ซูการ์รู้สึกถึงวัตถุประสงค์ของคอฟฟีเมต เธอก็ลุกขึ้นจากร่างของเขาด้วยความหน้าแดง
“เอ่อ คุณคอฟฟีเมต ฉันเหนื่อยแล้ว ขึ้นชั้นบนก่อนนะคะ”
ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงขี้เหร่ที่ขี้เหร่แบบสุดๆ คอฟฟีเมตยังกล้าลิ้มรสลองเธอหรอ?
กระหายมากเกินไปมั้ย!
“คุณชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะรบกวนนะคะ ฉันแค่ออกมาดื่มน้ำ”
ป้านีย์ทั้งดีใจและรู้สึกผิด
ในที่สุดคนทั้งสองก็มีความคืบหน้ากันแล้ว
เธอต้องเล่าเรื่องนี้ให้นายหญิงจูสฟัง
......
วันต่อมาซูการ์ เอาผมของคอฟฟีเมต ส่งให้กับคณิต ให้เธอไปโรงพยาบาลเมื่อว่าง เพื่อช่วยไปเทียบ DNAให้เธอ
คณิตตอบรับด้วยความยินดี
จัดแจงธุระที่ร้านเสร็จเรียบร้อย ซูการ์ก็แต่งหน้าขี้เหร่เพื่อกลับไปคฤหาสน์หลังเก่า
นายหญิงจูสดีใจที่สุดเมื่อได้เห็นเธอ
นอกจากจะดูแลเอาใจใส่เธอแล้ว ก็ยังพูดเป็นนัยๆด้วย
ซูการ์รู้ว่าป้านีย์ต้องเอาเรื่องเมื่อวานเล่าให้นายหญิงจูสฟังแล้ว เธอจึงทำได้แค่นายหญิงเย้าหยอกตัวเธอเอง
ให้รู้สึกว่าเรื่องการหย่านั้นดูไกลออกไปไม่มีกำหนด!
“แม่คะ หนูกับซูการ์ต้องไปจัดแจงที่โรงแรมก่อน”
โรซาลีเดินเข้าแล้วเอ่ยปากพูด
นายหญิงจูสมองเธอแล้วพยักหน้ารับ
“โรซาลีลูก ซูการ์ถูกเลือกเข้ามาในนี้โดยลูก แม่รู้สึกว่าสายตาของลูกดีมากจริงๆ เดี๋ยวในงานลูกอยู่ดูแลเธอนะ แล้วก็สอนให้เธอได้รู้จักกับการเป็นนายหญิงของตระกูลจอห์นสันว่าทำกันยังไง”
สอนให้นังขี้เหร่เป็นนายหญิงของตระกูลจอห์นสันงั้นหรอ?
นายหญิงจูสไม่ได้รังเกียจความขี้ริ้วขี้เหร่
โรซาลีเยาะเย้ยในใจ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกมา
“ค่ะ ซูการ์มากับฉัน”
ซูการ์ตอบรับแล้วเดินตามไป
ตลอดทางไม่ได้พูดอะไร จนถึงโรงแรมโรซาลีก็ชี้ให้ซูการ์ทำนู่นทำนี่
ซูการ์ไม่พูดว่าอะไร เธอแค่ทำงานที่คนงานทำอย่างว่าง่าย
ในใจเธอรู้ว่าโรซาลีไม่มีวันให้เธอเป็นนายหญิง ในอนาคต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล