รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน) นิยาย บท 26

ภายในห้องทำงานของท่านประธานกวินชู เวลานี้ภรรยาของเขานั่งทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ หลังจากที่นางและสามีกลับออกมาจากห้องประชุม ซึ่งใบบุญไม่ชอบใจเลยสักนิดที่กวินคิดจะแต่งตั้งให้ออสตินเป็นท่านรองประธานส่วนใบพลูมีหน้าที่เป็นแค่เลขาให้กับชายหนุ่ม ซึ่งไม่รู้ว่าเธอจะถูกออสตินแกล้งอะไรอีกบ้าง

“คุณใบบุญครับ ทำไมต้องชักสีหน้าบึ้งตึงใส่ผมแบบนี้ด้วย” กวินพูดออกมาด้วยเสียงหวาน ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวข้างๆ ภรรยาของเขา ลำแขนแกร่งโอบไปที่ไหล่มนของคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยท่าทีที่อบอุ่น

“ขยับออกไปเลยนะ ฉันไม่เข้าใจคุณจริงๆ คิดยังไงถึงได้ยกตำแหน่งรองประธานให้กับออสติน ถ้าใบพลูรู้แล้วลูกจะเสียใจแค่ไหน” ใบบุญพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตำหนิกวิน เมื่อเธอกลัวว่าใบพลูจะน้อยใจ ที่จู่ๆ บิดาก็ยกตำแหน่งรองประธานบริษัทให้กับออสติน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาหมายมั่นปั้นมืออยากให้ลูกสาวได้เป็นซีอีโออย่างเต็มตัว

“ออสตินมีอะไรหลายๆ อย่างที่จะทำให้คู่แข่งของเราซอฟท์ลง ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทเราเริ่มที่จะมีปัญหา เพราะฝั่งโน้นคิดโพรเจกต์ออกมาราวได้ราวกับเข้ามานั่งในใจของใบพลู ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเอาข้อมูลการออกแบบพวกนั้นมาจากไหน” กวินพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเขากำลังสงสัยเดย์เป็นที่สุด เนื่องจากชายหนุ่มมีอะไรบางอย่างที่ทำให้น่าสงสัย

“หมายความว่ายังไงคะ” ใบบุญเงยหน้าขึ้นไปถามสามีด้วยความแปลกใจ เพราะนางเชื่อเหลือเกินว่าลูกสาวไม่มีทางให้ข้อมูลการออกแบบกับใครอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนว่าลูกสาวของเรากำลังเป็นเป้าหมายของบริษัทคู่แข่ง ผมไม่อยากให้ใบพลูเผชิญหน้ากับปัญหานี้โดยตรง ผมเชื่อว่าออสตินจะสามารถแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เขาไม่มีทางทิ้งให้ใบพลูต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ อย่างแน่นอน” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เมื่อนักธุรกิจอย่างเขาเคยผ่านสนามรบในการแข่งขันทางด้านธุรกิจมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่ทำงานในวงการสีเทาจวบจนกระทั่งวามือมาทำการค้าขายที่ซื่อสัตย์สุจริต หลังจากที่เขาต้องการจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนดั่งทุกวันนี้

“ฉันก็ได้แต่หวังว่าออสตินจะไม่ใจร้ายกับใบพลูจนเกินไป ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจสักเท่าไหร่ แต่เรื่องของหัวใจคงไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้ ถ้าหากวันหนึ่งรู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองฝากชีวิตเอาไว้นั้น มีโลกสองใบไม่ได้รักและซื่อสัตย์กับเราอย่างที่คนอื่นเข้าใจ” ใบบุญเริ่มที่จะกังวลใจมากขึ้น หลังจากที่เธอได้รับข้อความจากผู้ประสงค์ดี แต่กลับไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร เพียงแค่เห็นภาพของออสตินกับมิ้นต์บวกกับข้อความเหล่านั้น ทำให้ผู้เป็นมารดาห่วงลูกสาวเป็นทวีคูณ

“ผมเชื่อว่ามองคนไม่ผิด ออสตินไม่มีทางทำให้ลูกสาวของเราต้องเสียใจ” ดูเหมือนว่ากวินจะเชื่อมั่นในตัวออสตินไม่น้อย หลังจากที่ชายหนุ่มเข้ามาสารภาพ เพื่อขอโอกาสให้ได้พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งออสตินยอมรับว่าส่วนลึกของหัวใจเขาได้รับใบพลูเข้ามาไว้ในใจอย่างไม่รู้ตัว จนเวลาผ่านไปทำให้เขารู้แล้วว่าหญิงสาวมีค่าเพียงใด

“ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ” ใบบุญพูดออกมา พลางถอนหายใจด้วยความเป็นกังวล ก่อนที่นางจะส่งข้อความที่ได้รับมา แต่ก็ไม่ได้ลับอะไรมากมาย แค่ไม่รูว่าคนส่งมาให้เป็นใครมีจุดประสงค์ต้องการจะทำให้ใบพลูกับออสตินผิดใจกันทำไมมากกว่า

เมื่อการเดินทางมาถึงจุดหมาย ซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนของออสตินจะเป็นคนมีชื่อเสียงรู้จักคนมากมายพอสมควร เพราะใบพลูดูจากที่ใครต่อใครก็เข้ามาทักทาย

ก่อนที่เขาจะพาออสตินและเธอเดินทางไปยังบ้านพัก โฮมสเตย์กลางหุบเขา ซึ่งถูกจัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก เพราะมันเต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ของไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ ท่ามกลามลำธารที่ไหลผ่าน ยิ่งทำให้ผ่อนคลายเย็นสบาย

“หลังนี้ไม่ได้เป็นที่พักของแขก เพราะมันคือที่พักส่วนตัวของฉัน ฉันไม่ได้มานอนเป็นปีแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงหรอกแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทุกวัน เหมาะกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันมากเลยนะออสติน” ขุนเขาเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นของเขาได้พูดขึ้นมา พร้อมกับแอบยกยิ้มให้กับใบพลู ซึ่งเธอดูเหนียมอายจนเก็บอาการไม่อยู่ พวงแก้มของหญิงสาวแดงระเรื่อไปจนถึงใบหู เธอคงไม่ชินกับการที่ต้องอยู่ตามลำพังกับออสติน บวกกับที่เพื่อนของเขามักจะพูดออกมาในทำนองที่ว่าออสตินกับเธอรักกันปานจะกลืน ทั้งที่ความเป็นจริงเพิ่งจะพูดดีกันได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง

“ขอบใจมากนะไอ้ขุน บรรยากาศแบบนี้นักท่องเที่ยวต้องติดใจมากันหลายรอบแน่ อิจฉามึงจังได้ทำงานที่ตัวเองรัก แล้วยังได้อยู่กับธรรมชาติแบบนี้อีกด้วย” คำพูดของออสตินทำให้ใบพลูรู้สึกแปลกใจ เขาไม่รักในอาชีพการออกแบบหรืออย่างไร ทำไมถึงได้พูดราวกับว่าถูกบังคับให้เรียนในสาขาที่ขัดใจ

“มึงก็เหมาะกับงานในบริษัท กูมันชาวไร่ชาวสวนก็เหมาะกับการทำมาหากินแบบนี้แหละ ไหนจะงานที่ไร่ ที่โฮมสเตย์กูบอกตามตรงอยากลาออกจากการเป็นนายขุนเขาวันละสิบรอบเลยทีเดียว” ชายหนุ่มสองคนถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน หลังจากที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายปี

“ยังไงก็ขอบใจมากนะ แล้วเจอกันตอนเย็น”

“อืม... ขับรถมาเหนื่อยๆ พักเถอะ ยัยมอนเน่ฝากมาบอกมาว่าเย็นนี้อยากเลี้ยงเหล้าเพื่อนเก่า ถึงขนาดยอมเปลี่ยนไฟท์บินไปเมกา รับรองว่าคืนนี้สนุกกันแน่ แล้วเจอกันนะไอ้ออส ตามสบายนะครับคุณใบพลู”

ขุนเขาเอามือตบไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนจะหันไปพูดกับใบพลู หญิงสาวส่งยิ้มบางๆ ไปให้กับเขา ก่อนที่เจ้าเของโฮมสเตย์จะเดินออกไปจากบ้านพัก ปล่อยให้คนทั้งสองได้อยู่กันตามลำพัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน)