นินามองด้านหลังของซูการ์เหมือนครุ่นคิดอะไร
เธอเปรยตามองผู้หญิงพวกนั้น แล้วสลัดมือของพวกเธอทิ้งอย่างเชิ่ดๆ “อย่ามาตามฉัน ฉันไม่รู้จักพวกเธอ”
ไม่ไกลออกไป ภุชงค์ได้เห็นการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วเดินมาข้างกายของคอฟฟีเมต
“คอฟฟีเมตที่แท้สะใภ้ขี้เหร่ของนายแสดงความน่าเกรงขามดุอย่างนี้เลยหรอ? ดูเหมือนมีแววนายหญิง ใบหน้านั้น……”
ภุชงค์หยุดพูดลง สายตาที่แหลมคมมองคอฟฟีเมตอย่างไม่สนใจ “ถ้าเอาใบหน้าเธอเปลี่ยนเป็นใบหน้าของคนรักนาย นั่นจะเพอร์เฟคเลยล่ะ”
เอาใบหน้าของซูการ์เปลี่ยนเป็นใบหน้าของเฮเลนาหรอ?
เขาควรหาโอกาสทำให้ซูการ์ล้างเครื่องสำอางออกต่อหน้าผู้คนหรือเปล่า?
คอฟฟีเมตกระดกคิ้ว ยิ้มที่มุมปาก
ซูการ์เข้าไปในห้องพักรับรอง มองเสื้อสูทที่ถูกทำให้เปื้อนก็ถอนหายใจเบาๆ
ไม่ได้ดูแลเสื้อสูทของคอฟฟีเมตให้ดี ก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธหรือเปล่า
“ซูการ์ เหนื่อยหรือเปล่าลูก?”
นายหญิงจูสถูกคนรับใช้ประคองเข้ามาในห้องพักรับรอง
ซูการ์รีบเอาเสื้อสูทแขวนไว้ให้เรียบร้อย พูดยิ้มๆว่า “คุณย่า หนูไม่เหนื่อยค่ะ”
“โถ่เด็กน้อย วันนี้ทำให้ลูกลำบากเลย”
นายหญิงจูสตบที่มือของเธอเบาๆ แล้วพูดปลอบใจ
ดูเหมือนว่าจะมีใครมารายงานบ้างเรื่องให้กับนายหญิงจูสแล้ว
ซูการ์ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรให้มากความ แล้วประคองนายหญิงจูสออกจากห้องพักรับรอง
งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว
หลังจากที่พิธีกรได้กล่าวเปิดงานอย่างฮึกเหิมเรียบร้อยแล้ว ก็มีเจ้าบ้านธรรมทานของตระกูลจอห์นสันกล่าวเปิดพิธี
หลังจากที่ธรรมทานได้พูดเรียบร้อยแล้ว ก็เชิญคอฟฟีเมตขึ้นมา
“ต่อจากนี้ ผมจะเอากิจการของตระกูลจอห์นสันมอบให้กับลูกชายผมดูแล หวังว่าทุกท่านที่อยู่ในงานนี้จะเหมือนเมื่อก่อนและจะสนับสนุนคอฟฟีเมตลูกชายผมนะครับ”
เสียงก้องกังวานของเขาได้ดังขึ้นเรียบร้อย คอฟฟีเมตก็มายืนอยู่ตรงหน้าเวทีท่ามกลางเสียปรบมือ
ธรรมทานตบที่ไหล่ของเขาด้วยใบหน้าปลื้มอกปลื้มใจ
คอฟฟีเมตการเติบโตของจอนห์นสันกรุ๊ปหลังจากนี้อยู่ที่ลูกแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล