โชคดีอยู่โรงพยาบาล หนานซ่งไปหาแผนกนารีเวชแถวๆ นี้เพื่อตรวจร่างกาย
ยวี่จิ้นเหวินตามหลังเธอตลอดทาง กำลังคอยปรนนิบัติ เมื่อคุณหมอถามว่าประจำเดือนมาเมื่อไร หนานซ่งก็เงยหน้านับเงียบๆ ยวี่จิ้นเหวินกลับตอบอย่างรวดเร็ว “วันที่19 มาสิบกว่าวันได้แล้ว”
คุณหมอเงยหน้ามองยวี่จิ้นเหวินอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดขึ้น “ใส่ใจมาก ผู้ชายปกติไม่จำวันหรอก คิดว่าเป็นเรื่องของผู้หญิง”
ยวี่จิ้นเหวินจำช่วงเวลามีประจำเดือนของหนานซ่งได้แม่นกว่าเธออีก ยังไงแล้วมันก็เกี่ยวกับเรื่อง ‘ความสุข’ ของเขา คราวนี้เสี่ยวซ่งมาไม่กี่วันหลังจากวันหยุดราชการที่พวกเขาไปเที่ยวตุรกีพอดี เที่ยวฮันนีมูนยังไม่เพียงพอเลย ทำให้เขาแทบขาดใจ
จำได้แม่นเป็นพิเศษ
คุณหมอให้หนานซ่งไปเจาะเลือด ตรวจhcg
ตอนรอผล หนานซ่งก็เหมือนนั่งบนเข็ม ประหม่าอย่างมาก ยวี่จิ้นเหวินดูแล้วประหม่ากว่าเธออีก
แค่รู้สึกว่าหัวใจเต้นตึกตักๆ เหมือนจะกระโดดออกมาจากลำคอ
เขาจับมือหนานซ่งแน่น
“นายไม่ต้องเครียดขนาดนั้น” หนานซ่งพูด “ถ้านายเครียด มันจะทำให้ฉันยิ่งเครียด”
“ไม่เครียดๆ เราไม่เครียด”
ปากยวี่จิ้นเหวินพูดว่าไม่เครียด แต่ใบหน้าแข็งตึง ปากก็เริ่มซีด
หนานซ่งเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็อยากหัวเราะนิดหน่อย “นายไม่ได้ท้องมีลูกสักหน่อย นายกลัวอะไร?”
เห็นเธอยิ้ม ก็ไม่ทำหน้าตึงเครียดอีก ในใจยวี่จิ้นเหวินผ่อนคลายลง แล้วพูดขึ้น “ไม่กลัว เราไม่กลัว”
เขากอดเธอในอ้อมแขน แล้วพูดขึ้น “ลูกคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เรา ถ้าเขามาแล้ว เราก็ต้อนรับเขา โอเคไหม?”
“อืม” หนานซ่งพิงไหล่เขา ลูบท้องน้อยแบนราบของตัวเองโดยจิตใต้สำนึก “แต่ฉันไม่รู้สึกสักนิดเลย”
และเธอไม่ได้เตรียมใจพร้อมในการเป็นแม่ด้วย
เธอเงยหน้ามองยวี่จิ้นเหวิน “นายเตรียมใจพร้อมเป็นพ่อหรือยัง?”
ยวี่จิ้นเหวินผลุบเปลือกตาลง ยกมือขึ้นปัดปอยผมที่หน้าผากเธอ แล้วถามเบาๆ “อยากฟังความจริงไหม?”
“ไร้สาระ” หนานซ่งตีเขาเบาๆ “ใครอยากฟังนายพูดโกหกล่ะ”
ยวี่จิ้นเหวินจับมือเธอ จูบหลังมือเธอหนึ่งที แล้วพูดขึ้น “ตอนที่ฉันแน่ใจว่ารักเธอจริงๆ ก็เริ่มคิดแล้วว่าลูกของเราในอนาคตจะเป็นไง ตอนเดทกัน ก็คิดว่าภรรยาฉันน่ารักขนาดนี้ อนาคตจะต้องมีลูกสาวที่น่ารักเหมือนเธอแน่ๆ ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้ว ฉันยิ่งเตรียมพร้อมในการทำหน้าที่สามีและคุณพ่อ ฉันรู้ พ่อสำคัญแค่ไหนในชีวิตลูก ควรมีบทบาทยังไง ฉันไม่กล้ายืนยันว่าตัวเองจะทำได้ในระดับไหน แต่ฉันจะต้องทำให้ดี”
เดิมทีหนานซ่งนึกว่าเขาจะล้อเล่นกับตัวเองหรือไม่ แต่เขาพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ท่าทางตั้งใจ ทำให้หัวใจเธอที่กังวลนั้นสบายใจไม่น้อยเลย ในตอนนี้จู่ๆ เธอก็ได้สัมผัสถึงความหมาย “สามีภรรยา” ก็คือการเผชิญหน้าเรื่องราวทุกอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีความสุขหรือขมขื่น ก็ไม่ห่างจากกัน เหมือนคำสาบานที่พวกเขาทำตอนแต่งงาน
ความรู้สึกผู้หญิงค่อนข้างแม่นยำว่า ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ไม่ได้ท้อง
หนานซ่งรู้สึกโล่งอกในเวลาเดียวกัน แต่ก็รู้สึกแอบหดหู่ เธอเงยหน้ามองยวี่จิ้นเหวิน “เสียดายคำสารภาพนายเมื่อกี้”
ยวี่จิ้นเหวินตกตะลึง มองออกถึงความเศร้าในแววตาเธอ เข้าไปกอดเธอ จูบข้างหูเธอ แล้วพูดเบาๆ “เสียดายได้ไง รอมีจริงๆ ฉันค่อยพูดอีกรอบก็ได้ ไม่เป็นไรนะ นี่แสดงว่าเครื่องป้องกันที่ฉันซื้อมีคุณภาพ ตอนนี้เธอเชื่อหรือยังว่า ฉันไม่ได้แอบทำอะไรลับหลังเธอ?”
หนานซ่งหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แล้วจ้องมองเขา “ล้างแค้นอีกแล้ว! ฉันใส่ร้ายนายเอง ฉันใจแคบเองโอเคไหม”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันโดนใส่ร้ายอย่างรุนแรงเหมือนโต้วเอ๋อเลย”
ยวี่จิ้นเหวินมองเธอด้วยดวงตาดำสนิท “เธอจะชดใช้ฉันยังไง?”
“ต้องชดใช้ด้วย?”
หนานซ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เก่งขึ้นเรื่อยๆ หยิกเขาหนึ่งที “ฉันยังไม่ได้ว่านายเลย นายทำให้ฉันตกใจ อยู่ดีๆ ก็บอกว่าฉันท้อง เอะอะใหญ่โต โรคหัวใจฉันเกือบกำเริบเพราะนายทำให้ตกใจ ยังไม่ให้นายจ่ายค่าเสียหายทางจิตใจเลยนะ”
“ฉันชดใช้ให้ เราต่างจ่ายกันและกัน”
ยวี่จิ้นเหวินโอบไหล่เธอเดินไปข้างนอกแล้วพูดขึ้น “บัตรเงินเดือนฉันตอนนี้อยู่ในมือคุณนาย มีเงินกับตัวไม่มาก แต่ก็เลี้ยงหนังคุณนาย เลี้ยงชานมคุณนายได้นะ โอเคไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...
เนื้อเรื่องมี3-4ประโยค...เหมือนติดเหรียญ😂😂😂...