คำว่า 'แฟน' ของติงเหมา ทำเอาเสิ่นหลิวซูตกใจอยู่ไม่น้อย
ครั้งก่อนที่เหมยซู เขาเองก็เห็นแล้วว่าคนสกุลติงคนนี้กับยวี่เฟิ่งเจียวมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกัน พวกเขาคบกันอยู่เหรอเนี่ย?!
เรื่องแค่นี้เขาเองยังไม่รู้!
"พวกคุณ......คบกันอยู่เหรอ?"
เสิ่นหลิวซูถามขึ้นอย่างยากลำบาก เสียงของเขาสั่น
อายุขนาดนี้พูดว่าเป็นแฟนกัน จริง ๆ ก็รู้สึกว่าน่าอายอยู่หน่อย แต่ว่าคนอื่น ๆ ทำเรื่องที่น่าอายมากกว่าอีก พวกเธอคบกันอย่างเปิดเผยก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร
คิดถึงตรงนี้ เธอไม่ได้รอให้ติงเหมาตอบ ยวี่เฟิ่งเจียวก็พูดออกมา: "ใช่น่ะสิ พวกเรากำลังคบกันอยู่"
เพียงประโยคเดียว ทำให้เสิ่นหลิวซูนิ่งไปเลยจริง ๆ
เพราะว่าเขามองเห็นแววตาสดใสในดวงตาของยวี่เฟิ่งเจียว กี่ปีมาแล้วนะ ที่เขาไม่ได้เห็นเธอมีแววตาสดใสแบบนี้
ตอนที่ยวี่เฟิ่งเจียวพูดประโยคนี้ออกมา เธอรู้สึกสบายใจทั้งที่ไม่เคยมาก่อน
ราวกับว่าเมฆครึ้มที่คอยบดบังจิตใจมานานหลายปี ได้สลายตัวไปในพริบตา
หลังจากที่ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้ ชีวิตของเธอก็ราวกับหยุดนิ่งไป ราวกับบ่อน้ำที่ไร้น้ำ ชีวิตของเธอไม่มีความหมาย มีชีวิตอยู่ราวกับร่างไร้วิญญาณ
ที่ยอมมีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะว่าพ่อแม่ที่อายุมากแล้ว กับลูกชาย
แต่ตอนนี้ ขาของเธอรักษาจนหายแล้ว เธอสามารถที่จะยืนขึ้นได้ ได้เจอกับติงเหมา คนที่มีจิตใจเมตตา แล้วก็เป็นคนที่เอาอกเอาใจเธอเหมือนกับเธอเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง
โลกที่เป็นสีเทา อยู่ ๆ ก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยสายรุ้ง ตอนนี้ที่มีชีวิตอยู่ เพราะว่าเธออยู่เพื่อตัวเอง
หนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินที่ยืนอยู่หลังกำแพงบังตาในตอนนี้ ได้ยินน้ำเสียงสดใสที่เอ่ยประโยคนั้นออกมาของยวี่เฟิ่งเจียว ก็แอบชะงักไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นรอยยิ้มก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปาก
จากนั้นพวกเขาก็เดินออกมาจากกำแพงบังสายตา หนานซ่งปรบมือสองครั้ง "เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์แล้วก็คุณน้ายวี่ด้วยนะคะ เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากจริง ๆ อาจารย์ ต้องเลี้ยงข้าวนะคะ"
ติงเหมาหัวเราะชอบใจ "ได้ ! ต้องเลี้ยงแน่นอน!"
จากนั้นก็พูดขึ้นอีก: "แต่ว่าเงินทั้งหมดของฉันตอนนี้อยู่กับอาเจียวหมดแล้ว เพราะฉะนั้น......ฉันเป็นคนเชิญ แต่เธอเป็นคนจ่ายนะ"
เขาหันไปหายวี่เฟิ่งเจียวจากนั้นก็ยกยิ้มจนเห็นฟันขาวให้กับเธอ
ยวี่เฟิ่งเจียวเห็นแบบนั้นก็อดจะหัวเราะไม่ได้ "ค่ะ~"
ยวี่จิ้นเหวินเดินไปหายวี่เฟิ่งเจียว จากนั้นก็ถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็นกังวล "แม่ ไม่เป็นไรใช่ไหม?"
"ไม่เป็นไร"
ยวี่เฟิ่งเจียวบอกออกมาเบา ๆ : "อุบายขอบคนชั้นต่ำก็มีแค่นั้นแหละ พอเจอบ่อย ๆ เข้าก็เกิดเรื่องแบบนั้น ดีที่ที่นี่คือเมืองเป่ย ยังไม่ถึงคิวที่คนอื่นจะมาขี้รดหัวฉัน"
เธอหันหน้าไปหาเสิ่นหลิวซู: "ลูกชายคุณน่ะไม่ได้ได้มาง่าย ๆ นะ ฉันขอแนะนำคุณอย่างก็แล้วกัน ดูแลผู้หญิงของคุณให้ดี เพื่อที่จะได้แต่งงานกับคุณ ไม่ว่าอะไรผู้หญิงคนนั้นก็ทำได้ทั้งนั้น วันนี้มาหาฉันที่นี่แล้วบังเอิญเจอฉันแก้เผ็ด พรุ่งนี้ก็คงจะกล้าไปทำตัวเหมือนคนบ้ากลางถนน ฉันถือว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังท้องอยู่ ก็เลยไม่อยากจะอะไรกับเธอมาก แต่เธอกลับมายั่วโมโหฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน"
เสิ่นหลิวซูราวกับไม่ได้ยินคำขู่ของเธอ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอกับติงเหมา
ติงเหมาคนนี้ มองไม่ออกว่าอายุเท่าไหร่ ร่างกายก็ไม่นับว่าสูงเท่าไหร่ ดูไปแล้วให้ความรู้สึกว่าเขายังเป็นผู้ใหญ่ไม่พอ เหมือนเด็กที่ร่างกายไม่เจริญเติบโตอย่างไรอย่างนั้น ผู้ชายแบบนี้จะนำพาความสุขมาให้ยวี่เฟิ่งเจียวได้ยังไง?
"คุณชอบเขาจริง ๆ เหรอ?"
เสิ่นหลิวซูหน้าตึง จากนั้นก็หันหน้าไปทางยวี่จิ้นเหวิน "ลูกเองก็ยอมให้แม่คบกับพ่อเลี้ยงแบบนี้เหรอ?"
"ทำไมถึงต้องไม่ยอมด้วยล่ะครับ?"
ยวี่จิ้นเหวินพูดต่อด้วยเสียงเรียบนิ่ง: "ขนาดคุณเองยังคบกับผู้หญิงแบบโจ๋เยว่ได้ตั้งยี่สิบปีเลย แล้วทำไมแม่ผมถึงจะคบผู้ชายที่ดีกับเธอไม่ได้? น้าติงเองก็ดีกับแม่ผม เท่านี้ก็พอแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...