สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 663

สรุปบท บทที่663 แม่ลูกทะเลาะกัน: สอนรักอดีตภรรยา

ตอน บทที่663 แม่ลูกทะเลาะกัน จาก สอนรักอดีตภรรยา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่663 แม่ลูกทะเลาะกัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet สอนรักอดีตภรรยา ที่เขียนโดย ลู่เสี่ยวเช่อ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไม่แปลกหากหนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินจะสงสัย

ยวี่จิ่นเฉิงรู้จักเมืองฝั่งตะวันออกดีมาก แถมยังรู้เรื่องสถานะที่ไม่ธรรมดาของหวังผิง รวมไปถึงรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของยวี่จิ่นเฉิง ไม่ว่ายังไงคนมองก็ต้องรู้สึกถึงความแปลก หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้รู้จักกัน แถมอาจจะร่วมมือกันมาตั้งนานแล้วด้วย!

หนานซ่งก็เลยรีบโทรศัพท์หาลั่วอินเดี่ยวนั้น แต่ยวี่จิ้นเหวินห้ามไว้

เขาสงสัย "บอกไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ จะได้เหรอ?"

ถ้ารายงานเรื่องไปแบบนี้ เขากลัวว่าลั่วอินจะโกรธ แล้วมาขัดขวางเรื่องการแต่งงานของเขากับหนานซ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสีย

"ถ้าไม่บอกไปแบบนี้ จะบอกแบบไหนล่ะ คุณอาพูดมาอย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่มีทางช่วยหาเอกสารให้กับเรา เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ทำได้แค่ไปถามหวังผิงตรง ๆ ถามหรือไม่ถามก็เป็นเรื่องของแม่ฉัน ส่วนเรื่องยอมรับหรือไม่ยอมรับ เป็นเรื่องของหวังผิงแล้ว"

หนานซ่งลองคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ครบทุกมุม แววตาของเธอก็ดูล้ำลึกขึ้น "ถ้าเกิดว่าเขาไม่อยากจะยอมรับ ต่อให้พวกเราหาเอกสารของเขาได้ สามารถพิสูจน์ตัวตนของเขาได้ แต่เขาไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเขาเป็นงูฟ้าจริง ๆ ฉันคิดว่าแม่ของฉันก็น่าจะมีวิธีที่ทำให้เขายอมรับได้"

เวลาไม่คอยท่า พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไป รีบโทรหาลั่วอินในทันที

ลั่วอินนั่งเซ็งมาหนึ่งคืนเต็ม ๆ เธอไม่ทำอะไรทั้งนั้น แค่นั่งจ้องโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้า แล้วกัดเล็บรอโทรศัพท์จากลูกสาวเงียบ ๆ

ใจของเธอ กังวล คิดมาก รู้สึกไม่ปลอดภัย เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอนั้นถูกเอาไปลนไฟ มันเต้นรัว

หนานหนิงซงเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ก็เลยนั่งเงียบ ๆ เป็นเพื่อนเธอ

ในตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างกายของลั่วอินก็ชะงักไปแป๊บหนึ่ง หนานหนิงซงหันไปมองเธอ เห็นเธอกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

"อืม" พอรับสายพูด เสียงของเธอนั้นก็แหบแห้งเล็กน้อย

หนานหนิงซงเดินไปหาเธอ นั่งลงข้างเธอบนโซฟา แล้วพยายามฟังเสียงในโทรศัพท์

ลั่วอินหยุดฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นโมโหในทันที

"ให้ฉันไปถามเขาเอง? นี่คือสิ่งที่พวกแกได้จากการไปเมืองจิงอย่างนั้นเหรอ? สมองของพวกแกโดนลาที่เมืองจิงกินเข้าไปแล้วหรือไง?"

หนานซ่งขยับโทรศัพท์ออกจากหูของตัวเอง เธอหลับตาลง จากนั้นก็เลือกที่จะเปิดลำโพง ให้ยวี่จิ้นเหวินนั่งฟังแม่ของเธอด่าด้วยกัน

"เจ้าเด็กสองคนนี้ จะไปทำอะไรกิน? ใช้เวลาทำโน่นทำนี่ตั้งนาน สุดท้ายก็ยังต้องให้ฉันเป็นคนไปถามด้วยตัวเอง? อย่างนั้นฉันจะมีพวกแกไปทำไมกัน?!"

"ถ้าเกิดว่ามันอยากจะยอมรับกับฉันจริง ๆ มันก็คงจะยอมรับไปตั้งแต่ตอนที่อยู่บ้านเราแล้ว ฉันจำเป็นที่จะต้องมาลงทุนลงแรงขนาดนี้ไหม? ตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันไงว่าเขาใช่งูฟ้าจริง ๆ หรือเปล่า ฉันก็เลยจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารพวกนั้น ฉันถึงจะได้รู้ว่าตกลงแล้วเขาตรงตามฉายาหรือเปล่า!"

"ทำไมแกถึงไม่พูดล่ะ? ยวี่จิ้นเหวินไปไหนแล้ว!"

หนานซ่งนั่งเท้าคางแล้วฟังแม่เธอด่าไปเรื่อย ๆ ส่วนยวี่จิ้นเหวินนั่นเหงื่อแทบจะท่วมตัวแล้ว

พอได้ยินว่าลั่วอินเรียกหาเขา เส้นเลือดบริเวณขมับของเขาก็เต้นตุบ ๆ เขาทำใจขานรับ "น้าลั่ว ผมกำลังฟังอยู่ครับ"

"ไอ้หนุ่ม ตอนขาไปแกรับปากกับฉันเสียดิบดี สุดท้ายแล้วกลายเป็นอย่างนี้แบบนั้นเหรอ? แกไม่อยากแต่งงานกับลูกสาวฉันแล้วใช่ไหม?"

ยวี่จิ้นเหวินกลัวว่าลั่วอินจะพูดถึงเรื่องนี้ พอถึงตอนนี้เขาก็เลยเหงื่อไหลท่วมด้วยความกลัว

"คุณน้าลั่ว อย่าเพิ่งโมโหสิครับ ช่วยฟังพวกเราพูดก่อน......."

"พูดอะไรอีก ยังมีอะไรให้พูดอีก!"

ลั่วอินโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว เธอด่าออกมาราวกับประทัด ตอนนี้เธอไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

ยวี่จิ้นเหวินพยายามจะอธิบายให้ลั่วอินฟังทั้งที่ยังกลัว แต่โดนหนานซ่งเอามือปิดปากไว้ เธอหันมาหาเขาแล้วส่ายหน้า

ความหมายก็คือ: ปล่อยให้แม่ของเธอด่าไป แม่ด่าจบแล้วค่อยพูด

กลายเป็นว่า ลั่วอินด่าพวกเขาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงโดยไม่แม้จะหยุดพัก ถึงขนาดที่เปลี่ยนภาษาที่ใช้ด่าพวกเขาไปเรื่อย ๆ ด้วย

ยวี่จิ้นเหวินนั่งนับอยู่เงียบ ๆ แล้วทอดถอนใจ คลังภาษาแล้วก็คลังคำศัพท์ของแม่ยายเขานี่มันช่างเยอะจริง ๆ

หนานซ่งบอกปลายสายว่า "วางแล้วนะคะ" จากนั้นก็กดวางสายไปในทันที

ยวี่จิ้นเหวินมองโทรศัพท์ที่ถูกกดวางสายไปแล้ว เขามีความรู้สึกว่าสติของเขายังอยู่ไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ "อย่านี้ ไม่เป็นไรเหรอ?"

"ปล่อยให้แม่สงบอารมณ์เถอะ"

หนานซ่งนึกในใจ ใครกันแน่ที่ใช้อารมณ์ ก็แม่ของเธอนี่แหละ เธอถึงได้ปล่อยเธอไปแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะเถียงแม่ไปตั้งนานแล้ว

ก็แน่นอน สุดท้ายก็เถียงกันจนได้

ยวี่จิ้นเหวินเห็นว่าสีหน้าของหนานซ่งไม่ดีเท่าไหร่ เขารู้ว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกแย่ ก็เลยเดินไปลูบหลังเธอ เขาพูดเบา ๆ : "อย่าโกรธไปเลยนะ น้าลั่วก็แค่กังวลจนลนลาน พอจะมองออกเลยนะ ว่าคุณน้าหลานอวี้คนนั้น ต้องสำคัญมาก"

"เรื่องนี้ฉันเองก็พอจะรู้ ยังไม่ทันจะเจอเขาเลย แม่ก็ยกเขามาไว้เป็นยอดดวงใจเสียแล้ว"

หนานซ่งเบะปาก "ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยแม่เสียหน่อย นี่ฉันเองก็พยายามที่จะไปหาข่าวจากคนอื่น ๆ อยู่ น้องของแม่ก็คือน้าของฉันนะ คุณมีน้ามีอาตั้งสามคน ฉันยังไม่มีสักคนเลย ไม่ง่ายนะที่จะบังเอิญเจอสักคน ฉันเองก็หวังว่ามันจะเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน ฉันไม่ได้ไปหาเรื่องเธอเสียหน่อย"

เธอทั้งน้อยใจ แล้วก็โมโห

ยวี่จิ้นเหวินกำลังกอดปลอบเธอ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แม่ของเธอโทรมา

หนานซ่งหรี่ตา แล้วหยิบมันขึ้นมาเหมือนกับกำลังหยิบเผือกร้อน เธอกระยวี่จิ้นเหวินเบา ๆ "คุณรับสายสิ"

เขารู้ว่าเธอคงจะกลัวอยู่ลึก ๆ ยวี่จิ้นเหวินอมยิ้ม เขารับสายแล้วพูดออกไป: "คุณน้าลั่วอย่าโกรธไปเลยนะครับ เสี่ยวซ่งรู้ตัวแล้วว่าผิด ตอนนี้เธอกำลังเสียใจอยู่ครับ คุณน้าอย่าโกรธเธอเลยนะครับ........"

เขายังพูดไม่จบ ก็โดนหนานซ่งบีบคอเอาไว้ เขาก็เลยหดตัว

"พอแล้ว บอกให้เธอส่งเบอร์ติดต่อของหวังผิงมาให้ฉัน"

ลั่วอินกลั้นลมหายใจเอาไว้ "ไปก็ไป ให้มันรู้ไปเลยว่าใครเป็นใคร!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา