“งั้นรอให้เทวิกากับยศพัฒน์มาถึงก่อนค่อยว่ากันอีกที”
นฤเบศวร์กอดเอวเธอไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในบ้าน “ได้ คุณอยากเอาอะไรไปด้วย คุณบอกผม เดี๋ยวผมไปช่วยคุณเก็บเอง
เดี๋ยวพวกคุณคุยกันเสร็จว่าจะไปไหน ก็จะได้ออกไปเลย ไม่ต้องเสียเวลามาเก็บของอีก”
กนกอรเอียงหน้ามองเขา “นฤเบศวร์ คุณนี่ยิ่งอยู่ยิ่งรู้จักเอาใจใส่แล้วนะ”
“และเป็นคนเอาใจใส่แบบนี้มาโดยตลอดอยู่แล้ว”
กนอกรยิ้ม ก็ใช่ เขาเป็นคนเอาใจใส่แบบนี้มาโดยตลอดอยู่แล้ว
“เจ้าตัวเล็กดื้อไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่ดื้อ”
ตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มกระดิกแล้ว แต่ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อีกสักพัก เจ้าตัวน้อยคงจะซนกว่านี้แน่นอน
หลังจากเข้ามาในบ้านแล้ว กนกอรนั่งลงบนโซฟา นฤเบศวร์ชอบเอาใบหน้าไปแนบติดกับท้องของกนกอร เขาพูดเสียงอ่อนโยนขึ้นมาว่า: “เป่าๆ นี่พ่อนะ”
กนกอรมองเขา ยิ้มออกมาที่มุมปาก รู้สึกมีความสุขมากเป็นพิเศษ
แต่กลับไม่รู้ว่าแม่สามีของเธอหลังจากออกจากบ้านแล้ว ก็เจอกับเปรมา คนที่พวกเขาคาดคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอ
เปรามาแต่งตัวธรรมดามาก เมื่อก่อนเธอผมยาวแต่ตอนนี้ได้ตัดให้สั้นลงแล้ว เนื่องจากไม่ได้แต่งหน้า ทำให้เธอดูแก่กว่าอายุจริง
เมื่อเห็นประตูของคฤหาสน์เปิดออก แล้วมีรถออกมาจากข้างใน เปรมารีบหลบไปด้านข้างทันที จากนั้นก้มหน้าลง และไม่กล้ามองด้วยซ้ำว่าคนที่ออกมาเป็นใคร
ถ้าไม่ใช่เพราะบัณฑิตาเห็นเธอโตมาตั้งแต่เด็ก และเคยเอ็นดูเธอเหมือนลูกสะใภ้ ก็คงจะจำเธอไม่ได้
“คนขับรถ จอดรถก่อน”
หลังจากที่บัณฑิตาดูออกว่าเป็นเปรมา ได้รีบเรียกให้คนขับรถจอดรถทันที
เธอกดหน้าต่างรถลง เปรมาถึงดูออกว่าเป็นเธอ
ทั้งสองคนประสบสายตากัน
เปรมามองบัณฑิตาด้วยสายตาตกใจ จากนั้น น้ำตาของเธอไหลออกมาอาบแก้ม
บัณฑิตาลงมาจากรถ
แล้วเดินไปหาเปรมามาอย่างรวดเร็ว พูดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อว่า: “เปรมา?คือเธอจริงๆ ด้วย เธอออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”
เมื่อเห็นเปรมาร้องไห้ เธอหยิบทิชชูออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับเปรมา
เปรมารับทิชชูมา แล้วเช็ดน้ำตา ก้มหน้าลงแล้วพูดขึ้นว่า: “หนูเพิ่งออกมาได้สองวัน อยู่ข้างในประพฤติตัวดี หนูเลยถูกปล่อยตัวออกมาก่อนค่ะ”
หลังจากที่เธอออกมา เธอได้กลับไปที่บ้านของตัวเองก่อน หลังจากกลับไปถึงบ้านถึงรู้ว่าคฤหาสน์ของตระกูลได้ขายให้กับคนอื่นแล้ว
เธอโทรศัพท์หาคนในครอบครัว แต่ไม่มีคนรับโทรศัพท์ของเธอ
เธอสัมผัสได้ว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเธอแน่นอน มิฉะนั้นก็คงไม่ขายคฤหาสน์ทิ้ง
และไม่มีคนบอกเธอ หลังจากที่เธอเข้าไปข้างใน ตอนแรกๆ แม่ของเธอยังไปเยี่ยมเธออยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานคุณแม่ของเธอก็ไม่ค่อยได้ไป จนสุดท้าย มีแต่ฝากให้คนเอาเสื้อผ้าและเงินไปให้เธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงแม้จะเอาเงินไปให้เธอ แต่ก็เป็นเงินที่น้อยมาก
ในระหว่างที่อยู่ข้างในคุกนั้นเธอก็สัมผัสได้ว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอแน่นอน ไม่งั้นเงินที่ให้เธอก็คงไม่ยิ่งอยู่ยิ่งน้อยแบบนั้นหรอก
ถึงแม้เธอจะเป็นห่วงที่บ้าน แค่ถูกคุมขังอยู่ในคุก ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
นอกจากเป็นห่วงคนในครอบครัวแล้ว ช่วงที่อยู่ข้างใน คนที่เธอคิดถึงมากที่สุด ไม่ใช่ยศพัฒน์ แต่กลับเป็นนฤเบศวร์ที่เฝ้าปกป้องดูแลเธอมาสิบกว่าปี
เปรมารู้สึกเสียใจมาก เสียใจมากจนรู้สึกอยากตาย
โดยเฉพาะหลังจากที่สูญเสียอิสรภาพ ทำให้เธอย้อนนึกถึงความรักและความดีที่นฤเบศวร์มีให้กับเธอ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก
ถ้าหาก เธอเชื่อฟังคำพูดของคุณแม่ตั้งแต่แรก ถ้าหากเธอสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนตั้งแต่แรก ปล่อยวางความยึดติดที่มีต่อยศพัฒน์ เธอคงไม่ต้องทำลายอนาคตตัวเองแบบนี้หรอก จากผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน กลายเป็นคนสูญเสียอิสรภาพ กลายเป็นคนน่าสงสารที่ต้องสูญเสียทุกอย่าง
เหมือนดังที่คนเขาว่า คนที่น่าสงสารมักน่าชังเสมอ
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะดูน่าสงสาร แต่ก็เป็นเพราะเธอทำมันเองทั้งนั้น ไม่คู่ควรได้รับความเห็นใจจากผู้อื่น
ถ้าหากเธอยอมรับความรักของนฤเบศวร์ตั้งแต่แรก ตอนนี้เธอก็คงมีความสุขมาก
เมื่อก่อนนฤเบศวร์ทะนุถนอมเธอเหมือนดังของมีค่า ถ้าเธอแต่งงานกับนฤเบศวร์ เขามีแต่จะทำดีกับเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน