คำถามนี้ที่ลั่วอินถามขึ้น หนานซ่งก็อยากถาม
เธอไม่รู้มาก่อนว่ามู่โจวรับศิษย์ผู้หญิงอย่างซ่งซีตั้งแต่เมื่อไหร่
จากประวัติข้อมูลของซ่งซี บอกว่าเธอเคยเรียนจิตรกรรม ดูเหมือนว่าจะได้รับรางวัลการวาดภาพอยู่บ้าง แต่ไม่ได้พูดถึงครูสอนวาดภาพที่มีชื่อเสียงอย่างมู่โจว นี่คือประวัติย่อที่สร้างแรงบันดาลใจและมีชื่อเสียงของซ่งซี เป็นการ “ถ่อมตัว” อย่างมาก และประสบการณ์บอกหนานซ่ง เรื่องไม่ปกติแสดงว่าต้องมีมาร ต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ของยวี่จิ้นเหวินกับมู่โจวแค่เรียกเขาว่า “คุณครู” ส่วนซ่งซีกลับเรียกมู่โจวว่า “อาจารย์”
ดูแล้วเป็นเหมือนลูกศิษย์ของมู่โจวมากกว่า
เมื่อเทียบกับฝีมือการวาดภาพ ทักษะที่เก่งกาจของมู่โจวคือการทำของปลอม
จู่ ๆ หนานซ่งก็มองไปที่มือของซ่งซี
เธอเคยจับมือของซ่งซีไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง ในตอนแรกที่เธอเริ่มสงสัยสถานะของซ่งซี เคยตั้งใจลองเชิงแล้ว แต่มือของซ่งซีกลับไม่มีความหยาบกร้าน กลับนุ่มลื่นเป็นอย่างมาก ดูออกได้ว่าได้รับการดูแลอย่างดี เหมือนมือของคุณหนูที่ไม่เคยแตะน้ำมาก่อน ดังนั้นในตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองคิดมากเกินไป
ปรากฏว่าไม่ใช่เธอคิดเยอะไป แต่เธอคิดน้อยไป
บนมือไม่มีความหยาบกร้าน ไม่ได้หมายความว่าซ่งซีไม่อันตราย ลองนึกภาพคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ตลอดทั้งปี บนมือไม่มีความหยาบเลยสักนิด ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์
เมื่อรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับมู่โจว ความสงสัยในใจของหนานซ่งก็ถูกไขออก รู้ว่าทำไมบนมือของซ่งซีไม่มีความหยาบกร้าน
เพราะว่าเธอก็ปลอมแปลงเป็น
อีกอย่าง เมื่อเทียบกับยวี่จิ้นเหวินลูกศิษย์คนนี้ที่เรียนแค่ครึ่งทางก็ปล่อยวาง เธอคงได้รับการถ่ายทอดจากมู่โจวเยอะกว่า
“รับเป็นศิษย์นานแล้ว มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพสูงมาก เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี แต่เสียดาย...”
มู่โจวพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดกะทันหัน แล้วไอขึ้นมาอย่างแรง จากนั้นก็มองไปทางซ่งซี แล้วพูด “ซีเออร์ ตรงนี้ไม่มีคนนอก นี่คือศิษย์พี่ของเธอ อาจิ้น เสี่ยวซ่ง...พวกเธอเคยเจอกันใช่ไหม? ยังมีคุณอาซง กับน้าลั่ว เป็นเพื่อนของฉัน อย่ามีความอคติกับพวกเขาขนาดนี้”
“อาจารย์คะ แน่นอนว่าหนูรู้จักค่ะ”
จู่ ๆ ซ่งซีก็ยิ้มขึ้น “เพียงแต่เพื่อนของอาจารย์ เหมือนกับไม่ค่อยชอบหนูสักเท่าไหร่”
“รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงนี้ขวางหูขวางตา ไปตรงไหนแล้วเย็นใจก็ไปอยู่ตรงนั้นซะ รอให้ฉันเชิญเธอเหรอ?”
ลั่วอิน “ไล่” ซ่งซีไปอย่างไม่เกรงใจ
รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งซีหายไป เธอหน้านิ่ง “คุณน้าลั่วคะ อาจารย์ป่วยแล้ว ในฐานะลูกศิษย์ สมควรที่จะดูแล อาจารย์ไม่มีลูก เรื่องการดูแลตอนเกษียณเป็นหน้าที่ของลูกศิษย์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันคะ? ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ใกล้ชิดกว่าเพื่อนมากค่ะ”
ฟังเธอพูดถึงความสนิทสนม ลั่วอินยิ้มเย็นชา
“มีสิทธิ์อะไร? สิทธิ์ตรงที่ตอนที่ฉันรู้จักกับมู่โจว เธอยังดิ้นอยู่ในท้องแม่ของเธออยู่เลย! เทียบกับฉัน เธอเทียบได้เหรอ?”
ซ่งซีหรี่ตา ยังจะพูดต่ออีก แต่ถูกเจี่ยงฟานดึงไว้ แล้วเกลี้ยกล่อมเธอ “พูดน้อย ๆ หน่อย อาจารย์ไม่สบายอยู่นะ”
ประจวบเหมาะกับที่มู่โจวไอขึ้นพอดี
หนานซ่งสีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก มองดูสถานการณ์ของมู่โจว ต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องโมโหกับบรรยากาศโหวกเหวกวุ่นวายจนตายแน่
เธอลุกขึ้นยืน ยื่นมือไปหาเจี่ยงฟาน “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
เจี่ยงฟานอึ้ง แล้วรีบยื่นโทรศัพท์ให้
หนานซ่งจับโทรศัพท์ แล้วยื่นมือไปทางประตู “พาแฟนของนายออกไป ตรงนี้ไม่ต้องการพวกนาย”
เจี่ยงฟานเคยชินกับคำสั่งของหนานซ่ง เขาแทบจะตอบรับในทันที จากนั้นก็จับมือของซ่งซี “พวกเราออกไปก่อนเถอะ”
“ใครบอกว่าฉันจะออกไป?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...