หลังจากนั้นถังซินกับหลี่ซูเจ๋ก็ช่วยกันยกเอาปราสาทย้ายเข้าไปในห้องของถังซิน
ถังซินพยายามเบี้ยงความสนใจของตัวเองไปจากปราสาทที่ระยิบระยับนั่น แต่ว่าหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว สายตาก็ถูกดึงดูดให้มองอีกแล้ว อีกทั้งยังอยากที่จะเดินเข้าไปใช้มือลูบๆคลำๆ
ก็แค่ปราสาทเพชรหลังนึงไม่ใช่หรอ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน จะตื่นเต้นอะไรเนี่ย?
แต่ว่า…..
ถังซินที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวมามองปราสาทเพชรหลังนั้น แค่แสงเพียงเล็กน้อยนิดส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ทั้งปราสาทก็ส่องประกายระยิบระยับแล้ว ช่างดึงดูดสายตาคนเหลือเกิน
แต่ว่ามันสวยจริงๆนะ
--
กลับมาจากศึกษาดูงานครึ่งเดือน ถังซินช่วงเวลาเปลี่ยนไปเร็วมาก ตอนเช้าตื่นมาเตรียมอาหารเช้าพร้อมกับอาหารเที่ยง พอกินเสร็จก็นั่งรถไฟใต้ดินกับหลี่ซูเจ๋ไปทำงาน
“ว่างสุดๆ!” หลี่ซูเจ๋ดูละครดึกเกินไป เอาแต่หาวตลอดเวลา แถมยังเล่นมือถืออีก
ถังซินก็ได้แต่พูดอะไรไม่ออก
“ซินซิน ต้องแชร์แล้วๆ!” หลี่ซูเจ๋รีบดึงสติกลับมาทันที เอามือถือยื่นให้ถังซินดู : “BC ออกรถคอลเลคชั่นใหม่แล้ว ตอนนี้รอที่จะสุ่มเลือกผู้โชคดีที่จะได้รับรถไปเลยหนึ่งคัน”
ถังซินดูแค่แวบแรก ก็พูดขึ้น “ไม่เห็นมีอะไรน่าแชร์ตรงไหนเลย เรื่องที่ดีขนาดนี้ ก็หนีไม่พ้นคนในนั้นเอาไปกินกันเอง คิดว่าคนธรรมดาอย่างพวกเราจะได้เหรอ? ”
“แหม แกช่วยแชร์ทำให้อัตรารางชนะมันต่ำๆก็ได้แล้วน่า” หลี่ซูเจ๋ก็รีบหยิบมือถือของหล่อนมาจัดการทันที “ฉันได้ยินมาว่าตัวแทนจาก BC ไม่เลวเลยนะ ก่อนหน้านี้ก็มีคนได้รถมาแล้ว”
หลังจากที่แชร์ลงในเวยป๋อแล้ว หลี่ซูเจ๋ก็หัวเราะคิคิพร้อมกับเอามือถือคืนให้กับถังซิน “รออีกสามวันก็ประกาศผลแล้ว!”
“ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆ”
หลังจากถึงบริษัท สองคนก็แยกกันในลิฟต์ ถังซินเดินแยกไปยังฝ่ายการแปล
ครึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้มาบริษัท ที่ทำงานเปลี่ยนไปจนถังซินแทบจะจำไม่ได้ หลังจากที่เดินสำรวจไปรอบๆ หล่อนยังพบอีกว่าของที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของหล่อนมันไม่ใช่ข้าวของเครื่องใช้ของหล่อนแล้ว
ประจวบเหมาะกับที่เจียงจิ้งมาพอดี ชุดกระโปรงรัดสะโพกสีแดงทั้งชุด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความหยิ่งทะนง“คุณเจียง นี่คุณเป็นคนเปลี่ยนรูปแบบของออฟฟิศและย้ายโต๊ะทำงานของฉันออกไปเหรอคะ?” ถังซินเอ่ยปากถามเจียงจิ้ง รอยยิ้มบนใบหน้าขาวใสให้ความรู้สึกเย็นชา “ฉันแค่ไปศึกษาดูงานกับท่านประธาน ไม่ใช่ลาออกค่ะ”
สีหน้าของเจียงจิ้งยังคงไม่เปลี่ยน พูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงตำแหน่งสถานะที่สูงกว่า “อ๋อ กลัวว่าเธอยุ่งอยู่กับการศึกษาดูงาน ก็เลยไม่ได้บอกเธอเรื่องที่ฝ่ายเราประกาศรับสมัครพนักงาน ตำแหน่งพนักงานก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว โต๊ะของเธออยู่ตรงนั้นไง”
นิ้วของหล่อนชี้ไปที่มุมมุมหนึ่งที่อยู่ใต้แอร์ หันเข้าหาหน้าต่างบานกระจก
ถังซินทำตามองต่ำ
ทำไมหล่อนถึงพูดจาเสียดสีได้ไร้ยางอายขนาดนี้?
“คุณเจียงนี่ดีจังเลยนะคะ อุส่าหาที่ที่หน้าหนาวยังอุ่นหน้าร้อนก็เย็นสบายให้กับฉัน” ถังซินขยับริมปากตอบกลับอย่างรวดเร็ว ยิ้มอ่อนๆ “งั้นก็ขอบคุณคุณเจียงด้วยนะคะ”
รอยยิ้มของหล่อนทำให้เจียงจิ้นหัวใจเต้นตึกๆราวกับว่ากำลังรู้สึกกลัว แต่ว่าพอกลับมาคิดแล้ว รออีกสักหน่อยหลังจากที่ถังซินกลับมาทำงาน หล่อนก็จะต้องมาร้องขอชีวิตจากหล่อน หล่อนจะกลัวถังซินไปทำไมล่ะ?
คิดได้เช่นนี้เจียงจิ้งก็ยืดอกขึ้นหลังตรงอย่างมีความมั่นใจ : “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะไม่ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนของฉันแน่นอน ใช่สิ ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้ว งั้นก็ทำงานได้เลยละกัน หานจือ เอางานที่ฉันให้เธอทำก่อนหน้านี้มาให้ถังซินทำสิ”
พนักงานคนนั้นตอบรับ
ถังซินก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มเล็กๆน้อย “ได้ค่ะ”
พอถังซินเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตรงมุมใหม่ด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เจียงจิ้งมองดูหล่อนสักพักก็จากไป
ผ่านไปไม่นาน หนักงานที่ชื่อว่าหานจือก็หอบกองเอกสารกองใหญ่เต็มๆสิบกว่าชุดมาให้ถังซิน ราวกับว่าดองมาหนึ่งเดือนเต็มๆ
“ถังซิน คุณเจียงบอกว่าอาทิตย์ต้องทำให้เสร็จและส่งให้หล่อน” หานจือพูดพร้อมหยิบเอกสารสองชุดออกมา “เอกสารสองชุดนี้ค่อนข้างเร่งด่วน ต้องส่งพรุ่งนี้”
เมื่อมองมองไปยังประตูกระจก เสียงหานจือค่อยๆเบาลง “ถังซิน เธอทนๆไปเหอะ เรื่องที่หล่อนได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายติดอยู่ที่บนกระดานน่ะ หล่อนเป็นคนไม่ยอมใคร อย่าไปยั่วยุหล่อนจะดีกว่านะ”
“ฉันทราบแล้ว ขอบคุณนะ” พอถูกเพื่อนร่วมงานคนนี้เตือนด้วยความหวังดี ถังซินก็กลับมายิ้มๆ
แต่หล่อนก็ไม่ใช่คนประเภทที่อดทนอดกลั้นซะด้วยสิ
เอกสารที่ต้องจัดการก็ไม่เคยผ่านมือใครเลย ขยะสุดๆ แล้วต้องให้หล่อนมานั่งแก้รายชื่อใหม่ทีละชุดๆ เจียงจิ้งต้องการที่จะแกล้งหล่อนชัดๆ
ถังซินจัดการเอกสารสองชุดเสร็จเรียบร้อยด้วยความใจเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...