“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?”
ขณะที่กำลังทานข้าว เฮ่อเซินมองดูน้องสาวของเขาด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง
เมื่อกี้ขณะที่ถ่ายทำ อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาไม่สามารถแสดงความเห็นใจน้องสาวออกมาได้โดยตรง เขารู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อเห็นฉากที่น้องสาวถูกทำร้าย
ปกติเขาถ่ายละครก็มักจะมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะมันเป็นอาชีพ
แต่เมื่อสิ่งเดียวกันเกิดขึ้นกับน้องสาวตัวเล็กๆ มันรู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก
"เหนื่อยนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร"
หนานซ่งจิบน้ำที่พี่เอามาให้ และหัวเราะเบาๆ “ไม่ถูกต่อยลงพื้นนานแล้ว เจ๋งดี”
หลินเจวี๋ยเป็นผู้กำกับที่ชอบพัฒนาขีดจำกัดของนักแสดง เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นความเป็นไปได้ของนักแสดง เขาต้องการมากกว่านี้
ความยากในฉากของหนานซ่งเพิ่มขึ้นฉากแล้วฉากเล่า ในตอนบ่าย เธอถ่ายฉากต่อสู้กับนักแสดงมืออาชีพ การต่อสู้นั้นตื่นเต้นมาก จนผู้ชมต่างพากันตะลึง
แม้แต่ผู้สอนศิลปะการต่อสู้ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “คุณเคยฝึกหวิงชุนเหรอ?”
"เคยฝึกนิดหน่อย"
หนานซ่งอ่อนน้อมถ่อมตน ที่จริงไม่ใช่แค่นิดหน่อย ทักษะการต่อสู้เธอเคยฝึกกับนายเคผู้ดูแลสวนกุหลาบ ตอนเด็กเธอฝึกทักษะการต่อสู้ทุกกระบวนท่า ล้มลุกคลุกคลานบนโคลน ซ้อมหนักราวกับเด็กผู้ชาย
วิดีโอการต่อสู้นี้ถูกโพสต์บนโซเซียลโดยทีมงาน จำนวนการเข้าชมเยอะมาก
“ฉันทายว่าผู้หญิงในนั้นคือคุณหนูใหญ่ ไม่ใช่นักแสดงตัวแทนแน่นอน?!”
“โครตเจ๋งเลย! คุณหนูใหญ่มีทักษะการต่อสู้ด้วย ไม่เคยรู้มาก่อน!”
“โอ้พระเจ้า เท่มาก! ทักษะของเธอชำนาญมาก คู่ต่อสู้ของเธอเป็นถึงอาจารย์เยี่ยแห่งหวิงชุน เธอยังสามารถรับมือได้?!”
บนเกาะเล็กๆ ลั่วอินดูวิดีโอการค้นหายอดนิยมนี้อย่างภาคภูมิใจ
“ทักษะใช้ได้ หลังจากที่เราจากมาสามปี ฉันคิดว่าเธอจะขี้เกียจเหมือนหมู ไม่ฝึกฝนทักษะการต่อสู้อีก ไม่เลว”
เป็นเรื่องยากที่ลั่วอินจะชื่นชมลูกสาว
หนานหนิงซงดูวิดีโอแล้วขมวดคิ้ว "ทำไมผอมขนาดนี้?"
ลั่วอินกล่าวว่า: "ฉันได้ยินเจ้าใหญ่บอกว่าเสี่ยวซ่งมีอาการเบื่ออาหาร กินอะไรไม่ลงเลย ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย พอกินได้บ้าง”
มู่โจวที่กำลังฟังอยู่ถามอย่างไม่รู้ตัว "ทำไมถึงมีอาการเบื่ออาหาร?"
ในฐานะนักชิมเก่า เขาไม่เข้าใจเลยทำไมถึงมีคนที่ไม่ชอบอาหาร ทั้งๆที่อาหารอร่อยและหอมขนาดนี้?
ลั่วอินลืมตาขึ้นและจ้องไปที่เขา "เพราะอะไร ลองถามลูกศิษย์ตัวดีของนายสิ!"
มู่โจวตะลึงและมองไปที่ลูกศิษย์ตัวดี
เมื่อยวี่จิ้นเหวินได้ยินคำว่า "เบื่ออาหาร" หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง
เพราะเธอรู้สึกเสียใจกับ ‘การตาย’ ของเขาหรือเปล่า?
"เพราะนายเหรอ?"
มู่โจวถามยวี่จิ้นเหวิน เมื่อเห็นท่าทางเจ็บปวดของเขา เขาจึงปลอบโยน: "ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าในใจเสี่ยวซ่งยังมีนายอยู่ ควรดีใจสิ”
“ดีใจกับผี!”
ลั่วอินพูดอย่างเย็นชา: “ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าลูกสาวของฉันจะตายลำพัง ไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ฉันคงไม่ใช้ความพยายามทั้งหมดช่วยเขาหรอก!”
เธอโกรธจัด ดวงตาที่เฉียบคมของเธอมองไปทางยวี่จิ้นเหวิน
“พ่อหนุ่ม จำไว้ดีๆ ฉันช่วยชีวิตนายไม่ใช่เพราะฉันชอบนาย อยากเป็นลูกเขยของฉัน ฝันไปเถอะ!”
ลั่วอินกอดอกและพูดอย่างภาคภูมิใจ: "ฉันชิงตัวนายมาจากเซียวเอิน ก็เพื่ออยากให้มันรู้ว่าฉันยังไม่ตาย อีกอย่าง ถ้าปล่อยให้นายตายไปแบบนี้ลูกสาวสุดที่รักของพวกเราก็จะจดจำนายไปตลอด แบบนี้คงไม่ดี ฉันจะทำให้เธอค่อยๆลืมนายไปทีละนิด”
ยวี่จิ้นเหวินขยับริมฝีปากที่ซีดของเขา ยิ้มอ่อนๆและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง:
“ผมหวังว่าเธอจะลืมผมและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี เจอคนที่เธอรักและเขาก็รักเธอเช่นกันรัก อยู่ด้วยกันไปจนแก่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...