อาทิตย์ต่อมา นับหนึ่งขนย้ายข้าวของที่จำเป็นต่างๆ เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่เคธี่จัดหาให้
โดยที่ไม่รู้เลยว่า คนที่ซื้อบ้านหลังนี้ให้เธอคือ กวิน แห่งธนินกรุ๊ป
หลังจากขนย้ายกระเป๋าเข้ามาเรียบร้อยแล้ว เคธี่ก็พาเธอเดินชมรอบบ้านแล้วเอ่ยถามขึ้น
" เป็นไง ชอบมั้ย "
" ชอบค่ะ "
เธอพยักหน้าเอ่ยตอบเสียงเรียบ เคธี่ยิ้มแล้วเอ่ยต่อ
" ชอบก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่จะหาแม่บ้านให้สักสองสามคน น้องกับพี่มีมี่ของน้องจะได้ไม่เหนื่อยมาก "
ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งก็รีบปฏิเสธทันควัน
" อ้อ ไม่เป็นไรเลยค่ะ งานบ้านหนูทำเองได้ ไม่ต้องจ้างให้เปลืองเงินหรอกค่ะ "
เคธี่ทำตาโตแล้วเอ่ยขึ้น
" โอ๊ะ ได้ยังไงคะ หนูเป็นดารานะ ต้องใช้ใบหน้า และผิวพรรณในการหาเงิน
หากทำงานบ้านแล้วผิวโทรมจะทำยังไงคะ ไม่ได้ค่ะ น้องจะทำงานบ้านไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าจ้างน้องไม่ต้องเสียดายเลย
เพราะเรามีสปอนเซอร์คอยออกให้ จนกว่าจะหมดสัญญากับทางบริษัท "
เมื่อได้ยินดังนั้น นับหนึ่งก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับเบาๆ
" ค่ะ "
เคธี่มองหน้าน้องด้วยสีหน้ายิ้มอ่อนอย่างเอ็นดูแล้วเอ่ยต่อว่า
" ไปจัดห้องแล้วพักผ่อนเถอะ มะรืนนี้จะต้องไปถ่ายโฆษณาแต่เช้า อย่านอนดึกกันล่ะ "
" ค่ะ "
แล้วเคธี่ก็เดินกลับออกไปที่รถ ส่วนนับหนึ่งก็เดินไปส่งแกไปขึ้นรถ
หลังจากที่แกขับออกไปแล้ว นับหนึ่งจึงหมุนตัวเดินเข้ามาในบ้าน จัดข้าวของไว้ในห้องของตัวเองต่อ
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ กรเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านาย มาหยุดลงตรงหน้าเขาแล้วเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
" ท่านประธานครับ คุณนับหนึ่งกับคุณมีมี่เข้าไปอยู่ในบ้านที่ท่านประธานจัดไว้ให้แล้วครับ
ส่วนเรื่องที่ให้ไปตรวจสอบเจ้าของร้านกาแฟ คุณเคธี่บอกว่า
เจ้าของร้านกาแฟคือ คุณธีร์ ธามไท ครับ คุณเคธี่บอกว่า
คุณนับหนึ่งอยู่กับเขาตลอดเลยครับ เธอเรียนไปด้วย ทำงานเป็นพนักงานร้านไปด้วยครับ "
" เป็นเขาอีกแล้วเหรอ แล้วทำไมตอนที่เราไปถึงไม่เคยเจอนับหนึ่งเลย "
" นั่นสิครับ "
กวินนั่งใช้ความคิดอยู่สักพักแล้วเอ่ยพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัย
" ถ้านับหนึ่งอยู่กับเขามาโดยตลอด งั้นก็แสดงว่าคนที่เราเคยสงสัยว่าเป็นผู้หญิงของเรา ก็ต้องเป็นนับหนึ่งสิ แล้วทำไมเธอถึงไม่มีรอยสัก ร่องรอยการลบก็ไม่มีเลย "
" เอ่อ มันจะเป็นไปได้มั้ยครับ ว่ามันอาจจะมีการทำศัลยกรรมปกปิดร่องรอยครับ "
กวินผงกหัวเบาๆแล้วเอ่ย
" อือ...มีความเป็นไปได้ อ้อ จริงสิ กฤตเคยเห็นหน้าหญิงสาวคนนั้น เดี๋ยวคุณเรียกให้กฤตกลับมาทำงานเลยนะ จะได้ให้เขาดูว่าเธอใช่หญิงสาวคนนั้นหรือเปล่า "
" ได้ครับ "
จากนั้นกวินก็ลุกออกจากเก้าอี้ทำงานตัวโปรด เดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างอารมณ์ดี
สองวันต่อมา นับหนึ่งตื่นแต่เช้าไปถ่ายโฆษณาตามเวลาที่เคธี่นัดหมาย
หลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มถ่ายทำทันที ในขณะที่เธอกำลังถ่ายใกล้จะเสร็จ
รถหรูคันสีดำ ก็เคลื่อนเข้ามาจอดไกลๆ กรที่สวมใส่ชุดสูทสีดำ
ยื่นมือออกไปเปิดประตูแล้วก้าวเท้าลงมาจากรถ จากนั้นก็หันมาเปิดประตูให้เจ้านายที่นั่งเบาะหลังต่อ
กวินก้าวเท้าเรียวยาวลงมาจากรถ พอรองเท้าหนังสีดำเงา แตะลงถึงพื้นก็ปรากฏร่างสูงใหญ่
ในชุดสูทสีเทาอ่อนหล่อเนี้ยบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ส่วนกฤตก็เปิดประตูทางฝั่งคนขับก้าวลงจากรถ แล้วเดินมายืนอยู่ข้างเจ้านายด้วยสีหน้านิ่งๆ
กวินยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้าวเข้าไปในสถานที่ถ่ายทำโฆษณา
เขาอยากจะเห็นตอนที่กฤตกับนับหนึ่งเจอกัน เพื่อดูปฏิกิริยาของทั้งสอง
สามหนุ่งเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆผู้กำกับ ทันทีที่เห็นหน้านับหนึ่งผ่านจอ
กฤตก็เข้าใจจุดประสงค์ของเจ้านายทันที ว่าต้องการพิสูจน์อะไร
เขาทำหน้านิ่งไม่แสดงความประหลาดใจหรือตื่นเต้นใดๆออกมา กวินที่ชำเลืองมองเขาอยู่
เมื่อเห็นแววตาลูกน้องนิ่งสงบก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ
ที่ไม่เห็นร่องรอยของความผิดปกติใดๆ บนใบหน้าของลูกน้องคนสนิทเลย
" คัทๆ น้องนับหนึ่งทำได้ดีมากครับ "
ผู้กำกับเอ่ยชมขึ้น
พอถ่ายเสร็จผู้กำกับก็หันมาเห็นกวิน จึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ตามฐานะทางสังคม
" ท่านประธาน สวัสดีครับ "
กวินไม่ได้สนใจผู้กำกับ แต่กลับเดินไปทางนับหนึ่ง
มีมี่เดินเข้าไปจูงมือนับหนึ่งออกมา แล้วพาเธอมานั่งลงตรงที่นั่งที่ถูกจัดไว้ให้ จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้
" เหนื่อยมั้ย อ่ะ ดื่มน้ำเย็นๆหน่อย จะได้หายเหนื่อย "
นับหนึ่งรับน้ำมาดื่มแล้วเอ่ยขอบคุณด้วยสีหน้ายิ้มๆ
" ขอบคุณค่ะ จริงๆไม่เหนื่อยเลย ได้เงินเยอะแล้วมันสนุกมากกว่าค่ะ "
กวินเดินเข้าไปหานับหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น
" คุณแสดงได้ดีเลยนี่ แบบนี้คุ้มค่าจ้างหน่อย "
นับหนึ่งกับมีมี่เงยหน้าขึ้นไปมองเขา จากนั้นก็ย้ายสายตาไปมองกฤตที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างหลัง
มีมี่จึงแสร้งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
" อ้าว คุณลูกค้าหน้าหล่อ ทำไมคุณถึงมากับคุณกวินได้ล่ะ อย่าบอกนะว่าคุณทำงานกับเขาน่ะ "
นับหนึ่งจ้องหน้ากฤตนิ่งๆด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่เผยพิรุธใดๆออกมาผ่านแววตาเลย จากนั้นก็เอ่ยเสริมพี่มีมี่ว่า
" นั่นสิ ทำไมคุณถึงมาอยู่กับพวกเขาได้ล่ะ "
กฤตยืนหน้านิ่งแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบ
" ผมเป็นคนขับรถของท่านประธานครับ "
พอได้ยินดังนั้น ใจนับหนึ่งเต้นกระทบดังโครมครามอย่างไม่เป็นจังหวะ แต่เธอก็แสร้งยิ้มออกมาแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าปกติ
" อ๋อ ที่แท้คุณก็เป็นคนขับรถให้ท่านประธานใหญ่ ช่างน่าอิจฉาจริงๆเลยนะคะ "
กวินจ้องหน้านับหนึ่งแล้วยิ้มมุมปากเบาๆ มีมี่กลัวว่ากวินจะสงสัยในตัวตนของนับหนึ่ง หล่อนเลยเอ่ยเสริมขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ
" นั่นสิ คุณช่างน่าอิจฉาจริงๆ คงได้เงินเดือนสูงมากเลยล่ะสิ วันๆแต่งได้ตัวหล่อๆ ขับรถหรูๆ อย่างเท่ห์เลย "
" ดูเหมือนพวกคุณจะรู้จักกันดีนะ "
กวินเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แสดงความสงสัยชัดเจน สายตาจับจ้องเพียงนับหนึ่งคนเดียว
มีมี่ยิ้มแล้วเอ่ยตอบขึ้น
" รู้จักสิ ก็เขาน่ะ เป็นลูกค้าประจำของร้านเราเลย หน้าตาหล่อๆแบบเขาน่ะ ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ ใครจะจำไม่ได้บ้างล่ะคะ จริงมั้ยน้องนับหนึ่ง "
" งั้นเหรอ "
กวินเอ่ยเสียงเย็นจ้องหน้านับหนึ่งอย่างไม่วางตาจนนับหนึ่งรู้สึกอึดอัด แล้วเอ่ยขึ้นเสียงขุ่น อย่างวางท่า เย่อหยิ่ง เย็นชา
" คุณจ้องหน้าฉันพอหรือยัง ฉันรู้ค่ะ ว่าฉันสวย แต่คุณไม่ต้องจ้องฉันขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ฉันไม่ชอบ "
เอ่ยจบ เธอก็หมุนตัวเดินออกไป แต่กวินกลับรั้งแขนเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิดกับลำตัว ของเขา มองต่ำลงบนใบหน้างามแล้วเอ่ยขึ้น
" ต่อให้ไม่ชอบ ก็ต้องชอบ "
" หึ "
นับหนึ่งส่งเสียงหึออกมาพร้อมกับเบะปากเล็กน้อยอย่างนึกรังเกียจ
นั่นทำให้กวินไม่พอใจอย่างมาก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน กล้าแสดงท่าทีเช่นนี้มาก่อน
จากนั้นเขาก็ฉีกยิ้มเย็นออกมาที่มุมปากแล้วเอ่ยอย่างเนิบๆ
" จะว่าไปแล้ว ริมฝีปากของคุณ มันช่างมีเสน่ห์ ยั่วยวนใจซะจนผมอดใจไม่ไหวแล้วสิ "
เอ่ยจบ เขาก็ก้มลงจูบนับหนึ่งอย่างดูดดื่มต่อหน้าทุกคนทันที โดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น และไม่แคร์ด้วยว่านับหนึ่งจะรู้สึกยังไง
ส่วนนับหนึ่งเธอตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง ตาค้างไปสามวิ
จากนั้นก็พยายามออกแรงผลักเขาออกไปแล้วตุบตีไม่หยุด แต่เขากลับจูบเธอไม่ปล่อย
" อื้อ... อื้ม... "
เสียงต่อต้านของเธอดังอู้อี้เล็ดลอดออกมาผ่านลำคอ
" อื้อ! "
เธอรู้สึกโกรธและอับอายจนหน้าแดงเถือก หัวใจสูดฉีดแรงจนดัง ตึกๆ ตึกๆ อย่างต่อเนื่อ ในขณะที่พยายามดิ้นให้หลุดพ้น จากพันธนาการของชายร่างสูงใหญ่
พอจูบเธอจนพอใจแล้วกวินถึงจะยอมถอนริมฝีปากออกมาแล้วเอ่ยขึ้น
" ริมฝีปากคุณนุ่มมาก ผมชักจะติดใจแล้วสิ "
นับหนึ่งอยากจะตบปากเขามาก เธอกำมือแน่นจ้องมองเขาด้วยความเดือดดาลใจ
มีมี่กับทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของกวิน จนยืนนิ่งอึ้งไปเหมือนหุ่นยนต์
มีเพียงกฤตที่แววตาสั่นไหวเล็กน้อยเพียงเสี้ยววินาทีเดียว จากนั้นก็กลับมานิ่งเหมือนเดิม
ในใจนับหนึ่ง เธอรู้สึกแปลกใจมาก ที่ตัวเองรู้สึกคุ้นเคยกับริมฝีปากของกวิน
รวมถึงเทคนิคการจูบแบบดูดดื่มที่ต่างออกไปจากธีร์ เธอรู้สึกว่ามันแอบคล้ายชายสวมหน้ากาก จึงเผลอถามขึ้นอย่างลืมตัว
" คุณเป็นใคร "
เธอจ้องหน้ากวินพร้อมกับถามเสียงต่ำด้วยสีหน้าดุดัน แววตาแข็งกร้าวชัดเจน
มีมี่ได้ยินเธอเอ่ยถามเช่นนั้น หล่อนก็ได้สติขึ้นมาทันที แล้วหันมามองหน้านับหนึ่ง ที่กำลังจ้องหน้ากวินด้วยแววตาแข็งกร้าว ดุดัน
หล่อนจึงรีบขยับแขนนับหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น
" น้องนับหนึ่งเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ที่นี่มันไม่ปลอดภัย "
เอ่ยจบหล่อนก็ลากนับหนึ่งออกไปจากตรงหน้ากวิน เพราะกลัวเรื่องราวมันจะวุ่นวายมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก