยอี้กับกวนลี่หลั่งคือคนในครอบครัวเดียวกัน“ผมว่าแฟนผมกับคุณไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ต่อไปไม่ต้องโทรมาอีก”
“ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณถัง”โมมอยอี้ขอร้อง“รบกวนคุณช่วยบอกคุณถังด้วย มาเจอกับฉันหน่อยแค่ไม่กี่นาที......”
เหมือนปลายสายจะมีคนเรียกโมมอยอี้ โมมอยอี้ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นหนึ่งนาทีโทรศัพท์ก็ถูกตัดสาย
มู่เฉินหย่วนมองโทรศัพท์แล้วคิดบางอย่าง นึกได้ว่าเมื่อกี้ที่ได้ยินเสียงของหญิงสาวก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
โมมอยอี้?
เหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักคนนั้น ทำไมได้ยินเสียงหล่อนในใจก็ไม่สบายใจขึ้นมา?
“ฉันได้มาแล้ว!”เวลานี้ ถังซินที่เลือกลิปสติกรีบวิ่งเข้ามา ถือลิปสติกTFอย่างภาคภูมิใจ“ฉันเจ๋งสุดๆเลยใช่ไหม วิ่งได้ที่หนึ่ง!”
มู่เฉินหย่วนมองเหงื่อที่หน้าหล่อนแล้วยิ้มออกมา“อื้อ คุณถังนี่เจ๋งมากๆ”
ทั้งสองเข้าไปห้องน้ำหญิงเอากางเกงขายาวกับกระโปรงเปลี่ยน เขามองกระโปรงนั่นไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากเดินออกไปก็บอกเรื่องสายที่โทรมาเมื่อกี้ให้ถังซิน
ถังซินแปลกใจ;“ไม่เกี่ยวกับกวนลี่หลั่งแล้วหล่อนจะหาฉันทำไม?ครั้งที่แล้วหล่อนเห็นเครื่องเพชรฉันก็เข้ามาอย่างตื่นตาตื่นใจไม่ใช่ว่าอยากซื้อเครื่องประดับฉันเหรอ?”
มู่เฉินหย่วนถามอย่างสนใจ:“คุณเก็บเครื่องเพชรมีค่าอะไรไว้ ขอผมดูหน่อย”
“ไม่ได้มีค่าอะไร ของปลอม อาจจะทำเยอะไปหน่อยเลยคิดว่าเป็นของแท้มั้ง”ถังซินโบกมือ เปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาด“หิวจัง ไปกินข้าวกันเถอะ!”
“คุณถัง คุณกำลังเปลี่ยนเรื่องเหรอ?”
“เปล่า!”
“ผมดูน่าหลอกเหรอ?”
ถังซินรำคาญเขาจึงรีบทาลิปสติกแล้วจูบไปบนปากเขา
มองริมฝีปากบางของเขาที่สวยงามนั่นแล้วยิ้มออกมา
มู่เฉินหย่วนหลบ“ถังซิน คุณอย่าเอาปากที่จูบแมวนั่นมาจูบผมอีกได้ไหม?รู้สึกเหมือนทั้งตัวผมจะมีกลิ่นนมแนวแล้ว”
“ฉันอาบน้ำให้มัน สะอาดน่ะ!”ถังซินมองค้อน“คุณจะไปกินข้าวไหม?”
มู่เฉินหย่วนถอนหายใจอีกรอบ
เขาไม่รู้ว่าบนปากมี“ลิปสติก”ของถังซินอยู่ก็เดินเข้าไปร้านอาหารเลย พอเห็นว่ามีคนมองเขาแล้วต่างหันไปยิ้ม ถึงได้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่อง บนปากมีสีสวยนั่น
ถังซินขำหนัก“คุณมู่สีนี้เหมาะกับคุณ เดี๋ยวเอาลิปสติกนี้ให้เอาไหม?”
“......”
บ่ายสองทั้งสองก็ออกจากสวนสนุกแล้วกลับเข้าเมือง
มู่เฉินหย่วนพาถังซินเข้าโรงหนัง นิ้วมือเลื่อนไปที่หน้าจอซื้อตั๋วแล้วถามหล่อนว่า:“อยากดูอะไร?”
“เดือนนี้ไม่มีอะไรน่าดูเนอะ?”ถังซินกระซิบพร้อมยังเลือกอย่างตั้งใจ“มีLa Vita è bellaเวอร์ชั่นรีเมค?งั้นดูอันนี้กันเถอะ!”
“โอเค”
เขาซื้อตั๋วเลือกที่นั่งอย่างว่องไว ส่วนถังซินไปซื้อป๊อปคอร์น
หล่อนอุ้มป๊อปคอร์นถังใหญ่ไปที่มู่เฉินหย่วน อยากเอาโค้กให้เขา มู่เฉินหย่วนกลับเหลือบมองหล่อนแล้วก้มตัวลง“เชือกรองเท้าหลุดแล้ว ไม่รู้เหรอ?”
“หะ เหรอ?”ถังซินก้มมอง
เห็นเขาตั้งใจผูกเชือกรองเท้าให้ ใบหน้าก็ร้อนขึ้นมา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูแลตัวเองไม่ดีเสมอ
ในใจก็อบอุ่น
พอเข้าไปในโรงระหว่างที่รอหนังฉายนั้น ถังซินที่อดกลั้นไว้พอแล้วก็เงยหน้ามองมู่เฉินหย่วน“คุณมู่ รู้สึกไหมว่าช่วงนี้คุณแปลกๆไป?”
“หือ?”
“ปกติคุณไม่ได้ชอบทำงานเหรอ และเย็นชากับคนอื่นอีก”ถังซินกล่าว“ทำไมวันนี้พาฉันไปสวนสนุกและยังพามาดูหนังอีก?”
เมื่อก่อนที่บริษัทก็เหมือนกัน ชอบแซวหล่อน!
“ผมเคยบอกไปแล้ว ผมรู้สึกดีกับคุณ”มือของมู่เฉินหย่วนวางบนเก้าอี้หล่อนแล้วพูดในลำคอ:“ผมต้องแสดงออกไปให้คุณรู้ว่าผมคิดยังไง”
“ผมทำงานหนักแต่ไปมีเวลาไปสวนสนุก ผมได้ยินว่าคู่รักชอบไปสวนสนุก โรงหนัง ผมก็เลยวางแผนน่ะ”
เงียบไปแปป เขาถาม:“ได้ยินว่าบันจี้จัมก็ด้วยนะ อยากเล่นไหม?”
“ไม่แน่นอน!”ถังซินส่ายหัวอย่างแรง
เมื่อก่อนไปเมืองหางซี หลินเฉิงจี๋พาไปกระโดดร่ม คิดขึ้นมาก็รู้สึกเสียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน