ทาคุมิจ้องมองเธอ แล้วยกมือขึ้นโบกให้
จนมองไม่เห็นรถของซูการ์แล้ว เขาก็ถึงได้ละสายตาออกอย่างอาลัย
นายหญิงจูสที่อยู่ข้างๆมองดูเขา ตั้งใจถามไปว่า“ทาคุมิ เราชอบคุณน้าซูการ์ไหม?”
ทาคุมิพยักหน้าให้อย่างจริงจัง
ดวงตาของนายหญิงจูสเป็นประกาย“ ทำไมถึงชอบเธอล่ะ?”
ทำไมถึงชอบเธอเหรอ ?
ทาคุมิเอียงศีรษะน้อยๆไปมา ทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่
อาจเพราะ ความใกล้ชิดสนิทสนมที่เธอมีให้เขา
“ทาคุมิ ย่าทวดก็ชอบเธอมากเหมือนกัน วันข้างหน้าอยากให้ทาคุมิเติบโตไปพร้อมกับเธอ เราว่าดีไหม ?”
นายหญิงจูสไม่รอให้ทาคุมิได้ตอบ พูดโน้มน้าวต่อ
ทาคุมิเหลือบมองเธอไปแวบหนึ่ง เจอกับใบหน้าที่รักใคร่เอ็นดูของเธอ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็จึงค่อยๆก้มศีรษะเล็กๆลง
พ่อบอกว่านี่คือบ้านของเขา ต่อไปเขาจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ในตอนแรกเขารู้สึกกลัวมาก เพราะทุกคนล้วนเป็นคนแปลกหน้า และหม่ามี๊ก็ไม่อยู่
แต่ย่าทวดใจดีกับเขามาก คุณลุงกับคุณป้าทุกคนของที่นี่ก็เล่นกับเขา
ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่เขาต้องอยู่บ้านคนเดียวลำพังกับพี่เลี้ยงและคุณน้า หม่ามี๊เองก็ไม่ค่อยได้เจอ
เมื่อเทียบกับชีวิตเมื่อก่อน เขาชอบที่นี่มากกว่า
แม้เขาจะยังเด็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
ความหมายของย่าทวดคืออยากให้คุณน้าซูการ์มาเป็นหม่ามี๊ของตัวเองในอนาคต ?
สับสนเล็กน้อย
เขาชอบคุณน้าซูการ์มาก เพราะในตัวของเธอ มีกลิ่นอายของหม่ามี๊มากกว่า!
แล้วถ้าหากคุณน้าซูการ์เป็นหม่ามี๊ของตัวเอง แล้วหม่ามี๊แท้ๆของเขาจะทำยังไง ?
นายหญิงจูสเห็นเด็กน้อยก้มหน้าลงแล้วไม่พูดอะไร ยื่นมือไปสัมผัสที่กลุ่มผมนุ่มของเขาเบาๆ
“ไม่ต้องรีบ เรามาค่อยๆคิดกันไป”
อนาคตยังอีกยาวไกล เธอเชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง
......
ซูการ์ไปที่โรงแรมพาเลซ เพราะกองถ่ายใช้สถานที่นี้ถ่ายทำในบางฉาก
เมื่อก้าวเข้ามาในโรงแรมนี้อีกครั้ง ก็นึกไปถึงเรื่องราวเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซูการ์ถอนหายใจยาว กักเก็บความรู้สึกทั้งหมดที่มี
ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว เธอไม่อยากจะเกลียดผู้ชายที่ทำชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนอีกต่อไปแล้ว
เพราะเหตุนี้อย่างน้อยเธอก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่ง
ปริ้นซ์นิ่งไปชั่วขณะ“เฮเลนา คุณหย่ากับคอฟฟีเมต ไม่มีเยื่อใยเหลืออยู่สักนิดเลยเหรอ ?”
มองดูความสบายและผ่อนคลายนี้ของเธอ ทำเอาแปลกใจอย่างมาก
ยังไงคอฟฟีเมตก็เป็นถึงบุคคลผู้มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุดในเมืองโซ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาสง่าผ่าเผย
เธอหย่าไปดื้อๆแบบนี้ ควรที่จะซึมเศร้าเสียใจไม่ใช่เหรอ?
มือที่ขยับไปมาของซูการ์ชะงัก ดวงตาที่หลุบลงวูบไหว แต่ก็หายวับไป
โดยฉับพลันเธอก็เงยหน้าขึ้นยกยิ้มแล้วพูดว่า “ปริ้นซ์ การหย่านี้ทำให้ฉันได้กลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวย ต่อไปก็สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ทำ ไม่ต้องมาคอยมองสีหน้าใคร ชีวิตแบบนี้ไม่ดีหรือไง ? ทำไมต้องไปคิดถึงชีวิตที่ถูกล้อมกรอบแบบนั้นด้วย ?”
ปริ้นซ์“......”
ผู้หญิงคนนี้ ช่างแหวกแนวจริงๆ!
ไม่รู้เหมือนกันว่าคอฟฟีเมตคิดอะไรอยู่
ไม่ได้คิดอะไร?
หรือว่ามีเสียใจเหมือนกัน!
ด้านนอก
คอฟฟีเมตพาเกรซมาที่สำนักงานของผู้จัดการใหญ่ในโรงแรมพาเลซ
ผู้บริหารระดับสูงได้รอคอยกันอยู่ก่อนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล