ธีร์ผลักประตูกลับเข้ามาหาสาวๆในห้องพร้อมกับถือโทรศัพท์ในมือแล้วเอ่ยถามนับหนึ่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
" คุณพร้อมไลฟ์หรือยัง "
นับหนึ่งพยักหน้าตอบเบาๆ แล้วธีร์ก็เดินไปตั้งขากล้องตรงหน้านับหนึ่ง เสร็จแล้วก็เอ่ยขึ้น
" ผมว่าคุณสวมหมวกหน่อยมั้ย ช่วงนี้คุณไม่ควรเปิดเผยใบหน้าให้ใครเห็นจนเกินไป "
" อื้อ ได้ค่ะ แต่นับหนึ่งไม่มีหมวก "
นับหนึ่งพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ธีร์หมุนตัวเดินออกไปจากห้องแล้วกลับไปหยิบเอาหมวกแก๊ปสีดำของตัวเอง แล้วนำมาสวมใส่ให้นับหนึ่ง
จากนั้นก็ติดไมค์ให้เธอแล้วเอ่ยพร้อมกับสบตาเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง
" ผมสนับสนุน ในทุกการตัดสินใจของคุณ แต่ผมจะไม่ให้คนที่ต้องการตัวคุณได้เห็นใบหน้าสวยๆของคุณ "
นับหนึ่งที่ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวในหัวกลับสบตาเขาด้วยแววตาซาบซึ้งแล้วเอ่ยเสียงอ่อนอย่างซึ้งใจ
" ขอบคุณค่ะ "
ธีร์ยิ้มละมุนอย่างอ่อนโยนแล้วเดินกลับมายังจุดที่ตั้งกล้องโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามขึ้น
" พร้อมมั้ย "
" พร้อมค่ะ "
นับหนึ่งพยักหน้าเอ่ยตอบ จากนั้นธีร์ก็เริ่มนับถอยหลัง
" ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง เริ่ม "
พอได้ยินคำว่าเริ่ม นับหนึ่งก็นั่งหน้านิ่งอย่างเศร้าๆ กะพริบตาปริบๆคล้ายคนจะร้องให้
จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วก้มหน้าเล็กน้อยทำหน้าทำตาเศร้าๆแล้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้อย่างน่าสงสาร
" ก่อนอื่นเลยหนูขอกราบสวัสดีและขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ
หนูคือผู้ที่ถูกดาราสาวชื่อดังอย่างคุณอิงฟ้าทำร้ายร่างกาย เพราะความเข้าใจผิด
เธอคิดว่าหนูไปสืบเรื่องของเธอเพื่อมาแฉ จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ
หนูพยายามจะอธิบายกับเธอแล้วว่าหนูกับเพื่อนไม่ได้ตั้งใจจะแฉเธอ
แต่ ณ ตอนนั้น หนูไม่มีโอกาสได้พูดอธิบายเลยเพราะโดนเธอตบเอาซะก่อน
หากคุณอิงฟ้าได้ดูไลฟ์ของหนูแล้ว อยากให้คุณอิงฟ้าเข้าใจใหม่ค่ะ
ความจริงหนูกับเพื่อนก็โทรหากันตามปกติของคนเป็นเพื่อนรักกันค่ะ
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ตอนนั้นหนูเข้าไปเสิร์ฟของว่างให้คุณอิงฟ้าพอดี
แล้วนางก็โทรเข้ามาถามว่า อยู่ไหน เพราะตอนที่หนูออกมาเอาของว่างนางไปเข้าห้องน้ำ
พอออกมาแล้วไม่เจอหนูอยู่ที่เดิมนางก็โทรมาถามเป็นเรื่องปกติ เพราะเราจะไปนั่งทานของว่างใต้ตึกกัน
แต่ด้วยความที่หนูกลัวคุณอิงฟ้าจะรอนานเลยไม่อยู่รอให้เพื่อนกลับมาถึงก่อน
พอนางโทรเข้ามาหนูเลยบอกนางว่า กำลังเอาของว่างมาเสิร์ฟให้คุณอิงฟ้าอยู่ ยังไม่ว่าง
แล้วให้นางไปรอหน้าเครื่องเสียงซึ่งเป็นจุดที่หากันง่าย เพราะคนเยอะ
เราไม่อยากเสียเวลาหากัน มันต้องทำเวลาเนื่องจากเรามีเวลาพักเบรกแค่ครึ่งชั่วโมงค่ะ
อีกอย่างมันเป็นความเคยชินของเราสองคน ที่เวลารอกันจะไม่วางสายเลย จนกว่าอีกฝ่ายจะมาถึงจุดนัดพบค่ะ
เพราะเราต่างก็คิดว่าเสิร์ฟของว่างเสร็จก็กลับมา เลยไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไร ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกทำร้ายกลับมาแบบนี้
ที่ออกมาไลฟ์สดก็เพื่อต้องการอธิบายและยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
ว่าหนูกับเพื่อนโทรคุยกันตามประสาเพื่อนเป็นปกติจริงๆค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลย
ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็ขอกราบขอโทษคุณอิงฟ้าแทนเพื่อนของหนูด้วยนะคะ
ที่สะเพร่าเข้าไปอยู่ใกล้เครื่องเสียงโดยไม่ดูให้ดีว่าไมค์ปิดหรือว่าไมค์เปิดอยู่
แล้วก็ขอกราบขอโทษแฟนคลับของคุณอิงฟ้าทุกๆท่านทุกๆคนจากใจเลยค่ะ ที่ทำให้เกิดข่าวเสียหายขึ้นกับคุณอิงฟ้า
และสุดท้ายนี้ขอกราบขอโทษชายสวมหน้ากากที่หนูเผลอหลุดปากพูดเรื่องที่คุณซื้อบริการผู้หญิงไว้บำเรอกาม
หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าส่งคนมาตามล่าตัวหนูอีกเลยนะคะ หนูกลัวแล้ว
หนูสัญญาว่าจะไม่พูดและไม่ยุ่งเรื่องของคุณอีกแล้วค่ะ โปรดเมตตาให้หนูได้มีชีวิตอย่างคนอื่นด้วยนะคะ "
เธอเอ่ยไปประคบหน้าไปแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างคนรู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น
เพื่อให้คนดูเข้าใจว่าเธอเกรงกลัวอิทธพลของชายสวมหน้ากากกับอิงฟ้ามากและเพื่อย้ำให้คนดูเข้าใจตรงกันว่าสองคนนี้เกี่ยวข้องกันจริง
จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นมาไหว้อีกครั้ง แล้วแสร้งบีบน้ำตาอ้อนวอนขอโอกาสอย่าน่าเห็นใจ
" หนูขอวอนแฟนคลับคุณอิงฟ้าโปรดอย่าถือสาหนูกับเพื่อนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เลยนะคะ
และขอให้โอกาสหนูได้กราบขอโทษคุณอิงฟ้าผ่านไลฟ์สดนี้ด้วยค่ะ
ขอโทษจริงๆค่ะ ต่อไปหนูจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว
ความเจ็บครั้งนี้มันทำให้หนูกลัวจนหลาบจำไปจนตายเลย หนูกราบขอโทษค่ะ "
ที่เธอทำแบบนี้เพื่อปกป้องเพื่อนสาวคนสนิทไม่ให้ถูกเข้าใจผิดหรือถูกมองไม่ดี
และเพื่อให้แฟนคลับของอิงฟ้ารวมถึงคนอื่นๆเข้าใจว่าเธอไม่ได้มีเจตนาอื่นแอปแฝงจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก