บทที่ 321 ไอ้เด็กชั่วช้า
ถังซินยิ้มและพูดว่า “พวกคุณมีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ ถ้ายังไม่ได้อยู่ด้วยกันยังไงก็จะไม่แคล้วคลาดกัน”
“ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ว่าความรู้สึกบังคับกันไม่ได้” ใบหน้าของผู้ช่วยจางปรากฎความไม่มั่นใจออกมา “พูดก็พูดเถอะผู้ชายที่ดีเลิศที่อยู่ข้างกายเธอนั่นมีเยอะ ผมเองก็ไม่ถือว่าดีเลิศอะไรมาก”
“แบบคุณนี่เรียกว่าไม่ดีเลิศอีกหรอ?” ถังซินแสดงออกอย่างเหลือเชื่อ คิดว่าผู้ช่วยจางพูดเกินความจริง “จบจากมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด และยังเป็นผู้ช่วยของบริษัทมู่ซื่อ ขอเพียงแค่ถ้าอยากพักอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กก็ได้ทั้งนั้น ค่าจ้างรายปีหลายล้าน แถมยังมีดวงใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก”
“คุณผู้หญิง ผมดีขนาดนั้นเลยหรอ?” ผู้ช่วยจางถูกชมจนรู้รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาจึงเอ่ยถามขึ้นต่อ “ถ้าอย่างนั้นคุณบอกผมหน่อย ถ้าผมอยากจะจีบเธอ ขั้นตอนแรกจะต้องเริ่มทำอย่างไร?”
ถังซินมีชีวิตชีวากลับมาทันที สนใจใคร่รู้เป็นอย่างยิ่งในการให้คำแนะนำเขา “ต้องทำความเข้าใจสิ่งที่ชอบและรสนิยมของเธอก่อน ในตอนที่เริ่มจีบไม่ควรที่จะกระตือรือร้นมากเกินไป เพื่อไม่ให้เธอเกิดความรู้สึกไม่ชอบ”
ผู้ช่วยจางหยิบสมุดเล็กขึ้นมา และจดบันทึกอย่างจริงจัง
“เมื่อหลังจากที่สนิทกันแล้วนั้น คุณก็ถามเธอว่าชอบประเทศไหน และก็แสร้งทำเป็นว่ามีวันหยุด และพาเธอออกไปเที่ยว ให้เธอดีใจและแปลกใจ และต้องจำไว้ว่า เมื่อสนิทกันแล้วอย่าคิดที่จะจูบเธอ จะต้องหาสิ่งที่เธอชอบมากๆและคิดว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติก ถามเธอว่าจูบได้มั้ยก่อน จากนั้นถึงจะปฏิบัติการได้”
ถังซินพูดอยู่นานจึงรู้สึกคอแห้งหิวน้ำ จึงยกน้ำดื่มไปอึกใหญ่ “เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจ” ข้อมูลเหล่านี้ผู้ช่วยจางได้จดจำไว้หมดแล้ว จากนั้นจึงยกจานแอปเปิ้ลกลับมาอีกครั้ง “คุณผู้หญิงมีความรู้ความสามารถรอบด้านจริงๆ ผมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องพวกนี้ถามคุณผู้หญิง ต้องเป็นการถามไม่ผิดคนแน่นอน”
ไม่ใช่ว่านายต้องฟังคำไอ้แก่นั้นหรอกหรอ ไม่ให้ฉันกินไม่ใช่หรอ?
ผู้ช่วยจางยิ้มอย่างเป็นผู้น้อย “คุณผู้หญิงกินเถอะ ไม่เป็นไร ประธานมู่ไม่อยู่ คุณอยากกินผลไม้อะไรอีก ผมจะไปล้างให้คุณ!”
ถังซินทำเสียง เหอเหอ
ไม่รู้จริงๆว่าควรจะบอกว่าผู้ช่วยจางเป็นผู้ที่รู้ว่าสถานการณ์ใดควรทำเช่นไรและเป็นอัจฉริยะหรือเป็นผู้ที่ฉวยโอกาสกันแน่!
“ล้างองุ่นให้ฉันกินหน่อยป่ะ!”
“ได้เลยครับ!”
ผู้ช่วยจางรีบไปที่ครัวและล้างองุ่น ถังซินนอนขี้เกียจอยู่บนโซฟา จิ้มแอปเปิ้ลใส่เข้าปาก ปลงกับชีวิตที่ช่างไร้ประโยชน์นี่จริงๆ
เมื่อเห็นโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชาดังขึ้น ถังซินจึงหันไปมอง และพบว่าเป็นเบอร์แปลก
พวกขายของหรอ?
ถังซินเกรงว่าจะเป็นหุ้นส่วนคนไหนเปลี่ยนเบอร์แล้วโทรศัพท์มา เธอจึงกดรับ “ฮัลโหล ฉันถังซิน”
“คุณถัง ผมจงเซิง”
หลังจากที่ได้ยินเสียงเขา ถังซินก็ชะงักงัน ในใจคิดว่าบอดี้การ์ดของหลินเฉิงจี๋โทรศัพท์หาตนเองทำไม
เธอได้สติจึงหันไปมองที่ห้องครัว เมื่อเห็นผู้ช่วยจางกำลังล้างผลไม้อยู่ จึงพูดด้วยเสียงเบาขึ้นว่า “นายมีธุระอะไร?”
“คุณชายหายไปแล้ว?”
ถังซินแปลกใจ “นายไม่ได้อยู่กับเขาตลอดหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงได้หายไปแล้วหล่ะ?”
“คุณชายบอกว่าอยากจะไปหา……”จงเซิงหยุดสักครู่ และพูดอย่างเสียใจขึ้นว่า “ผมรอเขาอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม รอแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นเขาลงมา จากนั้นก็พบว่าคุณชายออกไปทางประตูด้านหลังของโรงแรม”
“งั้นนายก็ไปตามหา โทรศัพท์หาฉันจะมีประโยชน์อะไร” ถังซินพูดอย่างกลัดกลุ้มใจ “ฉันไม่ได้เจอเขานานแล้ว”
จงเซิงทำเสียงเย็นชาลงในชั่วพริบตาเดียว “คุณถัง ทำไมคุณถึงใจจืดใจดำขนาดนี้?”
“ทำไมถึงว่าฉันเป็นคนใจจืดใจดำหล่ะ?” คำพูดที่ดูเกลียดชังที่เขาพูดขึ้นมาอย่างกระทันหันทำให้ถังซินรู้สึกแปลกใจ “ฉันไม่รู้จริงๆ ไม่งั้นนายก็รอฉันที่โรงแรม ฉันจะไปหา ช่วยนายตามหาเขา”
“ไม่ต้อง! คุณถัง ขอโทษที่รบกวน!”
ถังซินมองดูโทรศัพท์ที่ถูกวางสายใส่ คำพูดที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นของจงเซิงยังเหมือนกับดังก้องอยู่ข้างหู
จงเซิงโทรศัพท์มาบอกว่าหลินเฉิงจี๋หายไป นานแล้วจริงๆที่เธอไม่ได้พบกับหลินเฉิงจี๋ พูดตามตรง เธอไม่รู้จริงๆว่าเขาจะไปที่ไหนได้ ทำไมตนเองถึงกลายเป็นคนใจจืดใจดำหล่ะ?
ถังซินกลับไปคิดถึงบทสนทนาที่คุยกับจงเซิง คิ้วจึงขมวดเล็กน้อย และพูดซุบซิบขึ้นว่า “เขาบอกว่าหลินเฉิงจี๋จะไปหาใคร?”
ทำไมถึงพูดอึกอัก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...