นับหนึ่งโทรออกไปยังเบอร์ของนิ่ม ส่วนนิ่มที่ยืนรออยู่หน้าเครื่องเสียงก็กดรับสายทันทีที่มีสายเข้า แล้วนับหนึ่งก็กระซิบถามผ่านโทรศัพท์ว่า
" รอแป๊บนะ ปรับเครื่องเสียงเรียบร้อยยัง "
" เรียบร้อย ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณนี้แน่นอน "
" ขนาดนั้นเลย โอเคๆ เธอรอฟังฉอดสำคัญให้ดีนะ "
" อื้อ รออยู่ "
นิ่มเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆอย่างตื่นเต้น แล้วนับหนึ่งก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าของเสื้อคลุม
จากนั้นก็ไปเอาของว่างที่เตรียมไว้ให้อิงฟ้าแล้วเดินถือไปยังห้องที่อิงฟ้าพักอยู่
พอไปถึงหน้าประตูเธอก็ยกมือขึ้นมาเคาะประตูห้องพักส่วนตัวที่ใช้แต่งหน้าแต่งตัว
" ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "
อิงฟ้าที่อยู่ในห้องยิ้มร้ายออกมาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างวางท่า
" เข้ามาได้ "
นับหนึ่งผลักประตู ถือถาดเข้ามาในห้อง อิงฟ้ามองผู้จัดการของตัวเองแล้วเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งๆแต่แฝงไปด้วยแผนการร้ายอย่างรู้กันผ่านแววตา
" คุณออกไปก่อน "
" ได้ค่ะ "
ผู้จัดการวัยสี่สิบเอ่ยตอบรับคำแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง
นับหนึ่งเดินไปวางถาดลงบนโต๊ะด้วยแววตานิ่งเฉยเย็นชา
จากนั้นก็หมุนตัวเดินตามผู้จัดการออกไป กำลังจะยื่นมือออกไปเปิดประตูแต่กลับถูกอิงฟ้าหยุดไว้ด้วยถ้อยคำหยิ่งยะโส
" ฉันอนุญาตให้เธอออกไปแล้วเหรอ "
นับหนึ่งยืนนิ่งพร้อมกับยิ้มมุมปากด้วยแววตาเย็นชาอย่างเจ้าเล่ห์
จากนั้นก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นนิ่งเฉยเย็นชาหมุนตัวหันมาทางอิงฟ้าแล้วเลิกคิ้วถามขึ้นเสียงเรียบ
" คุณอิงฟ้า....มีอะไรคะ? "
เธอเอ่ยพร้อมกับแอบใช้มือที่ไขว้หลังล็อกประตู ไว้ไม่ให้คนนอกเข้ามาได้อีก
อิงฟ้าจ้องหน้าเธออย่างวางท่าด้วยท่าทีหยิ่งผยองแล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างอยากรู้เรื่องชาวบ้าน
" ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ แกบอกมาว่าใครส่งแกเรียนมหาลัยแห่งนี้ "
นับหนึ่งเลิกคิ้วอย่างยั่วโมโหคนตรงหน้าแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" โอ๊ะ...คุณ ทำไมถึงมาใช้ถ้อยคำแบบนี้กับฉัน แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมารู้เรื่องส่วนตัวของฉันคะ "
ท่าทางหยิ่งยะโยของนับหนึ่ง ทำให้อิงฟ้ารู้สึกเกลียดขี้หน้าเธอจนยากจะควบคุมอารมณ์แล้ว
ส่วนทางด้านนิ่มที่นั่งคุมเครื่องเสียง เธอเอาไมค์จ่อไว้ที่ลำโพงโทรศัพท์ ทำให้เสียงกระจายไปทั่วบริเวณอาคาร
ตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้ยินและอึ้งกันจนพูดไม่ออก รอฟังว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
ภายในห้อง อิงฟ้าจ้องหน้านับหนึ่งด้วยความรู้สึกเกลียดชังอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
ส่วนนับหนึ่งก็ยิ้มเยาะแล้วเบะปากใส่ มองอิงฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาดูถูกอย่างรังเกียจเพื่อยั่วให้อิงฟ้าสติแตก
" นังนับหนึ่ง แกอย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ แกคิดว่าแกได้เข้ามาเรียนในมหาลัยแห่งนี้ได้แล้ว แกจะวิเศษวิโสไปกว่าคนอื่นเหรอ
แกที่ไม่มีแม้กระทั่งพ่อแม่ ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน แต่กลับสามารถเข้ามาเรียนในมหาลัยดังๆได้ คงเอาตัวเข้าแลกสินะ "
นับหนึ่งได้ยินดังหน้าสีหน้าเธอก็เข้มขึ้นมาทันที เธอจ้องหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างนิ่งๆ
อิงฟ้าได้ที ยิ้มเยาะออกมาแล้วเอ่ยต่ออย่างลำพองใจ ที่จี้ได้ถูกจุดของนับหนึ่ง
" หึ สงสัย ผู้ชายที่เลี้ยงดูแก คงจะพอใจในพรหมจรรย์ของแกมากสินะ
ถึงได้ส่งเสียให้แกเรียนในมหาลัยดังๆ มีกินมีใช้เหมือนคนอื่นแบบนี้ เขาช่างลงทุนจริงๆ
โอ้...ไม่สิ ฉันลืมสนิทเลย ความจริงแกไม่ได้บริสุทธิ์มาตั้งนานแล้วหนิ
อืม...จะว่าไปแล้ว อาชีพแกมันก็เป็นอาชีพสุจริตอ่ะเน้อ แกคงทำจนเคยชินแล้ว
และผู้ชายที่ส่งเสียเลี้ยงดูแกก็คงจะไม่คิดมากเรื่องความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ใช่มั้ย "
นับหนึ่งกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด ตอนนี้เธออยากซัดอิงฟ้าจนแทบจะความคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนกับพ่อแม่ของหล่อน เธอก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ให้ใครมายืนดูถูกได้แบบนี้ เธอเกลียดคนที่ขืนใจเธอที่สุด ในหัวมีแต่อยากจะฆ่าปิดปากคน
อิงฟ้าเห็นนับหนึ่งโกรธจนมือสั่นก็ได้ใจเข้าไปใหญ่ เธอยิ้มออกมาที่มุมปากแล้วเอ่ยต่อ
" ฉันเอาเรื่องจริงมาพูดเล่น มันทำให้เธอเกือบจะกระอักเลือดตายเลยเหรอ ฉันไม่น่าพูดเลย เธอคงไม่ถือสาฉันหรอกนะ "
นักศึกษาทุกคนที่อยู่ข้างนอกเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับนับหนึ่ง
" เธอนับหนึ่งไหนอ่ะ "
" ก็คนที่สวยๆไง น้องปีสองอ่ะ "
" ใช่ดาวมหาลัยปีที่แล้วมั้ย "
" ใช่ๆ คนนั้นแหละ "
" เธอเป็นเด็กเสี่ยเหรอ ว้าเสียดายความสวยของเธอจัง "
ไม่เพียงแต่ผู้หญิง กลุ่มกะเทยเองก็จับกลุ่มพูดถึงนับหนึ่งด้วยความเสียดายเช่นกัน
" นางไม่น่าเป็นเด็กเลี้ยงเสี่ยเลยน้อ เสียดายหน้าตาสวยๆที่ดูอนาคตไกลถ้าได้เข้าวงการ "
" อือ จริง เสียดาย "
ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มผู้ชายเองก็พูดถึงนับหนึ่งเหมือนกัน
" นับหนึ่งห้องเราเป็นเด็กเสี่ยจริงเหรอวะ "
" กูว่า ใช่ชัวร์ ไม่งั้นระดับคุณอิงฟ้า ถ้าไม่รู้จริง จะพูดออกมาลอยๆเหรอวะ "
" นั่นดิ ดูเหมือนจะมีคนแอบปล่อยเสียงที่พวกเขาคุยกันด้วย ปฐมนิเทศปีนี้ มีเรื่องสนุกๆเซอร์ไพรส์ มันดีจริงๆ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก