เคธี่เดินนำนับหนึ่งเข้าไปในห้องแต่งหน้าทำผม พอเจอพี่ๆช่างแต่งหน้า ช่างทำผม นับหนึ่งก็ยกมือไหว้ทุกคนด้วยท่าทีนอบน้อม
" สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ "
ทุกคนหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นมารับไหว้จากเธอพร้อมกับเอ่ย
" สวัสดีจ้ะ "
เคธี่ยิ้มแล้วเอ่ยกับช่างแต่งหน้าด้วยสีหน้าเป็นมิตร
" พี่ขอฝากน้องนับหนึ่งด้วยนะคะ "
" ได้ค่ะ "
ช่างแต่งหน้าสาวคนหนึ่งเอ่ยตอบขึ้นด้วยรอยยิ้มหวาน จากนั้นก็หันมาเอ่ยกับนับหนึ่ง
" เชิญน้องนับหนึ่งมานั่งหน้ากระจกเลยค่ะ "
นับหนึ่งเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ส่วนมีมี่ก็นั่งรอเธอไกลๆพร้อมกับถ่ายรูปนับหนึ่งส่งไปให้บอสดู
ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม เริ่มแต่งหน้าทำผมให้นับหนึ่ง จากนั้นก็แต่งตัวให้นับหนึ่งตามชุดที่จะต้องใส่ถ่ายโฆษณา
หลังจากแต่ง หน้าแต่งตัว ทำผมเก็บรายละเอียดต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีมี่ก็พานับหนึ่งไปยังห้องถ่ายทำ ตามที่เคธี่บอก เพื่อให้นับหนึ่งถ่ายภาพนิ่งที่ใช้สำหรับป้ายโปสเตอร์โฆษณา
ระหว่างเดินไปยังห้องถ่ายทำ นับหนึ่งกับมีมี่ก็ได้ยินเสียงพนักงานสองคนแอบซุบซิบกันตรงมุมห้อง
" เธอ ฉันได้ยินผู้จัดการพูดเมื่อกี้ ว่าท่านประธานจะเข้ามาดูตัวนางแบบด้วยตัวเอง หากความสวยไม่ผ่าน จะให้เปลี่ยนเป็นคุณอิงฟ้าทันที "
พนักงานสาวเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คู่สนทนาได้ยินดังนั้นก็ดูตกใจเช่นกัน แล้วเอ่ยขึ้น
" จริงเหรอ แล้วจะทำยังไง นางแบบก็แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จแล้ว ทำแบบนั้น มันจะไม่เป็นการ ไม่ไว้หน้าคุณเคธี่เกินไปหน่อยเหรอ แล้วเราก็ต้องเหนื่อยฟรีๆอย่างงั้นเหรอ "
สองสาวเอ่ยด้วยสีหน้าสีหน้าเซ็งๆด้วยความรู้สึกใจแป้ว
แต่พนักสาวที่เริ่มเปิดสนทนาเรื่องนี้ ก็ยังเชื่อมั่นในตัวนักปั้นมือทองอย่างเคธี่ เธอจึงเอ่ยตอบคู่สนทนาเสียงเบาๆ
" น่ะ ตอนนี้ ทุกคนกำลังเครียดกันอยู่ ได้ข่าวมาว่า คนที่มาถ่ายโฆษณาวันนี้ เพิ่งจะเข้ามาในวงการได้ไม่ถึงเดือน แต่คุณเคธี่กลับป้อนงานใหญ่ขนาดนี้ให้เธอ แสดงว่าเธอต้องมีพรสวรรค์สิ "
" อือ แต่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สำคัญกับบริษัทมาก หากหน้าตาพรีเซ็นเตอร์ไม่ผ่าน
ไม่ถูกใจท่านประธาน ก็คงต้องเปลี่ยนเป็นคุณอิงฟ้านั่นแหละ
เพราะเธอดังมาก ทำรายได้ให้กับบริษัทเรามากมาย ใครจะไม่อยากเลือกเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์บ้างล่ะ
ส่วนดาราหน้าใหม่ มีอะไรสู้คุณอิงฟ้าได้บ้าง ฐานแฟนคลับก็ไม่มี ไม่เข้าใจผู้จัดการเลย เลือกมาได้ยังไง "
คู่สนทนาของพนักงานสาว เอ่ยอย่างเหยียดๆด้วยความดูถูกในเชิงเปรียบเทียบ
ทำให้นับหนึ่งที่ได้ยินดังนั้นกำมือแน่นด้วยความโมโหพร้อมกับพึมพำในใจด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างนิ่งๆ
[ อิงฟ้าอีกแล้วเหรอ ]
มีมี่จับมือนับหนึ่งไว้แล้วเอ่ยปลอบเบาๆกลัวน้องจะโมโห
" อย่าไปสนใจคำพูดคนพวกนั้นให้มันบั่นทอนจิตใจเลย พวกเขาอยากจะพูดอะไรก็ให้ เขาพูดไปเถอะ เราทำหน้าของเราให้ดีพอ "
แต่นับหนึ่งโกรธมาก เพราะเธอจะรู้สึกเสียหน้ามาก ถ้าถูกไล่ให้กลับ เธอนึกถึงคำพูดของเคธี่ที่ว่า
" ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะไม่ถูกรังแกและอยู่รอดในวงการนี้ได้ "
เธอจึงเดินเข้าไปหาสองพนักงานสาวแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบด้วยสีหน้าดุๆเหวี่ยงๆ
" ขอโทษนะคะ ฉันคือคนที่คุณกำลังเอ่ยถึงอยู่ "
สองสาวหันมามองนับหนึ่งด้วยความตกใจอย่างตะลึงกับใบสวยเฉี่ยว น่ารักของนับหนึ่ง
แต่นับหนึ่งกลับไม่สนใจท่าทางตะลึงของสองสาวเลยแม่แต่น้อยแล้วเอ่ยถามขึ้น
" ฉันขอถามหน่อยนะคะ ว่า ดาราหน้าใหม่แล้วยังไงคะ คุณอิงฟ้าดังแล้วมันยังไง
ดังแล้วก็ดับได้เช่นกันนะ เพราะในวงการนี้ ไม่มีอะไร ที่จีรัง ยั่งยืนค่ะ
อีกอย่าง คุณเป็นพนักงาน มาพูดจาไม่น่าฟัง วิจารณ์ถึงความสามารถในการเลือกคนของหัวหน้า
คุณช่างเป็นพนักที่ดีเด่นจริงๆเลยค่ะ หากหัวหน้าคุณทราบ "
เอ่ยถึงตรงนี้ เธอก็ยิ้มเย็นขึ้นที่มุมปากด้วยแววตาโฉบเฉี่ยว แล้วเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเอ่ยต่อเสียงเรียบอย่างข่มคนอื่น
" มันจะเป็นยังไงน้อ "
ด้วยท่าทีนิ่งสงบอย่างสุขุมกับแววตาหงส์อันโฉบเฉี่ยวทรงเสน่ห์จับจ้องสองสาวอย่างเย็นชา
ทำให้พนักสาวที่จ้องหน้าเธอด้วยความตกตะลึงก็ถึงกับหน้าซีดเจื่อนไปจนพูดไม่ออก
เอ่ยจบเธอก็หมุนตัว หันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องถ่ายทำ
แววตาที่เคยแข็งกร้าวแปรเปลี่ยนเป็นซึมๆ เศร้าๆไปในทันที
ส่วนพนักสาวมั้งสองก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังของนับหนึ่งด้วยแววตาอึ้งๆแล้วเอ่ยขึ้น
" ขาวจั๊วะราวกับหิมะ เนียนละเอียดไปทุกอณูรูขุมขนดุจผิวไข่มุก ตัวหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จนเคลิ้มเลยทีเดียว ผู้จัดการเลือกคนได้เหมาะสมจริงๆ "
แล้วพนักสาวมี่ดูถูกนับหนึ่งก็กลับใจเปลี่ยนเป็นเอ่ยตอบเพื่อนสาวว่า
" จริง เธอสวยงดงาม มีเสน่ห์มาก แล้ว แล้วเมื่อกี้เธอก็ได้ยินสิ่งที่เราพูดกันหมดแล้ว งานนี้ตายๆ "
พอไปถึงหน้าห้องถ่ายทำ นับหนึ่งก็หันมาเอ่ยกับพี่มีมี่ของเธออย่างขอความเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก