บทที่ 69 โทรศัพท์จากคนที่น่าสงสัย
กวนชิงเฟิงเห็นถังซินที่ตัวเล็กมาก สูงไม่เท่าเขาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเธอไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ตีพวกนั้นอย่างแรงด้วยไม้ โดยให้เขาหลบอยู่ข้างหลัง
"ถ้าไม่มีใครสั่งสอน พี่สาวคนนี้จะสั่งสอนพวกนายเอง!"
"พรุ่งนี้ฉันจะไปฟ้องพวกนายที่โรงเรียน และพวกนายจะต้องขอโทษน้องชายของฉัน!"
"ถ้าพวกนายกล้ารังแกเขาอีอ ฉันจะหักขาพวกนายซะ!"
เพื่อนร่วมชั้นชายบางคนไม่กลัวถังซินและพูดหยาบคายว่า "ก็แค่รังแกเขา พวกเธอจะทำอะไรพวกเราได้" แล้วถังซินก็ตีเขาอีกครั้ง จนเขาไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
หลังจากที่สั่งสอนคนเหล่านั้นแล้ว ถังซินก็ไม่ได้พูดอะไรเลย พากวนชิงเฟิงกลับบ้านและช่วยเขาทำแผลพร้อมทั้งซ่อมชุดนักเรียนที่ขาดให้ และตั้งแต่ต้นจนจบ เธอก็ไม่ได้พูดว่า "เขาใช้ไม่ได้" เลยสักคำ
จมูกของกวนชิงเฟิงแสบร้อนเล็กน้อย ต่อมาเขาก็สังเกตเห็นว่า คุณแม่ถังที่หย่าร้างทำได้เพียงแค่ร้องไห้น้ำตานองหน้าเท่านั้น ภาระต่างๆล้วนแล้วแต่มาตกอยู่ที่ถังซิน เธอทั้งเรียนไปด้วยและต้องทำงานไปด้วย แต่เธอก็ไม่เคยบ่นเลยสักคำ
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กวนชิงเฟิงก็รู้ทันทีว่าเขาอยากดูแลพี่สาวคนนี้ให้ดี เขาจึงเริ่มเรียนและออกกำลังกายอย่างหนัก
ต่อหน้าถังซิน เขาเป็นน้องชายที่ดี เป็นนักเรียนดีเด่น เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย และพยายามอย่างดีที่สุดที่จะผลักดันตัวเข้าไปในโรงเรียน เพื่อปกป้องครอบครัวของเขา
เพราะถังซินบอกว่าเธออยากจะซื้อบ้านหลังใหญ่ เขาจึงก้มหน้าก้มตาหาเงิน โดยหวังว่าจะทำให้เธอประหลาดใจเมื่อถึงเวลานั้น
พี่สาวของเขาเหนื่อยมามากแล้ว เขาอยากจะให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่านี้
"หัวหน้า ผมล่ะอิจฉาคุณจริงๆ" เฉินคางอิจฉาจริง ๆ และพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า
"ผมเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่ของผมชอบทิ้งผมเอาไว้ให้อยู่คนเดียวตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนอยู่มัธยมปลาย โชคดีที่หลังจากที่ผมเรียนจบ ลูกพี่ลูกน้องของผมช่วยหางานให้ ไม่อย่างนั้นผมก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง"
เฉินคางพูดต่อ "หัวหน้า คุณแม่ของคุณขาดลูกชาย คุณคิดว่าผมเป็นได้ไหม?"
"ไป!"
ฉนวนกันเสียงของห้องนั้นดีมาก เธอไม่รู้เรื่องที่มีเสียงดังข้างนอก ถังซินคาดไม่ถึงว่าน้องชายที่แสนเชื่อฟังของเธอ ที่เธอคิดว่ากำลังตั้งใจศึกษาอยู่ในประเทศนั้นจะอยู่ห่างจากเธอแค่เพียงประตูกั้น
ถังซินใช้ครีมทาที่คอของเธอตามที่บริกรบอก แล้วก็รู้สึกเย็นวูบวาบ ก่อนจะนวดให้ตัวยาซึมลงไป ยานั้นมีกลิ่นมิ้นต์ที่ไม่ฉุนนัก
ครีมดูเหมือนจะไม่ได้ผล แต่หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ลำคอของเธอก็รู้สึกชุ่มชื่นขึ้นมาก ไม่แห้งเหมือนเมื่อก่อน
ถังซินเปิดดูอีเมลบางส่วนในกล่องจดหมายและเมื่อเธอเปิดดูก็เห็นว่ามีเกือบสิบสองฉบับที่ถูกส่งมาเมื่อเช้านี้
หลังจากที่เธอปิดคอมพิวเตอร์และกำลังจะเข้านอนก็มีคนโทรมา
หมายเลขโทรศัพท์แปลกๆแต่ยังคงเป็นหมายเลขในประเทศ
"นั่นใคร..." เดิมทีถังซินอยากจะบ่นว่าใครกันที่โทรมาดึกๆดื่นๆป่านนี้ เส้นเสียงของเธอดีขึ้น หลังจากที่ลองพูดพึมพำดูสองครั้ง เธอก็รู้ว่าเธอสามารถพูดได้?
ถังซินกระแอมและพูดพึมพำกับตัวเองอยู่ไม่กี่คำ
เส้นเสียงนั้นดีขึ้นมากแล้วและพูดได้ดีกว่าแต่ก่อน
ยาเม็ดนี้เห็นผลเร็วเกินไปหรือไม่?
เมื่อเห็นว่าเจ้าของหมายเลขแปลกไม่ยอมวางสาย ถังซินก็พูดโทรศัพท์ต่อ
"สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?"
"ภรรยา นี่ผมเอง"
ทันทีที่ได้ยินเสียงของมู่หยางซิว ถังซินก็รู้สึกขนลุก เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้หัวใจของเธอก็ปั่นป่วนและความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามา
เธอหนีจากหลินเฉิงจี๋และแต่งงานกับมู่หยางซิวทันทีหลังจากกลับถึงบ้าน ตอนที่พวกเขาแต่งงานกันมู่หยางซิวก็ดีกับเธอจริง ๆ และเธอก็ชอบเขามาก
"คุณชายมู่ เราหย่ากันแล้ว" ถังซินพูดอย่างใจเย็น เสียงของมู่หยางซิวจำเธอได้ดี และก่อนที่จะหย่าจากกัน เขาทำอะไรกับเธอไว้บ้างเธอก็ไม่มีวันลืม
"ภะ....ถังซิน ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว" ด้วยกลัวว่าถังซินจะโกรธ เขาปรับน้ำเสียงของเขาให้ดูเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น "ผมแค่อยากจะขอโทษคุณ"
"ที่จริงคุณป่วยแบบนั้น ผมควรเอาใจใส่ดูแลคุณ ผมไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง ผม ผมหลงผิดไปชั่วขณะ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย"
เขาขอโทษอย่างจริงใจ แต่ถังซินกลับรู้สึกว่ามันแปลก ๆ
เธออยู่กับมู่หยางซิวมานานกว่าหนึ่งปีทำไมเธอจะไม่รู้จักเขา คนที่เชื่อในลัทธิผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเขา ไม่มีทางที่จะเอ่ยปากขอโทษ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาก็ตาม ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ปฏิบัติกับเธอแบบนั้นตอนที่หย่ากัน
ตอนนี้มู่หยางซิวกลับมากระซิบขอโทษและขอให้เธอให้อภัย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...