สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 663

ไม่แปลกหากหนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินจะสงสัย

ยวี่จิ่นเฉิงรู้จักเมืองฝั่งตะวันออกดีมาก แถมยังรู้เรื่องสถานะที่ไม่ธรรมดาของหวังผิง รวมไปถึงรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของยวี่จิ่นเฉิง ไม่ว่ายังไงคนมองก็ต้องรู้สึกถึงความแปลก หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้รู้จักกัน แถมอาจจะร่วมมือกันมาตั้งนานแล้วด้วย!

หนานซ่งก็เลยรีบโทรศัพท์หาลั่วอินเดี่ยวนั้น แต่ยวี่จิ้นเหวินห้ามไว้

เขาสงสัย "บอกไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ จะได้เหรอ?"

ถ้ารายงานเรื่องไปแบบนี้ เขากลัวว่าลั่วอินจะโกรธ แล้วมาขัดขวางเรื่องการแต่งงานของเขากับหนานซ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสีย

"ถ้าไม่บอกไปแบบนี้ จะบอกแบบไหนล่ะ คุณอาพูดมาอย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่มีทางช่วยหาเอกสารให้กับเรา เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ทำได้แค่ไปถามหวังผิงตรง ๆ ถามหรือไม่ถามก็เป็นเรื่องของแม่ฉัน ส่วนเรื่องยอมรับหรือไม่ยอมรับ เป็นเรื่องของหวังผิงแล้ว"

หนานซ่งลองคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ครบทุกมุม แววตาของเธอก็ดูล้ำลึกขึ้น "ถ้าเกิดว่าเขาไม่อยากจะยอมรับ ต่อให้พวกเราหาเอกสารของเขาได้ สามารถพิสูจน์ตัวตนของเขาได้ แต่เขาไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเขาเป็นงูฟ้าจริง ๆ ฉันคิดว่าแม่ของฉันก็น่าจะมีวิธีที่ทำให้เขายอมรับได้"

เวลาไม่คอยท่า พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไป รีบโทรหาลั่วอินในทันที

ลั่วอินนั่งเซ็งมาหนึ่งคืนเต็ม ๆ เธอไม่ทำอะไรทั้งนั้น แค่นั่งจ้องโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้า แล้วกัดเล็บรอโทรศัพท์จากลูกสาวเงียบ ๆ

ใจของเธอ กังวล คิดมาก รู้สึกไม่ปลอดภัย เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอนั้นถูกเอาไปลนไฟ มันเต้นรัว

หนานหนิงซงเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ก็เลยนั่งเงียบ ๆ เป็นเพื่อนเธอ

ในตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างกายของลั่วอินก็ชะงักไปแป๊บหนึ่ง หนานหนิงซงหันไปมองเธอ เห็นเธอกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

"อืม" พอรับสายพูด เสียงของเธอนั้นก็แหบแห้งเล็กน้อย

หนานหนิงซงเดินไปหาเธอ นั่งลงข้างเธอบนโซฟา แล้วพยายามฟังเสียงในโทรศัพท์

ลั่วอินหยุดฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นโมโหในทันที

"ให้ฉันไปถามเขาเอง? นี่คือสิ่งที่พวกแกได้จากการไปเมืองจิงอย่างนั้นเหรอ? สมองของพวกแกโดนลาที่เมืองจิงกินเข้าไปแล้วหรือไง?"

หนานซ่งขยับโทรศัพท์ออกจากหูของตัวเอง เธอหลับตาลง จากนั้นก็เลือกที่จะเปิดลำโพง ให้ยวี่จิ้นเหวินนั่งฟังแม่ของเธอด่าด้วยกัน

"เจ้าเด็กสองคนนี้ จะไปทำอะไรกิน? ใช้เวลาทำโน่นทำนี่ตั้งนาน สุดท้ายก็ยังต้องให้ฉันเป็นคนไปถามด้วยตัวเอง? อย่างนั้นฉันจะมีพวกแกไปทำไมกัน?!"

"ถ้าเกิดว่ามันอยากจะยอมรับกับฉันจริง ๆ มันก็คงจะยอมรับไปตั้งแต่ตอนที่อยู่บ้านเราแล้ว ฉันจำเป็นที่จะต้องมาลงทุนลงแรงขนาดนี้ไหม? ตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันไงว่าเขาใช่งูฟ้าจริง ๆ หรือเปล่า ฉันก็เลยจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารพวกนั้น ฉันถึงจะได้รู้ว่าตกลงแล้วเขาตรงตามฉายาหรือเปล่า!"

"ทำไมแกถึงไม่พูดล่ะ? ยวี่จิ้นเหวินไปไหนแล้ว!"

หนานซ่งนั่งเท้าคางแล้วฟังแม่เธอด่าไปเรื่อย ๆ ส่วนยวี่จิ้นเหวินนั่นเหงื่อแทบจะท่วมตัวแล้ว

พอได้ยินว่าลั่วอินเรียกหาเขา เส้นเลือดบริเวณขมับของเขาก็เต้นตุบ ๆ เขาทำใจขานรับ "น้าลั่ว ผมกำลังฟังอยู่ครับ"

"ไอ้หนุ่ม ตอนขาไปแกรับปากกับฉันเสียดิบดี สุดท้ายแล้วกลายเป็นอย่างนี้แบบนั้นเหรอ? แกไม่อยากแต่งงานกับลูกสาวฉันแล้วใช่ไหม?"

ยวี่จิ้นเหวินกลัวว่าลั่วอินจะพูดถึงเรื่องนี้ พอถึงตอนนี้เขาก็เลยเหงื่อไหลท่วมด้วยความกลัว

"คุณน้าลั่ว อย่าเพิ่งโมโหสิครับ ช่วยฟังพวกเราพูดก่อน......."

"พูดอะไรอีก ยังมีอะไรให้พูดอีก!"

ลั่วอินโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว เธอด่าออกมาราวกับประทัด ตอนนี้เธอไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

ยวี่จิ้นเหวินพยายามจะอธิบายให้ลั่วอินฟังทั้งที่ยังกลัว แต่โดนหนานซ่งเอามือปิดปากไว้ เธอหันมาหาเขาแล้วส่ายหน้า

ความหมายก็คือ: ปล่อยให้แม่ของเธอด่าไป แม่ด่าจบแล้วค่อยพูด

กลายเป็นว่า ลั่วอินด่าพวกเขาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงโดยไม่แม้จะหยุดพัก ถึงขนาดที่เปลี่ยนภาษาที่ใช้ด่าพวกเขาไปเรื่อย ๆ ด้วย

ยวี่จิ้นเหวินนั่งนับอยู่เงียบ ๆ แล้วทอดถอนใจ คลังภาษาแล้วก็คลังคำศัพท์ของแม่ยายเขานี่มันช่างเยอะจริง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา