ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 400

ในเมืองกลับมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการปางตาย ยืนไกลๆยังได้กลิ่นคาวเลือดบนตัวฝ่าบาทเลย

พอได้ยินข่าวนี้ โหลชีโกรธจัดทันที ตบโต๊ะดังร้องว่า "เทียนยี!"

เมื่อคืนหลังจากมาถึงเมืองชีตี้เอ้อร์ไปพักผ่อนก่อน เทียนยีเฝ้าประตูไว้ นางให้เทียนยีพาคนออกไป ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้น ไม่หาเขาแล้วหาใคร?

หลังจากฟ้าสว่างตี้เอ้อร์มารับหน้าที่ต่อ เทียนยีไปพักผ่อนได้สองชั่วยาม ตอนนี้พึ่งตื่น ก็ได้ยินเสียงโหลชีเรียกเขา และน้ำเสียงยังโกรธจัดอย่างน้อยนักที่จะเป็น เขาใจกระตุกทันที

"พระสนม ข้าน้อยมาแล้ว"

ถึงโหลชีจะโกรธจัด แต่ตอนนี้ก็ระงับความโกรธไว้

"เมื่อคืนนางกำนัลที่ข้าให้เจ้าพาไปคุมตัวล่ะ?"

"เมื่อคืนข้าน้อยมอบนางให้องครักษ์จวนเจ้าเมืองคุมตัวขอรับ" เมื่อคืนโหลชีไม่ได้บอกเขาอย่างชัดเจนว่าจะคุมตัวยังไง เขาเลยไม่ได้ไปดูแลควบคุมด้วยตัวเอง

โหลชีขมวดคิ้วแน่น สั่งให้คนพาไปดูนางกำนัลนั่น

นางกำนัลหงเสียโดนขังไว้ในห้องคนรับใช้ห้องหนึ่ง ยังไม่ทันมีผ้าปูเตียงและผ้าห่ม โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูร้อน นางกอดเข่าตนเองอยู่มุมหนึ่ง นอกจากท้องหิวแล้ว ยังไม่ได้โดนทรมานอะไร ดังนั้นเลยไม่กลัว

พอเห็นโหลชีมาด้วยตัวเอง นางยังใช้สายตาเคียดแค้นมองมาทางนาง

"มีใครมาพบนางหรือไม่?" โหลชีเพียงเหล่นางหนึ่งที ก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไร พอนางถามคำนี้ออกมา หงเสียตกใจทันที นี่หมายความว่าอันใดกัน? นางเจอไปแค่คนเดียว...

องครักษ์รักษาการณ์ก้มหน้าตอบ "เรียนพระสนม มีเพียงป้าของหงเสียมาเยี่ยมหนึ่งครั้ง คุยผ่านประตูกับนางแล้วก็ไป"

"ตอนพวกนางคุยกัน เจ้าอยู่ที่ไหน?"

องครักษ์ตกใจ นางรู้ได้อย่างไรว่าตอนพวกนางคุยกันเขาไม่ได้อยู่ข้างๆ? เขาไม่กล้าปิดบัง "ตอนนั้นข้าน้อยออกไปปลดทุกข์พอดี..."

เขาหน้าแดงด้วยความอาย

"พาตัวป้าของนางมา"

พอได้ยินโหลชีพูดอย่างนี้ หงเสียกระโดดผลุงขึ้นมาทันที "พระสนมจะทำอะไร?"

โหลชีมองนางสายตาเย็นชา "ทำอะไร เจ้าน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะ"

ป้าของหงเสียถูกพาตัวมาก็ตื่นเต้นมาก ไม่กล้าเงยหน้ามองโหลชี โหลชีเห็นท่าทีนางก็เข้าใจทันที "พวกเจ้าจงใจทำผิด"

รู้ทั้งรู้ว่าไม่สามารถพูดคำพูดพวกนั้นออกไป รู้ทั้งรู้ว่าพูดออกไปแล้วจะทำให้พวกเขาโกรธ แต่ก็ยังพูด ยังทำ

"พระสนมพูดอะไร ข้าน้อยไม่เข้าใจ" หงเสียยังหน้าด้านพูดต่อ

"เพี๊ยะ!"

โหลชีสะบัดมือตบหน้านางจนล้มไปกองกับพื้น

ปกตินางไม่ทำร้ายผู้หญิง แต่นั่นมันสถานการณ์ปกติ ตอนนี้หงเสียทำนางโกรธจัดแล้ว นางกำลังวางแผนจะปกปิดสถานการณ์ของเฉินซ่าให้ดี สุดท้ายไม่คิดเลยว่าจะมาพังในมือหนูตัวเดียว

แล้วจะให้นางเก็บหนูตัวเล็กนี่ไว้ได้ยังไง? คนมันอยากหาเรื่องตาย นางไม่ถือสาที่จะช่วยให้อีกฝ่ายสมหวังหรอก

พอโหลชีลงมือ โหลวซิ่นก็ชักกระบี่ออกมาพาดไว้บนคอของหงเสียทันที คราวนี้หงเสียตกใจจนสีหน้าซีดเผือด

แต่โหลชีกลับไม่สนใจนางอีก นางหันหาผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ทำงานในจวนเจ้าเมือง หน้าตาดูแล้วไม่ใช่คนนิสัยดีอะไร เป็นพวกใจคับแคบปากร้าย คนแบบนี้ถนัดเผยแพร่ข่าวลือจากหัวตลาดไปยังท้ายตลาดที่สุด

"พูดมา ข่าวลือแพร่ออกไปได้อย่างไร?"

ผู้หญิงคนนั้นถอยไปทางประตูอย่างสุดชีวิต แต่ไม่ว่าจะถอยไปยังไง ด้านหลังก็เจอเทียนยีแล้ว เทียนยีเองก็ชักกระบี่ออกมา เสียงชิ้งดังขึ้นทำเอาผู้หญิงคนนั้นตกใจจนทรุดลงไปนั่งกับพื้น ร้องโหยหวนออกมา

"โอ๊ย พระสนมได้โปรดไว้ชีวิตด้วย! ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว! คือ หงเสียบอกว่า ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้เมืองชีไม่มียารักษา หมอที่นี่ก็รักษาไม่ได้ ฝ่าบาทเอาแต่กระอักเลือดทั้งวัน กลิ่นคาวเลือดล้างยังไงก็ล้างไม่หมด..."

เทียนยีกับโหลวซิ่นสูดหายใจสะท้านเยือก

โหลชีถามเสียงต่ำว่า "แพร่ข่าวลือพวกนี้ออกไป เป้าหมายของเจ้าคืออะไร?"

จุดนี้นางคิดไม่ตกจริงๆ เป้าหมายที่หงเสียแพร่ข่าวพวกนี้ออกไปเพื่ออะไรกันแน่?

สีหน้าหงเสียซีดเผือดเล็กน้อย ป้าของนางถูกกระบี่พาดคอตกใจจนพรั่งพรูออกมาหมด "พี่ชายของหงเสียขุดหาตัวยาไปทั่วทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้อยู่ตลอด..."

"ป้าเถียน!" หงเสียร้องเสียงดังออกมา "ท่านพูดจาซี้ซั้วอะไร!"

โหลชีหรี่ตาลงเล็กน้อย "โหลวซิ่น ฆ่านางซะ"

"อะไรนะ?"

โหลวซิ่นอึ้งไปเล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยเห็นโหลชีไม่พูดพร่ำทำเพลงก็สั่งฆ่าคน และให้ฆ่าสาวน้อยคนหนึ่ง เพียงเพราะนางแพร่ข่าวลือออกไป

หงเสียและป้าเถียนยิ่งตกใจจนตัวสั่นงันงก หงเสียมองโหลชีอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่เชื่อว่านางจะสั่งฆ่าตน

"อย่าให้ข้าพูดครั้งที่สอง"

"ขอรับ!"

โหลวซิ่นขอแค่แน่ใจว่าฟังไม่ผิด ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของโหลชีทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ