คณิตโบกมือไปทางเธอ เพื่อเป็นนัยให้เธอไปก่อน
“เอริน นั่นเป็นคำพูดตามมารยาทของเค้า จะถือเป็นเรื่องจริงไม่ได้นะลูกนะ ไปขึ้นข้างบนกับมี่มี๊คณิตดีกว่า”
“แต่ว่าคุณอาสุดหล่อพูดอย่างนี้จริงๆนะคะ”
เอรินมองซูการ์ที่เดินจากไปด้วยน้ำตาไหลริน หลังจากนั้นก็กอดที่คอของคณิต
“หม่ามี๊ไม่รักเอรินแล้ว หม่ามี๊ต้องไปมีเด็กคนอื่นกับป่าปี๊แน่ๆเลย”
คณิต “….”
ความคิดเจ้าเด็กนี่ทำไมแหวกแนวมากขนาดนี้!
“เอวี่พี่ไปก่อนนะ”
ไอแซกที่ไม่ได้พูดอะไรอยู่นานก็เอ่ยทักเอวี่ หลังจากนั้นก็ตามซูการ์ไป
เอวี่อ้าปากค้าง นัยน์ตามีความห่อเหี่ยว
ที่ด้านนอก เป็นเพราะซูการ์ได้จอดรถทิ้งไว้ที่ โรงถ่ายภาพยนตร์ ก็เลยกำลังเรียกรถอยู่ข้างทาง
“ซูการ์ให้ผมไปส่งคุณเถอะ”
“หื้ม ไม่ต้องหรอกค่ะ ไอแซกดึกแล้ว คุณกลับไปเถอะ”
“ขึ้นรถ”
ไอแซกไม่พูดพร่ำทำเพลง ดึงซูการ์เข้ามานั่งเบาะข้างคนขับ
ในห้องของคลับ
ปริ้นซ์ที่เพิ่งมาได้ไม่นานก็นั่งพิงบนโซฟาชิวๆ มองภุชงค์วางโทรศัพท์ ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ภุชงค์ ไม่รอคอฟฟีเมตอนุญาตแล้วโทรหาภรรยาขี้เหร่ของเขา ระวังคอฟฟีเมตหาเรื่องพี่นะ”
ได้ยินดังนั้น ภุชงค์กับเขาก็ชนแก้วกัน แล้วยิ้มร้ายๆ “นี่พี่สร้างโอกาสให้เค้าทั้งสองนะ”
ปากเพื่อนเก่าพูดว่าไม่ชอบซูการ์
แต่ความจริงล่ะ?
ถ้าเขาไม่ชอบซูการ์จะสองจิตสองใจเรื่องที่จะจัดการซูการ์กับ เกรซ ยังไงทำไมกัน แล้วไหนจะท่าทางที่ไม่เบิกบานนั่นอีกล่ะ?
ผู้ชายที่เด็ดขาดเด็ดเดี่ยวบนโลกธุรกิจ นี่ไม่ใช่สไตล์เขาเลย!
“จะว่าไป ภรรยาขี้เหร่ คนนี้ของคอฟฟีเมตก็ทำให้คนอื่นแปลกใจเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะปิดบังใบหน้าตัวเองเพื่อแต่งงานเข้าตระกูลจอห์นสันกรุ๊ป พี่คิดว่าเธอทำอย่างนี้ทำไมกัน?”
ปริ้นซ์ควงแก้วไปมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ภุชงค์เลิกคิ้วขึ้น กำลังที่เอ่ยปากพูด คอฟฟีเมตที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำก็ถามขึ้นว่า “นายเรียกเธอว่าอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล