ได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง ซูการ์ก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไร
เกรซซี่ใช้ประโยชน์จากชื่อภรรยาคุณเมต มาช่วยไรดอนร่วมมือกับโรงแรมพาเลซใหม่?
ทำไมบังเอิญขนาดนี้?
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน สรุปว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือว่าคนกระทำ?
ซูการ์เม้มริมฝีปากสีแดง เห็นเกรซซี่ออกไป เธอก็ตามไปอย่างรวดเร็ว
“คุณเกรซช่างเป็นวิธีที่ดีจริงๆ นะคะ เพื่อช่วยอาเขยได้เป็นเป้าหมายของการร่วมมือแล้ว ถึงกับต้องทำลายผลประโยชน์ของโรงแรมพาเลซโดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดๆ”
ได้ยินคำนี้ เกรซซี่ก็ตกใจ หยุดฝีเท้าลงทันที
“คุณเองหรือ?คุณพูดอะไรน่ะ?ฉันไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจจริงๆ หรือคะ?”
ซูการ์จ้องเธอ“คุณเกรซ เมื่อวานมีเด็กคนหนึ่ง เพราะว่ากินขนมที่มีส่วนผสมของมะม่วง ทำให้โรคหอบกำเริบ คุณเป็นคนให้คนเปลี่ยนฉลากหมายเหตุสินะคะ?”
ใบหน้าของเกรซซี่มีความกระวนกระวาย แต่แป๊บเดียวก็กลับคืนสู่ปกติ
“คุณซูการ์ พูดจาอะไรต้องมีหลักฐานนะคะ ฉันฟ้องว่าคุณหมิ่นประมาทได้หากไม่มีหลักฐาน”
เธอจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้
ซูการ์อยากจะหลอกเธอ?
เป็นไปไม่ได้!
ซูการ์เม้มริมฝีปาก“คุณเกรซ คุณไม่กลัวฉันบอกคอฟฟีเมตหรอกหรือ?ยังไงเทสตี้ เบเกอรี่ของเราก็เป็นพันธมิตรที่เขาแต่งตั้งเอง คุณใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทิ้งพวกเรา แล้วให้ไรดอนเข้ามาอีกแบบนี้ ไม่กลัวทำลายภาพลักษณ์ของคุณที่อยู่ในใจคอฟฟีเมตหรอกหรือ?”
พอได้ยิน สายตาเกรซซี่ก็เป็นประกาย“คุณซูการ์ ตอนนี้ฉันไม่ใช่แค่ผู้บริหารโรงแรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแม่แท้ๆ ของลูก สะใภ้ตระกูลจอนห์สันในอนาคต จะให้ใครเป็นซัพพลายเออร์ เรื่องเล็กๆ แบบนี้ฉันตัดสินใจได้ ถึงแม้ว่าคุณจะบอกพี่เมต เขาก็ไม่ทำอะไรฉันหรอก?”
หญิงสาวเงยคางขึ้น ด้วยท่าทางยั่วยุ
ซูการ์หงิกนิ้วมือ ในใจรู้สึกอึดอัดแปลกๆ
ใช่สิ เกรซซี่มีสถานะที่สำคัญมากๆ เป็นเครื่องรางปกป้อง เธอที่เป็นอดีตภรรยา ในตอนที่ไม่มีหลักฐาน จะมีความสามารถไปสู้เธอได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล