รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 340

บทที่ 340 มอบโอกาสทางเลือกให้คุณ

ใบหน้าของมู่เฉินหย่วนมืดครึ้ม

เธอบอกเลิกอยู่ฝ่ายเดียว เอาของทั้งหมดมาคืน และตอนนี้ยังลาออกจากบริษัทมู่ซื่ออีกครั้ง เพื่อตัดขาดกับเขาอย่างใสสะอาด

เขาเป็นสิ่งของหรืออย่างไร ทำไมถึงได้โดนคนโยนไปโยนมานัก

ผ่านไปได้อีกสิบนาที ออฟฟิศของท่านประธานไม่มีแม้แต่เสียงลอด มีเพียงแต่บรรยากาศกดดันที่ปกคลุมไว้

ทั้งขาและท้องของผู้ช่วยจางยังคงสั่นไม่หยุด เริ่มที่จะรับมือไม่ไหวแล้ว

เขาลอบร้องไห้อยู่ในใจ และลอบกล่าว ประธานมู่ครับ พูดมาสักคำเถอะครับ

“ออกไป”

ผู้ช่วยจางราวกับได้ยินเสียง แต่ยังไม่มั่นใจ จึงได้หันไปมองมู่เฉินหย่วน ที่เย็นชาตั้งแต่ใบหน้าจนไปถึงด้านหลัง “ประธาน ประธานมู่... เมื่อครู่ท่าน...”

มู่เฉินหย่วนไม่แม้แต่จะเงยหน้า “ฉันบอกให้ออกไปไง”

“รับทราบครับ” ผู้ช่วยจางราวกับนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัว รีบออกจากออฟฟิศประธานไปราวกับเท้าติดล้อ

ทั้งออฟฟิศประธานเหลือเพียงคนคนเดียวเท่านั้น

เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน มู่เฉินหย่วนก็ขยับตัว เปิดระบบติดตามตัวที่ติดอยู่ในแหวนที่เขาเคยให้ถังซินไป

เกียร์บนคอมพิวเตอร์หมุนอยู่สองสามรอบ หลังจากที่ถูกเปิดขึ้น ก็เริ่มทำการค้นหาทันที โดยเร็วก็ระบุออกมาว่าอยู่ที่โรงแรม LockeTitiเขตJaveaประเทศF

มู่เฉินหย่วนมองที่ตั้ง เวลาตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก

ห้องปฏิบัติการของเย่นจิ่งเหนียนอยู่ที่ประเทศF จุดประสงค์ที่ถังซินพาหลินเฉิงจี๋ไปที่ประเทศF เขาจะยังไม่เข้าใจได้อย่างไรกัน

ไม่คิดว่าการดำเนินการของเธอจะรวดเร็วถึงเพียงนี้

มู่เฉินหย่วนข่มกลั้นโทสะที่อยู่ในอก ตรวจสอบหาเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมLockeTiti และโทรออกทันที

ขณะเดียวกัน หลังจากที่อยู่บนเรือมานานถึงหกวัน ในที่สุดถังซินก็พาหลินเฉิงจี๋มาถึงเขตJaveaประเทศF ที่อยู่ห่างจากประเทศจีน ไปสามหมื่นกิโลเมตร

เขตJaveaในวันนี้มีฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิสามองศา เป็นความหนาวที่ทำให้คนสั่นสะท้าน

หลังจากที่มาถึงโรงแรมLockeTiti ถังซินก็พบเห็นคนที่กำลังเช็คอินเป็นจำนวนมาก จึงจำต้องต่อแถว เธอให้ไปรอที่ส่วนรับรองเพราะไม่อยากให้หลินเฉิงจี๋เหนื่อยล้า นั่นก็เพื่อการผ่าตัดของตัวเอง

หลินเฉิงจี๋จากไปได้ไม่นาน ก็กลับมาพร้อมแก้วน้ำร้อน พร้อมส่งมาไว้ในมือของเธอ “ผมไม่เป็นอะไร หลายวันมานี้ทานยาสม่ำเสมอ ร่างกายดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวผมรอเป็นเพื่อนเธอนะ”

ถังซินพยักหน้า และจิบน้ำร้อนเข้าไปทีละนิด

ผ่านไปห้านาทีในที่สุดก็ถึงคิวของพวกเขา ถังซินส่งหนังสือเดินทางไปให้ และกล่าวภาษาFอย่างคล่องแคล่ว “หนึ่งห้องอยู่ห้าวันค่ะ”

“รอสักครู่ค่ะ” พนักงานต้อนรับนำหนังสือเดินทางไป พร้อมยิ้มตอบกลับมาอย่างสุภาพ

พนักงานต้อนรับยื่นเรื่องเข้าพักให้กับถังซิน ทันใดนั้นโทรศัพท์ข้างกายก็ดังขึ้นมา ทุกคนกำลังยุ่งอยู่ พนักงานต้อนรับจึงต้องเป็นคนรับสายแทน

“สวัสดีค่ะ โรงแรมLockeTiti”

“.....”

“ไม่ทราบว่าตามหาใครคะ ดิฉันจะตรวจสอบให้”

“.....”

พนักงานต้อนรับคุยกับทางลูกค้าอยู่สักครู่ ก่อนจะหันมองหน้าจอ และเงยหน้าขึ้นมามองถังซิน

ถังซินสงสัยที่ตัวเองถูกจับตามอง

ทำไมพอพนักงานต้อนรับรับสายแล้ว แล้วหันมามองเธอกัน

วินาทีถัดมา พนักงานต้อนรับก็นำโทรศัพท์มาให้กับถังซิน “คุณถังซินคะ มีคุณมู่ต่อสายมาจากประเทศจีนเมืองหนานเฉิง เขาต้องการติดต่อกับคุณ”

เมืองหนานเฉิง นามสกุลมู่

มู่เฉินหย่วน

ถังซินนึกถึงตัวเองที่นั่งเรือสำราญ เส้นทางถูกปกปิดไว้เป็นความลับ ทั้งยังมีกวนชิงเฟิงที่คอยช่วยเหลือ มู่เฉินหย่วนรู้จุดหมายปลายทางของเธอได้อย่างไรกัน ทั้งยังต่อสายมาถึงที่โรงแรมอีกด้วย

เธอยกมือขึ้นมามอง ถึงได้เข้าใจ

ลืมคืนแหวนให้

มู่เฉินหย่วนเป็นคนให้แหวนที่ติดระบบตามตัวนี้กับเธอเอง แน่นอนว่าต้องรู้ที่อยู่ของเธอเป็นแน่

หลินเฉิงจี๋ได้ยินอย่างไม่ตกหล่น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองถังซิน ก็ไม่พูดอะไรแม้แต่คำ

หลังจากที่ถังซินเงียบไปอึดใจ ก็รับสาย “คุณมู่”

เมื่อเลิกกันแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนคำเรียก

“โมมอยอี้ไปที่บ้านตระกูลมู่” เสียงเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้นมาตามสาย ดังขึ้นในหูของถังซิน ราวกับกำลังข่มกลั้นความโกรธเอาไว้ “ผมรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว”

ถังซินใจสั่นสะท้าน

ช้าไปแล้ว

เธอช้าไปก้าวหนึ่ง ข่าวทั้งหมดถูกจี้เจียจื้อเอาไปฟ้องบ้านมู่หมดแล้ว

ถังซินหลับตานิ่ง ในตอนที่จะเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง ในปากราวกับมีรสขมปร่า “รวมทั้งเรื่องของคุณกับเขา...”

“รวมด้วย” มู่เฉินหย่วนเอ่ยแทรกคำพูดของเธอ “พวกเราสัญญากันแล้วว่าจะไม่โกหกกันอีก ถังซิน คุณปิดบังผมเสียตั้งหลายเรื่อง ทั้งยังพาเขาไปถึงF”

“ขอโทษค่ะ”

มู่เฉินหย่วนแค่นหัวเราะ น้ำเสียงฟังดูอ้างว้าง “ถังซิน ผมเป็นคนอย่างไรกัน คุณไม่รู้หรือ คุณคิดว่าผมรู้เรื่องนี้แล้วจะฆ่าเขาอย่างนั้นหรือ”

“คุณนี่โง่จริงๆ คิดไปเองทั้งนั้น ผมไม่ใช่เด็กอายุสิบแปดอีกแล้ว สงบจิตสงบใจได้ หากผมจะแก้แค้น ผมก็แก้แค้นพ่อเขา ทำลายอเล็กซ์เลียร์ซะ”

ถังซินกำโทรศัพท์ในมือแน่น กล่าวเสียงละล่ำละลัก “เขากำลังจะตาย... ขอโทษนะคะ ฉันทนมองเขาตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้ และที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน”

“คุณเลยเลือกที่จะเหยียบย่ำจิตใจผมแทนรึ”

“ไม่ใช่นะคะ” ถังซินแย้งทันที เมื่อไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ก็เอ่ยขอร้อง “มู่เฉินหย่วน ฉันอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ ฉันอยากให้เขาลองIxora”

“ที่ตั้งห้องปฏิบัติการของไอ้สามคุณถามใครล่ะ ไอ้สาม หรือลู่เหวินซู” มู่เฉินหย่วนถาม “คุณไม่น่าจะถามหรอก เพราะพวกเขาคงไม่มีทางไม่บอกผม หลี่ซูเจ๋รึ”

ถังซินไม่เอ่ยอะไร

หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ มู่เฉินหย่วนก็แค่นเสียงหัวเราะขึ้นมา ราวกับพยายามอดกลั้น “ถังซิน ผมจะให้ผู้ช่วยจางไปรับคุณที่F หากคุณกลับมา ผมจะถือว่าคุณไม่เคยบอกเลิกกัน”

“ให้คุณเย่นมอบIxoraให้กับหลินเฉิงจี๋”

“ถังซินอย่าได้มาตั้งเงื่อนไขกับผม” มู่เฉินหย่วนแค่นเสียงต่ำ “เขาไม่ผิด เช่นนั้นผมผิดอย่างนั้นหรือ ผมไม่ลงมือกับเขานั่นก็มากพอแล้ว ผมไม่ใช่พระเจ้านะเว้ย”

ถังซินเพียงฟังเงียบๆ ดวงตาเริ่มเอ่อคลอ

เธอรู้ว่าเรื่องนี้มู่เฉินหย่วนและหลินเฉิงจี๋ไม่ผิด มู่เฉินหย่วนก็ทำได้ดีแล้ว แต่เธอจะให้หลินเฉิงจี๋มีชีวิตอยู่ต่อเพียงสามเดือนได้อย่างไรกัน

คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ถังซินเงียบๆ อย่างหลินเฉิงจี๋ จู่ๆ ก็ไอขึ้นมาย่างรุนแรง

ถังซินหันไปเห็นเลือดที่ไหลตามร่องมือของเขา ใจพลันเจ็บปวดอย่างทรมาน

หลินเฉิงจี๋ต้องรีบใช้Ixora ไม่อย่างนั้นเขาต้องตายแน่ๆ

“ขอโทษค่ะ เขาไม่เหลืออะไรแล้ว...” ถังซินยังคงดึงดัน เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นไหว “ฉันให้เขามีชีวิตอยู่เพียงสามเดือนไม่ได้ ขอโทษด้วยค่ะ...”

และเธอก็ตัดสายไป

แต่ทางด้านเมืองหนานเฉิง มู่เฉินหย่วนที่บริษัทมู่ซื่อมองโทรศัพท์ด้วยความผิดหวัง เสียงของผู้หญิงคนนั้นยังสะท้อนอยู่ภายในหู ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและนิ้วมือเริ่มสั่นเทา

หลินเฉิงจี๋ไม่เหลืออะไร แล้วกลายเป็นว่าเขามีเยอะอย่างนั้นหรือ

เป็นเวลานาน มู่เฉินหย่วนจึงวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ เซ็นชื่อลงบนเอกสารทั้งใบหน้ามืดครึ้ม——นั่นคือรายงานลาออกของถังซิน

หลังจากนั้นก็ใช้โทรศัพท์ภายในโทรเรียกผู้ช่วยจาง

เขาไม่ใช่เด็ก ถังซินเองก็ไม่ใช่ เธอคิดหาวิธีให้หลินเฉิงจี๋มีชีวิตอยู่ต่อ เขาโกรธ แต่ก็ไม่สามารถทำลายข้างของเพื่อระบายความโกรธนั้นได้ มันไร้เหตุผลเกินไป

หากจะเลิกกัน ก็เอาให้แตกหักกันไปข้าง

รอจนกระทั่งผู้ช่วยจางวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา สายตาของมู่เฉินหย่วนก็ไม่เหลือความเย็นชาอีกแล้ว ไม่ต่างจากตัวเขาในอดีตเลยสักนิด

มู่เฉินหย่วนโยนเอกสารให้กับเขา ทั้งยังสำทับเสียงเย็น “ส่งรายงานลาออกของคุณถังไปที่ฝ่ายบุคคล ทดสอบพนักงานที่อยู่แผนก R ดูว่าพวกเขาเหมาะกับงานสายไหน และโยกย้ายไปซะ”

“ประธานมู่จะยุบแผนก Rหรือครับ” ผู้ช่วยจางชะงักนิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน