สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 569

ภายในหนึ่งวันมีแฮชแท็กเกิดขึ้นมากมาย #คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือรักษาคนตาย #บทความของโจ๋เยว่ที่ให้แก่พี่ชายของเธอ #โจ๋เยว่อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นแม่ม่าย #โจ๋เยว่กล่าวหายวี่เฟิ่งเจียวว่าจงใจทำร้ายผู้อื่น แฮชแท็กต่างๆเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกค้นหาในโลกออนไลน์และยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอีกด้วย สิ่งที่ชาวเน็ตให้ความสนใจมากที่สุดคือรักสี่เศร้าระหว่างยวี่เฟิ่งเจียว ติงเหมา เสิ่นหลิวซูและโจ๋เยว่

รักสามเศร้าระหว่างคุณหนูใหญ่ยวี่เฟิ่งเจียวแห่งบริษัทยวี่กรุ๊ป อดีตผู้อำนวยการเสิ่นแห่งหวนย่าไถและโจ๋เยว่อดีตดาวเด่นแห่งหวนย่าไถ กินเวลานานนับสิบปี นับว่าเป็นกระแสข่าวที่มาแรงและผู้คนทุกวัยต่างก็ให้ความสนใจ สถานะของโจ๋เยว่นั้นคือมือที่สามอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่เธอก็กระโดดออกมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอและบอกว่าเธอไม่ใช่มือที่สาม

ขณะที่ชาวเน็ตกำลังดูความตื่นเต้น แฟนคลับบางส่วนของเธอก็ออกมาสนับสนุนส่งแรงกำลังใจให้เธอและเรียกร้องบอกให้ยวี่เฟิ่งเจียวออกมาพูดบ้าง

ปัญหานี้กระจายไปทั่วทั้งเมือง

หนานซ่งคิดว่าตัวเองนั้นโกรธมากแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีอีกคนที่โกรธกว่าเธอ นั่นคือแม่ของเธอ

วินาทีที่คุณนายลั่วเห็นข่าว โดยเฉพาะตอนที่เห็นคำแถลงแสดงจุดยืนของภรรยาน้อยโจ๋เยว่ เธอโกรธจนลุกขึ้นจากโซฟา

ตามคำกล่าวของไป๋ลู่ยวี๋ "แม่ของเราใช้คำศัพท์ต่างภาษาที่เธอรู้มาทั้งชีวิตก่นด่าเธอ ฉันนับๆดูแล้วก็ประมาณ18ภาษา"

ด่าอย่างไรก็ไม่พอ คุณนายลั่วส่งทีมบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว จากนั้นโทรหาหนานซ่ง "ฉันจะต้องไปเมืองเป่ยเพื่อช่วยอาเจียวจัดการนังมือที่สามนั่น เธอกับอาจิ้นจะมาไหม? ไม่มาพวกเราจะไปแล้ว เครื่องบินไม่รอใคร"

"....."

หนานซ่งคิดว่าไม่เสียแรงที่เป็นแม่ของฉันและคิดอยากจะไปกับเธอ

เธอและยวี่จิ้นเหวินกล่าวลาจ้าวซวี่ แม้แต่ห้องลอยฟ้าก็ไม่ได้กลับไป เธอตรงออกจากร้านอาหารสือเว่ยไปยังสนามบินเพื่อบินไปที่เมืองเป่ยทันที

บนเครื่องบิน ทีมประชาสัมพันธ์กำลังวิเคราะห์บทความสั้นๆของโจ๋เยว่ พวกเขาพูดประโยคหนึ่ง ลั่วอินและหนานซ่งก็ด่าประโยคหนึ่ง สองแม่ลูกสีหน้ามืดมน เป็นเรื่องยากที่พวกเธอจะไม่แขวะกันและรวมทีมกันเป็นหนึ่ง ทั้งสองยิ้มเยือกเย็น พวกเธอเยาะเย้ยถากถางและเสียดสีทุกอย่าง พวกเธอแทบรอไม่ไหวที่จะเหยียบขยี้โจ๋เยว่ให้จมดิน!

เมื่อมาถึงคฤหาสน์เก่าตระกูลยวี่ ลั่วอินได้นำกลุ่มของทีมงานมืออาชีพมายืนต่อหน้ายวี่เฟิ่งเจียวจากนั้นเธอยกมือเท้าสะเอว

"พี่สาว ฉันมาสนับสนุนพี่! อยากให้โจ๋เย่วตายยังไง พี่บอกมาได้เลย"

หนานซ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังแม่ของเธอพยักหน้าเห็นด้วย

เธอรู้สึกปวดใจไปกับยวี่เฟิ่งเจียว เกือบทั้งชีวิตของเธอต้องยุ่งวุ่นวายกับผู้ชายสารเลวและนังมือที่สามนั่น ภายในใจคงรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก

ยวี่เฟิ่งเจียวก้าวเท้าไปด้านหน้าและสวมกอดลั่วอินไว้ ลั่วอินรีบมาที่เมืองเป่ยเพื่อช่วยเหลือเธอ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

อารมณ์ของเธอดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงมรสุมที่พัดเข้ามาซึ่งไม่สามารถทำอะไรยวี่เฟิ่งเจียวได้

"อย่าได้รีบร้อนไป" เธอจับแขนของลั่วอินไว้และยิ้มเบาๆ "ปล่อยกระแสนี้ไปก่อน"

เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของโจ๋เยว่ คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือก็ได้ออกมาตอบโต้ในทันที

ในหน้าบัญชีทางการให้คำตอบโดยละเอียดถึงสาเหตุและผลที่ตามมาของการเข้ารับการรักษา การออกจากโรงพยาบาลรวมถึงการเสียชีวิตภายในโรงพยาบาล

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของโจ๋เจิ้งเหยานั้นไม่ได้รุนแรงนักเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลครั้งแรก หากเขาใส่ขาเทียมไว้ เขาก็สามารถช่วยชีวิตเขาได้ แพทย์ทั่วไปก็สามารถรักษาได้ แต่เขาไม่ยอมทำเช่นนั้น เขาต้องการเข้ารับการรักษากับแพทย์ติงเหมา แต่คิวของแพทย์ติงเหมานั้นเต็มตลอดทั้งปี นี่ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าที่ศูนย์การแพทย์นี้ "แพทย์ติงเหมาเป็นแนวหน้าในเหมยซูหลี่ เขามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ผู้ป่วยจำนวนมากมาที่นี่ ทุกคนต้องการที่จะให้เขารักษา นี่คือความจริง"

จะเลือกรักษากับแพทย์ที่มีชื่อเสียงนั้นเป็นเรื่องยาก ยิ่งไปกว่านั้นรักษากับแพทย์ใหญ่แห่งเหมยซูลี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่โจ๋เจิ้งเหยานั้นโชคดีมาก เขาบังเอิญพบกับแพทย์ติง ในตอนนั้นแพทย์ติงเห็นขาของเขา บอกว่าวิธีการรักษาคือการตัดขาของเขาทิ้ง แต่โจ๋เจิ้งเหยาคิดว่าแพทย์ติงจงใจจะทำร้ายเขา เขาก็รีบออกจากโรงพยาบาลไปในทันที เมื่อได้กลับมาอีกครั้งขาของเขาก็เน่าจนไม่เหลือชิ้นดี เขายังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรก็ขาดอากาศหายใจไปและยังไม่ทันที่จะได้ทำการรักษา ผลวินิจฉัยสรุปว่าเป็นเนื้อร้ายบริเวณกระดูกและติดเชื้อบาดทะยัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา