รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 410

บทที่ 410 ผู้ชายแบบนี้ควรจะป้อนให้ฉลาดกิน

โทษที่เธอไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของหลี่ซูเจ๋ ไม่รู้ว่าจู่ซือซือจะแอบไปตามหาเธอ โทษที่ครั้งที่สองเธอได้ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ จึงพลาดไม่ได้รับสายของจู่ซือซืออีกครั้ง

ถ้าหากวันนั้นเธอได้รับสายโทรศัพท์ของจู่ซือซือ และไปรับเธอที่สนามบิน ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เพื่อจู่ซือซือแล้ว น้องของเธอจึงบุกเดี่ยวไปแก้แค้นถึงที่ประเทศY ทำให้แขนของจี้เจียจื้อขาดไปหนึ่งข้าง แต่เธอกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

พี่สาวอย่างเธอช่างไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ

ถังซินกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงไหลพรั่งพรูออกมา เธอกุมปากไว้เพื่อให้เสียงสะอึกสะอื้นนั้นเบาลง จึงไม่ได้ยินเสียงเท้าเดินจากข้างนอก จนกระทั่งมีสองขาได้มาปรากฏอยู่ที่สายตาเธอ

ถังซินถูกเขาดึงขึ้นมาจากฝาชักโครง และลากออกไปทางด้านนอกอย่างแรง

ชายหนุ่มนั้นเดินก้าวไปอย่างเร็ว เธอเดินตามไม่ทันจึงถูกลากไปอย่างโซซัดโซเซ แทบจะล้มลง มือจึงมีปฏิกิริยาอย่างไวในการลูบคลำไปที่ท้องน้อย ทนไม่ได้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ช้า…หน่อย…ลูก”

จากนั้นถึงรีบปิดปากอย่างเร็ว

ทันใดนั้นมู่เฉินหย่วนก็ปล่อยมือ และหันมามองเธอ สีหน้าเย็นชาดั่งน้ำ “ใครให้เธอมาที่นี่?”

ถังซินค่อยๆเอามือออกจากท้องน้อยโดยไม่ให้คนอื่นรู้ และพูดด้วยเสียงเบาๆขึ้นว่า “ฉันอยากมาดูซือซือ”

“ ตอนนี้ก็เห็นแล้วไม่ใช่หรอ?”

“ …ขอโทษ” ถังซินพยายามปรับลมหายใจ และเงยหน้าขึ้นเผชิญกับสายตาเขา “คุณทำอะไรกับซือซือ ทำไมเธอถึงลืมชิงเฟิง?”

มู่เฉินหย่วนยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าฉันทำอะไรไป เธอยังอยากจะมาตำหนิฉันอีกหล่ะสิ?”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” มือของถังซินที่กุมจับไว้แน่นก็คลายลง สักครู่จึงเอ่ยขึ้นมาว่า “นายก็รู้ว่าชิงเฟิงรักเธอขนาดไหน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่……”

“ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่เพียงว่าพวกเขาเลิกกันแล้ว และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆเกี่ยวข้องกันอีก” มู่เฉินหย่วนพูดขัดเธอ “รบกวนเธอออกไปจากตรงนี้ด้วย”

“มู่เฉินหย่วน!” ถังซินกัดฟันอย่างแรง

เธอไม่เข้าใจว่า หลังจากคืนวันนั้น ทำไมท่าทีเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ ทั้งตัวมีแต่ความเย็นชา

เรื่องทุกอย่างพังทลายก็เพราะเธอ เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นต่อหน้ามู่เฉินหย่วนอีก เพียงแต่แค่ขอร้องเขา กว่าพวกเขาจะมาพบกันนั้นยากมาก ทำไมคุณถึงทำให้เขาแยกออกจากกัน นี่เป็นสิ่งที่ซือซือต้องการหรอ?”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับชิงเฟิง เขาดูแลซือซือมาอย่างดีตลอด ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน ฉันไม่ทันรู้ว่าซือซือจะไปหาฉัน……”

“มันเป็นความผิดของเธอจริงๆ ถังซิน นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำเรื่องโง่ๆลงไป!” มู่เฉินหย่วนกัดฟันแน่น จ้องมองผู้หญิงที่ทำได้เพียงก้มหน้าอยู่ตรงหน้าอย่างดุร้าย

เพียงแค่นึกว่าเธอทอดทิ้งเขาไปอย่างไร ที่จากไปพร้อมกับผู้ชายคนอื่น เพียงแค่นึกถึงคลิปวิดีโอนั้น ความมีเหตุผลและความนิ่งสงบของเขาก็สูญสิ้น แทบอยากที่จะบีบคอฆ่าเธอให้ตาย

มู่เฉินหย่วนเข้ามาใกล้เธอ เธอมักจะคิดว่าตนเองทำถูกเสมอ ทำอะไรไม่คิดให้ละเอียดรอบคอบ หูเบา เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็พูดเพียงแค่ว่า “ขอโทษ มันจะมีประโยชน์อะไร เธอบอกฉันมาหน่อยสิ?”

จากที่ถังซินไม่เคยเห็นท่าทางที่เขาโกรธมากขนาดนี้ ความดุร้ายของเขาทำให้ถังซินขนลุกไปทั้งตัว จึงทนไม่ได้และถอยหลังออก

เธอถอยทีละก้าว ทีละก้าว จนกระทั่งเอวเธอไปชนกับตู้

เอวของเธอไปชนกับมุมตู้แหลมๆเข้าพอดี เธอรู้สึกเจ็บจนหน้านิ่วคิ้วขมวด

ถังซินจากที่พยายามทอดถอนหายใจเพื่อตั้งสติอยู่หลายครั้ง ถังซินก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ แต่ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “คุณสรุปได้ดีเลย ฉันมันเป็นคนไม่มีประโยชน์ ฉันยอมรับ ฉันเพียงหวังว่าคุณจะไม่ทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจ”

“ถังซิน เธอรู้มั้ยว่าตอนที่ฉันรับซือซือกลับมา เธอเป็นยังไงบ้าง?” มู่เฉินหย่วนเอ่ยออกมา “เธอเหม่อลอย เหมือนกับเด็กน้อยตัวเล็กๆคนหนึ่ง เธออยู่แบบนั้นเป็นเวลานานถึงจะนอนหลับ เธอนั่งดูการ์ตูนทั้งวันและไม่สนใจใครเลย”

“ฉันต้องใช้เวลาอยู่เป็นเพื่อนเธออยู่นาน แต่ก็ยังคงสอนเธอไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ให้จิ่งเหยียนพาเพื่อนมา มาเล่าเรื่องให้เธอฟัง สะกดจิตให้เธอลืมเรื่องราวพวกนั้น”

ถังซินก้มหน้ามากยิ่งขึ้น “……ขอโทษ”

มู่เฉินหย่วนจึงเอ่ยขึ้นว่า “เธอรักน้องชายของเธอ ฉันก็รักซือซือเช่นกัน เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ถือว่าเป็นน้องสาวของฉัน หากเธอลืมกวนชิงเฟิง ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ สามารถหาคนที่ดีและรักเธอมากกว่า”

“ แล้วชิงเฟิงจะทำอย่างไร?”

“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาถามฉันว่า แล้วเขาจะทำอย่างไร?” มู่เฉินหย่วนจับไปที่คางของเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกเธอให้ เพียงแค่เขามาปรากฏตัวที่นี่ ฉันไม่รับรองว่าฉันจะทำอะไรกับเขา คุณอาจจะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูศพ”

ถังซินกำหมัดแน่น คิดอยากที่จะด่าเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะด่าอะไร สุดท้ายจึงทำได้แค่คลายมือออกอย่างหมดแรง

“ คุณรักซือซือ ทำอะไรก็ไม่ผิด” เธอไม่สามารถพูดแก้ตัวใดๆ และสะบัดมือเขาออกอย่างเบาๆ เธอเดินเฉียดไหล่เขาออกไปทางด้านนอก

หลังเอวของเธอที่ถูกชนรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เธอทนไม่ไหวจึงใช้มือนวดคลึง

มู่เฉินหย่วนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน เมื่อเห็นหญิงสาวใช้มือนวดคลึงที่ที่หลังเอว จึงหันไปมองเห็นมุมแหลมของตู้ ดวงตาจึงลึกซึ้งเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา

หลังจากที่จู่ซือซือเห็นถังซินเดินออกมา จึงรีบเข้ามาเอาอกเอาใจ แล้วพูดซุบซิบขึ้นว่า “เมื่อสักครู่พี่เฉินก็เดินเข้าไป พวกพี่เข้าไปทำอะไรกันในนั้น หรือว่า……”

ถังซินชะงัก คิดไม่ถึงว่าเธอยังสังเกตสถานการณ์ได้อย่างละเอียด

“ไม่มีอะไร เขาแค่อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน” ถังซินลูบคลำไปที่หัวของเธอ และพูดอย่างอ่อนโยนขึ้นว่า ฉันกลับก่อนนะ แล้วครั้งหน้าฉันมาหาเธอใหม่

“ไม่ต้องหรอก กว่าพี่จะกลับมานั่นยากมาก อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนเถอะ” จู๋ซือซือจูงมือเธอโดยไม่ยอมปล่อย “ฉันอยากกินอาหารที่พี่ถังซินทำ”

“ให้ป้าหลินเป็นคนทำให้เธอกินนะ เด็กดี” ถังซินกลัวว่าถ้ายังไม่ไป อีกไม่นานผู้ชายคนนั้นก็จะทำอะไรที่รุนแรงขึ้นมาอีก

“ ป้าหลินทำอาหารไม่อร่อยเท่าพี่” จู่ซือซือกระพริบตาปริบๆไปทางถังซิน “แค่มื้อเดียวได้มั้ยคะ? ถ้าพี่ไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันไปรอที่ห้องพี่ก็ได้”

ป้าหลินเข้ามาแก้ต่างให้ถังซิน “คุณจู่ คุณอย่าทำให้คุณถังลำบากใจเลย เธอกำลังยุ่งมาก ไม่อย่างนั้นให้ฉันจองอาหารร้านจิ่นสือให้คุณมั้ยคะ?”

จู่ซือซือส่ายหน้า “ไม่เอาฉันอยากกินอาหารที่พี่ถังซินทำ”

“พี่เฉิน!” เมื่อเห็นมู่เฉินหย่วนเดินออกมา จู่ซือซือจึงวิ่งเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว “พี่ถังซินทำกับข้าวอร่อยมาก พี่ก็อยากกินใช่มั้ย”

“พี่รีบขอร้องเธอเร็ว ให้เธอทำกับข้าวให้ฉันกินหน่อย!”

ถังซินรีบหันตัวไปเปลี่ยนรองเท้าที่ทางเข้าประตูอย่างเร็ว

ในขณะที่กำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินมู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้นว่า “ให้ป้าหลินทำ เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการทำอาหารซักหน่อย”

“พี่ก็เคยกินอาหารที่พี่ถังซินทำ อร่อยจริงๆนะ”

“ไม่เคยกิน” มู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้น “อาหารพวกนั้นล้วนส่งมาจากร้านจิ่นสือ เธอเอามาใส่จานใหม่ ไม่อย่างนั้นกลางวันนี้ฉันจะสั่งอาหารจากร้านจิ่นสือมา เธอลองกินดูก็จะรู้”

จู่ซือซือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และรู้สึกมึนงงเล็กน้อย “จริงๆหรอคะ?

“อะไรกันเนี่ย!”

“ ผู้ชายแบบนี้ควรจะป้อนให้ฉลามกิน!”

ถังซินอดทนกับท่าทางการพูดของเขาไม่ได้ จึงเปลี่ยนรองเท้าและกลับมาอีกครั้ง เธอเอ่ยถามซือซือไปพลางและเปิดโทรศัพท์ไปพลาง “ซือซือเธออยากกินอะไร ฉันจะซื้อวัตถุดิบมาทำให้เธอกิน”

“จริงหรอคะ?” จู่ซือซือคลอเคลียไปที่เธอ “ฉันอยากกินหลายอย่างเลย……”

“ไม่เป็นไร ฉันทำได้ทุกอย่าง” ในขณะที่พูดเธอได้มองไปทางชายหนุ่มอย่างดูถูก “ไม่เพียงแต่อาหารกลางวันนะ อาหารเย็นฉันก็จะทำให้เธอกิน ถึงแม้จะสู้หัวหน้าพ่อครัวไม่ได้ แต่ก็อร่อยกว่าพวกปัญญาอ่อนที่ทำกับข้าวใส่น้ำตาลเยอะเลย！”

มู่เฉินหย่วน……