รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 291

บทที่ 291 ทำข้อตกลงหรือ

เมื่อเห็นหลี่ซูเจ๋ไม่พูดอะไร ลู่เหวินซูก็ขโมยจูบเธอ และกล่าวยิ้มๆ “ไม่กล้าเชื่อหรือครับ ผมพูดจริงๆ นะครับ คุณอยากแต่งงาน ก็แต่งงานกันนะครับ”

เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงาน และเกลียดชีวิตในกรอบหลังแต่งงานมากที่สุด แต่เขาชอบนางฟ้าตัวน้อยมากจริงๆ รูปร่างหน้าตาต่างก็เป็นสไตล์ที่เขาชอบ ทั้งน่ารัก ทั้งน่าดึงดูด

เขาเห็นผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ห้างมานับไม่ถ้วน และมีแฟนมาไม่น้อย แต่มีเพียงหลี่ซูเจ๋คนเดียวที่เข้าใจเขา การได้อยู่กับเธอมันทำให้เขาไม่ต้องคิดอะไรมาก ทั้งผ่อนคลายทั้งมีความสุข

หากเธอคิดจะแต่งงาน เขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเพื่อกับเธอได้

หลี่ซูเจ๋เมื่อรวบรวมความคิดได้ ก็ตวาดเขาทันที “ไม่เอา คุณไม่มีความจริงเลยสักนิด นี่เป็นการขอแต่งงานที่ไม่ทางการเลยสักนิด แม้แต่บ้านฉันคุณก็ยังไม่เคยไปเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ ยังคิดจะขอแต่งงานฉันอีกหรือ นี่คุณคิดว่าทำการค้าขายอยู่หรืออย่างไรกันฮะ”

“โอ้ นี่มันธรรมดาเกินไปสินะ” ลู่เหวินซูเข้าใจในทันที และเอ่ยปากรับกับเธอ “เดี๋ยวหลังจากการเที่ยวครั้งนี้ ผมจะรับไปไหว้ที่บ้านคุณเลย และจะหาของขวัญที่ทำให้พ่อแม่ของคุณพอใจไปด้วย”

“โอ๊ย กลับไปค่อยพูดเถอะค่ะ” หลี่ซูเจ๋ผลักหัวเขาออกไปห่างๆ “พิซซ่าถ้าไม่ทานจะเย็นเอานะคะ”

ลู่เหวินซูลงนั่งกระทบเธอ ทั้งคงจัดการกับมือถือไปด้วย “เช่นนั้นวีแชทของผมก็ใช้ชื่อกับวันเกิดของคุณนะครับ แบบนี้แล้วทุกครั้งที่ได้เห็น จะได้คอยเตือนผมเรื่องวันเกิดของคุณ”

“แล้วแต่คุณเถอะ”

หลี่ซูเจ๋บ่นพึมพำ และเหลือบมองไปยังชายที่อยู่ข้างๆ ตัว เขาฉีกยิ้มที่มุมปากราวกับมีความสุขมาก ใบหน้าคมที่ทำให้ใจคนสั่น จนเธอรู้สึกสับสนขึ้นภายในใจ

คนที่เธอต้องการแก้แค้นมีเพียงลู่ลี่เฉิงเท่านั้น จึงไม่ควรทำร้ายลู่เหวินซู ด้วยการปั่นหัวเขาไปมา

แต่เพียงไม่กี่สิบนาที หลี่ซูเจ๋ก็ไม่ได้รู้สึกผิดอีก

ลู่เหวินซูรักความสนุก และก็ไม่รู้ว่าหลอกผู้หญิงมาแล้วกี่คน จนทำให้พวกเธอเสียใจเสียน้ำตา เธอแค่ลุกขึ้นสู้เพื่อผู้หญิงเหล่านั้น เพื่อให้เขารู้จักบทเรียนเสียบ้าง

และเขาก็แค่คนโง่เท่านั้น

หลี่ซูเจ๋เพียงแค่ต้องการส่งข้อความเท่านั้น ไม่ได้คิดอยากจะกินอะไร พิซซ่าเพียงชิ้นเดียวก็อิ่มแล้ว แปรงฟันเสร็จแล้วก็ขึ้นเตียง ลู่เหวินซูเองก็ตามไปติด

“ที่รัก” ลู่เหวินซูจูบไหล่ของเธอ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า “อยากจะเล่นเกมกันสักหน่อยไหม”

“ไม่อยาก” น้ำเสียงและดวงตาของเขาราวกับกำลังเปลือยกาย หลังจากที่หลี่ซูเจ๋ถูกหาเศษหาเลยอยู่สองครั้งสองครา เธอจะไม่ยอมถูกหลอกอีกเด็ดขาด

ลู่เหวินซูกุมใบหน้าของเธอ และเอ่ยล่อลวง “เล่นสักครั้งนะครับ มันไม่ได้เจอคุณนานมากแล้ว คิดถึงคุณมาก ผมเองก็คิดถึงคุณ ดีไหมครับ”

หลี่ซูเจ๋ปาหมอนใส่เขา “คุณอย่าลามก อยากตายแล้วใช่ไหม”

“ที่รัก”

“.....”

“ที่รัก ผมรักคุณ คุณทำมันปวดนะครับ”

“.....”

“สุดที่รักครับ”

“หุบปาก หุบปาก” หลี่ซูเจ๋มองค้อนเขา ใบหน้านั้นทั้งเขินอายทั้งโกรธ “ฉันเล่นก็ได้ค่ะ”

ลู่เหวินซูรีบลุกขึ้นนั่งทันที “มาเลย”

“ครั้งนี้ฉันเลือกเอง” หลี่ซูเจ๋กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ และหยิบโทรศัพท์ของเขามา “ทุกครั้งเป็นคุณที่เลือกทั้งนั้น รู้สึกว่าคุณต้องแอบโกงแน่ๆ”

“ไม่แน่นอนครับ เป็นที่รักที่รู้สึกตัวช้าเอง”

“.....”

หลี่ซูเจ๋มองค้อนเขาอย่างแรง หลังจากที่จับเวลาดีแล้ว ก่อนวางโทรศัพท์ไว้บนหมอน

นั่งสองนั่งหันหน้าเข้าหากัน

พวกเขาเล่นเกมนับความถี่ของกระดิ่ง เพื่อเดาตัวเลขของมัน

หลังจากที่ติดตั้งเวลาในแอพแล้ว ผู้เล่นจะต้องรีบบอกตัวเลขอย่างรวดเร็ว หากตอบถูกจะได้ไปต่อ หากตอบผิด มันก็จะส่งเสียงเตือนขึ้นมา เพื่อบอกว่าเกมได้สิ้นสุดลง

หลี่ซูเจ๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะจับจ้องไปที่ลู่เหวินซู “หากคุณแพ้ วันนี้คุณต้องไปนอนที่ห้องน้ำ ให้ความคิดชั่วๆ ในหัวของคุณถูกล้างบ้าง”

ลู่เหวินซูกล่าวอย่างจริงจัง “ไม่มีทาง ผมจะต้องชนะ มันคิดถึงคุณมากนะครับ”

“โรคจิต”

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เป็นจังหวะยาวสามสั้นสอง

หลี่ซูเจ๋รีบตอบทันที “31”

“31” ลู่เหวินซูรีบตอบตามไปติดๆ

เสียงกระดิ่งดังขึ้น

หลี่ซูเจ๋ที่ใจจดใจจ่ออยู่กับมัน ฟังความถี่ของมันอย่างตั้งใจ แต่เพราะเสียงของมันเร็วเกินไป หลังจากนั้นไม่นาน ก็เปลี่ยนความถี่ไปอย่างรวดเร็ว จนทำความคิดตามได้ไม่ทัน

“9”

“19”

โทรศัพท์ดังขึ้นมา เพื่อบอกว่าเวลาหมดลงแล้ว

หลี่ซูเจ๋พลิกโทรศัพท์ขึ้นมา คำตอบก็คือ19 โกรธจนปาโทรศัพท์ไปทางลู่เหวินซู “หากฉันรู้ว่าเวลาจะห่างกันเพียงไม่กี่วิ ก็คงไม่ต้องมารับกรรมอยู่เช่นนี้หรอก”

ลู่เหวินซูเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มร้ายๆ “ที่รัก ผมชนะแล้วครับ”

“.....”

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ทั้งห้องนอนก็เหลือไฟสลัวเพียงดวงเดียว

เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่หลับลึกแล้วของชายข้างตัว หลี่ซูเจ๋ก็ลืมตาขึ้นมา เธอถูกชายหนุ่มกอดเอาไว้อย่างแนบแน่น ร่างกายอบอุ่นใกล้ชิดอย่างเนื้อแนบเนื้อ เหงื่อร้อนไหลออกมา

หลี่ซูเจ๋เอามือของเขาออกอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลงจากเตียงด้วยฝีเท้าแผ่วเบา ขาทั้งสองต่างเป็นเหน็บ จนทำให้เธอรู้สึกเสียใจที่ตกปากรับคำเล่นเกมกับลู่เหวินซู

ผู้ชายคนนี้ชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นหมาหรืออย่างไร ทำไมถึงมีแรงเหลือเฟือขนาดนี้

เธอผูกเข็มขัดชุดนอนอย่างขี้เกียจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เข้าห้องน้ำไป และล็อกประตูอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นก็เปิดวีแชทด้วยความรวดเร็ว และกรอกไอดีที่จำมาเมื่อเย็นทันที

อีกฝ่ายยังไม่หลับ และรีบรับเธอทันที

หลี่ซูเจ๋ทักเธอไปก่อน ครั้งนั้นที่Milan show ลู่เหวินซูมีความสนใจในตัวคุณหรือ

อีกฝ่ายตอบกลับมาในอีกไม่กี่วินาที

ทางด้านเจียน่า คุณคือ...

หลี่ซูเจ๋ตอบกลับ ฉันคือใครไม่สำคัญ ฉันเพียงต้องการทำธุรกิจกับคุณ และจะให้เงินกับคุณสิบล้าน แต่คุณต้องช่วยงานของฉันหนึ่งอย่าง

ทางด้านเจียน่า มีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยหรือ คุณลู่คงไม่ใช่กำลังเล่นอะไรอยู่ใช่ไหมคะ

ทางด้านหลี่ซูเจ๋ เจอหน้าก็จะรู้เอง งานเช่นนี้ คุณจะทำไม่ทำ

ทางด้านเจียน่า ทำค่ะ

ได้เป็นแฟนของไฮโซ ทั้งยังได้เงินอีกสิบล้าน ใครจะปฏิเสธต่อสิ่งล่อลวงนี้ได้กัน

หลี่ซูเจ๋บอกกับเจียน่าเรื่องเวลาและสถานที่นัดหมาย เมื่อกล่าวจบ ก็ลบเจียน่าทันที

การที่จะทำเรื่องเช่นนี้ ใจของเธอรู้สึกสูญเสีย แต่ก็ถูกความเกลียดมาบดบังไว้แทน

หลี่ซูเจ๋ลูบท้องที่แบนราบ ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

ในที่สุดการแก้แค้นก็ได้จบลง

--

เช้าถัดมา ถังซินออกมาจากห้องด้วยท่าทีง่วงนอน

ใต้ตาดำคล้ำราวกับไม่ได้หลับได้นอน

เธอขึ้นเรือสำราญน้อยครั้งนัก รู้สึกว่าเรือสำราญที่อยู่กลางทะเลนี้ไม่มั่นคงนัก เอาแต่คิดว่าเรือจะอับปางอยู่ตลอดเวลา พลิกตัวไปมา และได้หลับไปในตอนตีสี่

มู่เฉินหย่วนมาหาเธอ เมื่อเห็นท่าทีสะลึมสะลือของเธอ ก็เอ่ยติดตลก “บอกแล้วว่าคุณจะไม่คุ้น คุณก็ยังจะปากแข็ง เมื่อวานหากคุณโทรมา ผมก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว”

ถังซินกลอกตาใส่เขา “พอคุณมา ฉันก็ไม่ได้นอนเลยสิคะ”

ทั้งสองต่างไปห้องอาหารเพื่อทานข้าว

ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ส้งจิ้งเหอและหลี่ซูเจ๋ก็ตามมาติดๆ

ลู่เหวินซูเดินด้วยท่าทีสดใส ราวกับได้รับความพึงพอใจมากอย่างเต็มอิ่ม แต่คนที่มาทีหลังอย่างวี่เหวินถิงของส้งจิ้งเหอ บรรยากาศของคนทั้งสองต่างดูไม่ดีนัก ราวกับเพิ่งทะเลาะกันมา

หลี่ซูเจ๋เตะเขา “หัวเราะๆ หัวเราะบ้าอะไร คุณบ้าหรืออย่างไร”

“ก็ผมดีใจนี่ครับ” ลู่เหวินซูฉีกยิ้ม เมื่อเห็นคิ้วที่ขมวดของวี่เหวินถิง ก็เอ่ยถามอย่างสงสัย “เฮ้ พี่ใหญ่เป็นอะไรไปหรือ”

วี่เหวินถิงไม่ได้สนใจเขา

ลู่เหวินซูกล่าวอย่างคิดเองเออเอง “อ๋อ พี่ใหญ่ถึงแม้พี่จะคืนดีกับพี่สะใภ้แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องระงับโทสะบ้าง ดูก็รู้แล้วว่าพี่กำลังโกรธพี่สะใภ้ เรียนรู้จากผมไปเยอะๆ นะ”

ทั้งยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสองเม็ดบนออก เพื่อโชว์รอยฟันตื้นๆ ที่อยู่บนคอของเขา

เขากล่าวอย่างภาพภูมิใจ “รอยฟันขอที่รักผมเอง น่ารักใช่ไหม”

หลี่ซูเจ๋กุมขมับ

ส่งคนมาฆ่าลู่เหวินซูที เธอรั้งไว้ไม่อยู่อีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน