บทที่35 คุณสวมหน้ากากทำไม
หลังจากถังซินมองคนนั้นแบบชัดเจน รู้สึกแปลกใจหน่อยๆจึงถามว่า:“Oriel?เธอแน่ใจเหรอ?”
หนังแนวลึกลับของผู้กำกับคนนี้มีชื่อเสียงมาก หล่อนชอบมากจริงๆ
“ใช่ใช่ เขาเนี่ยแหละพี่”กวนหลิงเอ๋อดึงถังซินเข้าไปยังกำชับด้วยเสียงเบาๆว่า:“พี่ พี่อย่าพูดตรงเกินไปนะ ยังไงฉันก็ยังอยู่ในกลุ่มที่ไม่ดังขนาดนั้น”
“......”
เธอยังไม่ดังก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์ของ Dior กับ Valentino แล้ว
ถังซินตามกวนหลิงเอ๋อไปถึงด้านหน้าของ Oriel
“สวัสดีค่ะ ผู้กำกับ Oriel” ถังซินทราบว่าผู้กำกับคนนี้เป็นคนฝรั่งเศส ไม่ชอบภาษาอังกฤษ เธอจึงทักทายเขาด้วยภาษาฝรั่งเศส“เป็นเกียรติจริงๆที่ได้เจอคุณ”
ผู้กำกับ Oriel เห็นว่าการพูดภาษาฝรั่งเศสของถังซินดีขนาดนี้ ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา จึงพูดคุยกับเธอ
พูดไปได้นิดหน่อย ถังซินจึงแนะนำกวนหลิงเอ๋อให้เขารู้จัก บอกว่าน้องสาวของเขาเพิ่งเป็นนักแสดง ชื่นชอบผลงานของ Oriel มาก กวนหลิงเอ๋อที่ไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศสก็ได้แค่ยิ้มให้
หน้าตาที่สวยงามของกวนหลิงเอ๋อดูเหมือนว่าจะทำให้ Oriel พอใจเป็นอย่างมาก เขาจึงให้นามบัตรถังซิน และให้ถังซินบอกกับกวนหลิงเอ๋อวันและสถานที่ไปลองเทสต์หน้ากล้องดู ถังซินจึงยิ้มรับมา
หลังจาก Oriel เดินจากไป ถังซินจึงเอานามบัตรให้กวนหลิงเอ๋อ แล้วก้มตัวลงลูบบริเวณเท้าที่เจ็บ
รองเท้านี้สวยดี แต่กัดเท้ามากเลย
“ว้าว พี่นี่สุดยอดจริงๆเลยเนอะ?”สองมือของกวนหลิงเอ๋อจับนามบัตรนั้นแน่นๆด้วยความงงงวยอย่างไม่อยากจะเชื่อ:“เธอเอานามบัตรของ Oriel มาได้จริงๆเหรอเนี่ย?”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ก็แค่ได้โอกาสไปลองเทสต์หน้ากล้อง ใครๆก็ไปเทสต์ได้!”
กวนหลิงเอ๋อห้วเราะฮี่ฮี่:“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันมีเวลาเยอะมาก ถ้าเทสต์ผ่านขึ้นมาล่ะ?ถ้าฉันได้แสดงหนังของเขา แม้ว่าจะได้พูดแค่สามคำ แต่ค่าตัวก็ต้องสูงขึ้นแน่ๆ!”
ถังซินเบะริมฝีปากล่างแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้:“แล้วแต่เถอะ โอเค เรื่องเสร็จเรียบร้อย จะกลับกันได้ยัง?”
แค่คิดว่าหลินเฉิงจี๋อยู่ในงานนี้ ถังซินก็รู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะได้เจอสุดๆ แค่เขาอยู่นี่ งานปาร์ตี้จะสุดยอดแค่ไหนเธอก็ไม่สน
“พี่ พวกเราเข้ามายังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย”กวนหลิงเอ๋อพึมพำกลับ“กลับตอนนี้เร็วเกินไปนะพี่”
พูดไปสายตาก็ชำเลืองมองไปรอบด้าน
พี่เขยอยู่ที่ไหนนะ?
อีกอย่าง ถ้าหล่อนพาถังซินออกไปตอนนี้ งั้นก็เท่ากับว่าหล่อนทำไม่สำเร็จน่ะสิ?
“เธอไม่ได้พูดว่าจะให้พี่มาเป็นล่ามให้เหรอ?”พอเห็นกวนหลิงเอ๋อมองไปทั่วคฤหาสน์ ถังซินก็อดไม่ได้ที่จะถาม:“เธอมองอะไรอยู่น่ะ หรือมีแผนการอะไรอีก?”
ในใจกวนหลิงเอ๋อคิดอยากจะหาโอกาสโทรถามหลินเฉิงจี๋ จึงรีบเอามือกุมไว้ที่หน้าท้องพูดว่า:“โอ้ยพี่ ฉันปวดท้องมากเลย เดี๋ยวไปห้องน้ำแปปนึงนะ”
“......”
เท้าของถังซินเจ็บขึ้นมานิดหนึ่ง เลยเดินไปหาที่นั่ง
แสงไฟในห้องงานเลี้ยงค่อยๆมืดลง เปลี่ยนเป็นไฟสลัว ดนตรีก็เปลี่ยนเป็นจังหวะวอลทซ์ คล้ายกับว่าถึงเวลาเต้นรำแล้ว ถังซินจึงนั่งบนเก้าอี้ยาวที่อยู่ข้างประตู แต่แย่จริงๆเลย เขาเห็นคนรู้จักเดินเข้ามา
คือมู่เฉินหย่วนพาจู่ซือซือมานั่นเอง
มู่เฉินหย่วนใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัว รูปร่างดูดีเด่นขึ้นมาเลย เขาไม่จำเป็นต้องขยับหรือทำอะไร บุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขานั้นก็ทำให้คนอื่นยากที่จะเพิกเฉยเขาได้
จู่ซือซือที่คล้องแขนมาอยู่ยังคงดูหรูหราโดดเด่นเหมือนเดิม กระโปรงลวดลายสีแดงสดของหล่อนที่แกว่งไปมายิ่งดึงดูดผู้คน ผมปลิวเบาๆ คล้ายกับเจ้าหญิงที่ถูกตามใจ
เนื่องจากนั่งอยู่ข้างๆประตู จึงห่างกับพวกเขาแค่เมตรเดียว ถังซินจึงลุกขึ้นทักเขาอย่างช่วยไม่ได้
“ประธานมู่”
“คุณถัง”มองเห็นถังซินที่ถือกระเป๋าเพชรระยิบระยับอยู่ตรงนี้ มู่เฉินหย่วนแปลกใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะพูดว่ารูปร่างผู้หญิงคนนี่นั้นดีจริงๆ จัดการชุดนี้ได้อย่างง่ายดาย
ชุดเดรสที่ถังซินใส่ช่วยคอลึกเป็นตัว v ตรงกลางมีผ้าโปร่งๆคลุมไว้หนึ่งชั้น แต่ก็สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นช่วงขาวๆนุ่มๆบริเวณนั้น สายตาของมู่เฉินหย่วนไม่ทันระวังจึงกวาดไปมองเห็น ทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง
เขานึกถึงคืนวันนั้นที่โรงแรม หล่อนที่อ่อนโยนกับเขา
สวยงามมากจริงๆ
เปรียบเทียบกับมู่เฉินหย่วนแล้ว จู่ซือซือที่มองเห็นถังซินสีหน้ากลับแสดงออกว่าไม่ชอบอย่างชัดเจน
ผู้หญิงคนนี้คือพี่สาวของกวนหลิงเอ๋อ ไม่ใช่แค่หล่อนที่ทำให้พี่เฉินมาตำหนิเธอ น้องสาวก็ไปจับใครได้ก็ไม่รู้ ถึงได้มาแย่งข้อเสนอๆดีทั้งหมดของเธอไป !
“อ้าว ล่ามนี่นา เข้างานนี้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”จู่ซือซือยิ่งคิดยิ่งโกรธ เริ่มพูดเยาะเย้ย:“หรือว่าเธอกับน้องก็เหมือนกัน จับประธานคนไหนได้บ้างแล้วล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...