มันหมายถึงการได้เป็นเจ้าของร่างกายใช่ไหม?
การเป็นเจ้าของแบบนี้มันมีความหมายจริงๆเหรอ?
ซูการ์รู้สึกแน่นหน้าอก
เธอสูดหายใจเข้าลึก ตั้งใจจะหาที่หลบมุมสักครู่และค่อยขอตัวกลับ
มุมที่เงียบสงบ
“คอฟฟีเมต นี่นายโกรธฉันใช่ไหม ? ไม่พอใจที่ฉันให้พี่สะใภ้ดื่มเหล้าเข้าสังคม ? ก็เพราะนายไม่มาสักที ฉันก็เลยแนะนำงานให้เธอไป?”
เมื่อปริ้นซ์เห็นคอฟฟีเมตหน้านิ่ง ก็รีบพูดอธิบาย
คอฟฟีเมตกระดกเหล้าเข้าปาก พูดเสียงเย็นชา“ ฉันเคยบอกไปแล้ว ให้นายอยู่ให้ห่างจากเธอ เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันจะจัดการเอง ไม่ได้ต้องการให้นายมาเป็นคนดีแบบนี้?”
“นี่มัน......”
ปริ้นซ์ถึงกับจุก รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
เขาแค่รู้สึกสนิทใจกับซูการ์อย่างมากก็เท่านั้น ก็เลยอยากจะช่วยเหลือเธอ
ไม่ได้คิดเป็นอื่นเลย !
“พอเถอะ คอฟฟีเมต ปริ้นซ์ก็เป็นเหมือนน้องของพวกเรา เขาจะไปคิดร้ายอะไรได้ ? อีกอย่าง กับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะหย่ากัน มันใช่เรื่องเหรอ?”
ภุชงค์พูดไกล่เกลี่ยอยู่ข้างๆ
สายตาที่คมกริบของคอฟฟีเมตกวาดมองไปอย่างเย็นชา เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
ภุชงค์หัวเราะเสียงเบา รินเหล้าให้เขา“คอฟฟีเมต นี่นายจะหึงมากไปหรือเปล่า ยังกล้าพูดว่าไม่ชอบเขาอีก ?”
ได้ยินดังนั้น คิ้วของคอฟฟีเมตก็ขมวดกันแน่น พูดเสียงเข้ม“ฉันจะขอพูดย้ำอีกครั้ง ฉันไม่ได้ชอบเธอ ที่แต่งงานกับเธอนั่นก็เพราะเลี่ยงไม่ได้ แต่ฉันไม่หย่าอย่างแน่นอน เพราะคุณย่าชอบเธอ”
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการที่เขาขบคิดมาแล้วกว่าสองวัน
เขาจะไม่หย่ากับเธอ!
“ไม่หย่า ? แล้วเกรซกับลูกจะทำยังไง ?”
ภุชงค์เลิกคิ้วขึ้น แล้วตั้งคำถาม
“ฉันจะให้ลูกกลับคืนสู่ถิ่นฐานครอบครัวเดิม ส่วน เกรซ......”
คอฟฟีเมตหยุดไปชั่วขณะ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
ด้านหลังของเสา ซูการ์ที่ต้องการความเงียบสงบได้ยินบทสนทนานี้ของทุกคน
นิ้วมือขยับเกร็งอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากอันแดงเรื่อขบกันแน่น และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ในหัวสมองมีคำพูดของคอฟฟีเมตวนเวียนไปมาอยู่ซ้ำๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล