สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 215

เมื่อลูกชายนวดขาที่พิการทั้งสองข้างของแม่ เดิมทีมันก็คือเรื่องปกติทั่วไป เป็นเรื่องที่ลูกกตัญญู ตอบแทนบุญคุณพ่อและแม่ แต่สำหรับคู่แม่ลูกยวี่เฟิ่งเจียวและยวี่จิ้นเหวินนั้นเป็นภาพที่หาได้ยากมาก

ราวกับว่าจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่แม่ลูกคู่นี้พูดคุยกันอย่างสงบนั้นคือเมื่อไหร่ รู้สึกเพียงว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว

ยวี่เฟิ่งเจียวรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย เธอเกรงว่าลูกชายของเธอนั่งคุกเข่าแล้วจะปวดเข่า ไม่อยากให้เขารู้สึกเจ็บปวด

น้าเว่ยแม่บ้านคนสนิทของเธอนั้นช่างเฉลียวฉลาด เธอยื่นม้านั่งเล็กๆทรงกลมไปให้ "พี่จิ้น บนพื้นมันหนาว นั่งบนนี้เถอะ ขาของคุณผู้หญิงต้องนวดให้ดีๆ"

หลังจากพูดจบ เธอก็ขยิบตาให้กับยวี่เฟิ่งเจียวและเดินจากไป

ยวี่เฟิ่งเจียว : หญิงชราคนนี้...

ยวี่จิ้นเหวินนั่งบนม้านั่งขนาดเล็กและจดจ่อกับการนวดขาให้กับแม่ของเขา "พรุ่งนี้ ผมจะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณ"

"ไม่ต้องหรอก อย่างไรก็ตามมันก็คงไม่ดีขึ้นหรอก จะสิ้นเปลืองเวลาไปทำไม..." ยวี่เฟิงเจี่ยวเอ่ยปฏิเสธอย่างทันควัน

ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้นมองเธอและเอ่ยยืนยันว่า "ผมจะไป"

ยวี่เฟิ่งเจียว "....."

เธอมุ่ยปาก "เอาเถอะ ไปก็ไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร"

สีหน้าที่ดื้อดึงของยวี่จิ้นเหวินอ่อนโยนลง

บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นยวี่เฟิ่งเจียวก็เอ่ยถาม "แกไปเมืองไป๋มาแล้วครั้งหนึ่ง พบกับเสิ่นหลิวซูและโจ๋เยว่แล้วใช่ไหม?"

มือของยวี่จิ้นเหวินที่กำลังนวดอยู่นั้นชะงัก "แม่รู้ได้ไง?"

“ฉันมีเพื่อนที่เข้าร่วมงานเลี้ยง พวกเธอบอกว่าเห็นแกและพวกเขา”

ยวี่จิ้นเหวินเอ่ยตอบรับเบาๆ "อืม"

เดิมทีคิดว่าแม่จะบอกว่าพ่อและโจ๋เยว่นั้นไม่ใช่ แต่ยวี่เฟิ่งเจียวก็ไม่ได้พูดถึงพวกเขา เธอเพียงแค่มองไปที่ยวี่จิ้นเหวินด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ลำคอของเธอรู้สึกกระชับและมีรสฝาด "เรื่องในปีนั้น เป็นแม่เอง แม่ขอโทษ"

ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าของเขาตกตะลึง

ยวี่เฟิ่งเจียวเอนหลังพิงเก้าอี้ ใบหน้าที่ดูแก่ชราลงของเธอยังคงมีเสน่ห์ ยังคงมองเห็นจิตวิญญาณที่กล้าหาญในแววตาของเธอ

ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มขมขื่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและเธอก็ถอนหายใจเบาๆ

"ฉันไม่รู้ว่าฉันแก่ขึ้นหรือเปล่า ช่วงนี้ความทรงจำเก่าๆเหล่านั้นมักจะผุดขึ้นมาเสมอ อารมณ์รุนแรงของฉันเกิดขึ้นจากครรภ์และปู่กับย่าของแกเองก็เป็นเหมือนกัน ทั้งเย่อหยิ่งและไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น" ยวี่เฟิ่งเจียวนั้นวิจารณ์ตนเอง

จากนั้นเธอชำเลืองมองลูกชาย "แกควรรู้ไว้ แม่ของแกไม่ได้เกิดมาบนช้อนเงินช้อนทอง ตอนฉันยังเล็ก ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวย ปู่ของแกนั้นสะสมของเก่า ครอบครัวของเรามีก้อนอิฐมากกว่าหมั่นโถวเสียอีก ฉันยากจนแต่ฉันมีความทะเยอทะยาน แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยรู้สึกกว่าฉันต่ำเตี้ยกว่าคนอื่น หลังจากนั้นก่อนเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ฉันตามคุณปู่ไปทะเลเพื่อทำธุรกิจ ธุรกิจของตระกูลยวี่ก็เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันเองก็โตมากับมัน จนกระทั่งถึงวัยที่เหมาะสมจะแต่งงาน"

แต่ไหนแต่ไรมายวี่จิ้นเหวินไม่เคยได้ยินแม่ของเขาเล่าเรื่องเหล่านี้เลย แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยรู้ประสบการณ์และการเติบโตที่ผ่านมาของแม่เขา บางเรื่องเขาก็เคยได้ยินมาจากคุณปู่และคุณย่า เขารู้ว่าตระกูลยวี่มีธุรกิจเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้เป็นเพราะกำลังแรงจากแม่ของเขาและเธอยังเป็นคนที่ทนทุกข์ทรมานมากที่สุดในหมู่พี่น้อง

"ในตอนนั้น อายุของฉันก็เลยเวลาที่จะต้องแต่งงานมากแล้ว ปู่และย่าของแกต่างก็เป็นกังวลใจ กลัวว่าฉันจะไม่ได้แต่งงานจึงนัดบอดให้กับฉัน แต่แกก็รู้ว่าแม่ของแกนั้นหัวสูง เรื่องมากขนาดไหน ไอ้พวกผู้ชายที่มาจากตระกูลร่ำรวย ต่างก็เป็นคนที่หน้าตาน่าเกลียด อ้าปากก็คุยโวเรื่องเงินทอง หยาบคายเหลือทน ฉันก็ไม่สนใจพวกเขา ท้ายที่สุดฉันก็เจอเสิ่นหลิวซู"

มุมริมฝีปากของยวี่เฟิ่งเจียวยิ้มเยาะเย้ย "ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือคำว่าหนูตกถังข้าวสาร ฉันรู้เพียงแค่ว่าฉันพอใจในความรักนี้ ยังไงก็ต้องแต่งงานกับคนคนนี้ ทำไมไม่แต่งงานกับคนหล่อกับคนที่ตัวเองชอบ เรื่องความเหมาะสมของฐานะ เป็นคนชนชั้นสูงหรือต่ำ ฉันไม่สนใจ แล้วสุดท้ายเรื่องเป็นยังไง แกเองก็รู้..."

ยวี่จิ้นเหวินรู้ ควรจะกล่าวได้ว่าเขาเห็นด้วยตาของเขา เดิมทีพ่อและแม่ที่รักกันมากกลับทอดทิ้งกันและกัน ครอบครัวที่สุขสันต์กลับต้องพังทลาย ในทุกฉากทุกตอนเขาก็อยู่ในนั้น เขาเข้าใจในเหตุผล แต่กลับยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

ทำไมก่อนหน้านี้คนสองคนที่รักกันมากขนาดนั้น จู่ๆกลับหมดรักกันอย่างง่ายดาย?

หากว่าความรักมันจางหายไปได้ง่ายขนาดนั้น จากอดีตจวบจนปัจจุบันจะมีเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่มาได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา