กว่าจะได้กลับมาสักครั้ง หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินยังอยากอยู่ที่คฤหาสน์เก่าตระกูลยวี่เป็นเพื่อนคุณตาคุณยายแล้วก็คุณแม่
ยวี่เฟิ่งเจียวกลับไล่เธอกลับคฤหาสน์ยวี่ เธอรู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ชอบใช้ชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเอง ใครจะไปชอบอยู่กับผู้ใหญ่ทุก ๆ วัน สองคนสวีทหวานกะหนุงกะหนิงกันดีจะตาย ดังนั้นบ่ายวันต่อมา หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินก็ลากกระเป๋าเดินทางกลับคฤหาสน์ยวี่
หลังจากที่ทั้งสองจดทะเบียนสมรสกันก็เที่ยวเล่นอยู่ที่ต่างประเทศตลอด เวลาที่เหลือยวี่จิ้นเหวินก็อยู่ที่เมืองหนานกับเธอเป็นส่วนใหญ่ นานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์ยวี่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือนตอนที่จากไป หลังจากที่เสี่ยวเหมาตกแต่งบ้านใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด เป็นสไตล์บ้านที่เธอชอบ เรียบง่าย สดใสสะอาด
กลับมาถึงคฤหาสน์แล้ววางกระเป๋าเดินทาง ยวี่จิ้นเหวินจูงมือพาหนานซ่งเดินดูรอบ ๆ
ห้องหนังสืออยู่ข้างห้องนอน ห้องหนังสือที่ใหญ่โตแบ่งออกเป็นสองโซน ตรงกลางมีแผ่นกั้นที่สามารถเลื่อนไปมาได้ ไม่เพียงแต่ทำให้แน่ใจได้ว่าจะไม่รบกวนกันเมื่อต้องทำงานอย่างเงียบ ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลาเมื่อต้องการทำงานร่วมกัน เป็น
ชั้นวางหนังสือติดกำแพงสามด้านมีหนังสืออยู่เยอะมาก เหมือนกับหอสมุดขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เป็นหนังสือการจัดการทางทหารและเศรษฐกิจ
ยวี่จิ้นเหวินพูดกับหนานซ่งอย่างอ่อนโยน “หนังสือของฉันหลายเล่มถูกเก็บจัดแจงไว้ที่โกดังแล้ว ชั้นวางหนังสืออีกสองแถวเก็บไว้ให้เธอ อยากได้หนังสืออะไรเขียนรายการหนังสือที่เธอต้องการออกมา เดี๋ยวฉันใช้ให้คนไปซื้อให้” เขารู้ว่าหนานซ่งชอบอ่านหนังสือกระดาษมากกว่าอีบุ๊ก ห้องหนังสือของตระกูลหนานก็ไม่ได้เล็กไปกว่านี้
ตอนนี้ที่นี่ก็คือบ้านของเธอ แน่นอนว่าหนานซ่งไม่มีทางเกรงใจเขา เธอตอบรับ “ตกลง”
ที่ชั้นหนึ่งคือห้องออกกำลังกายกับห้องเล่นเกม มีเกมมากมายที่หนานซ่งไม่เคยเห็นมาก่อน เธอถูกดึงดูดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลงมือเล่น
เกมตีตุ่น แข่งรถ จับตุ๊กตาเธอเล่นได้ดีมาก ยวี่จิ้นเหวินมองเข้าไปในดวงตาที่สดใสของเธอ เขาอดหัวเราะไม่ได้
พูดกันว่าผู้ชายเป็นเด็กไปจนถึงตาย แต่เขามักจะเห็นความรู้สึกอ่อนวัยในตัวของหนานซ่ง
เดาว่าตอนเด็ก ๆ คงจะได้รับการปกป้องอย่างดี ไม่ว่าจะโตขนาดไหน มีความเป็นเด็กอยู่ในใจเสมอ
เห็นเธอเล่นสนุก ยวี่จิ้นเหวินก็ไม่กล้ารบกวน เพียงเมื่อเขาหันหน้าไปมองหุ่นยนต์ที่อยู่ข้าง ๆ จู่ ๆ ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้
“เสี่ยวเหมา...ปัญญาอ่อนนิดหน่อย”
“หา?” หนานซ่งจับตุ๊กตาตัวหนึ่งได้สำเร็จ เธอกำลังดีใจอยู่ จากนั้นก็หันหน้าไปมองยวี่จิ้นเหวิน และก็เห็นหุ่นยนต์ที่อยู่ด้านข้างเขา
“นี่คืออะไร?”
หนานซ่งกอดตุ๊กตาเดินเข้ามา
เมื่อกดปุ่มเริ่มทำงาน ก็ได้ยินเสียงเพลงดังออกมา มีเซเลอร์มูนเต้นอยู่บนหน้าจอ
ดวงตาของเธอสั่นไหว “นี่คือเครื่องเต้น?”
ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้า “น่าจะใช่นะ”
มองเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขา แล้วก็คิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของเขา “นายหมายความว่ายังไง?”
เมื่อเห็นว่าภรรยาจะโมโหแล้ว ยวี่จิ้นเหวินรีบพูดกล่อม “ความผิดของฉันเอง ที่ลืมบอกเสี่ยวเหมาว่าเธอเต้นไม่เป็น”
ไม่พูดคำนี้ก็ยังดีหน่อย เมื่อพูดแล้วหนานซ่งโมโหยิ่งกว่าเดิม
ดูถูกใครน่ะ?
“ฉันจะเต้นไม่เป็นได้ยังไง นายอย่าไปฟังพวกพี่ ๆ พูดมั่ว พวกเขาไม่มีรสนิยม ไม่เข้าใจการเต้นของฉัน”
หนานซ่งเอาจริงเอาจังกับการรับรองชื่อของเขา เธอโยนตุ๊กตาใส่มือยวี่จิ้นเหวิน “ถือไว้ ก็แค่เต้นไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะเต้นให้นายดู!”
ยวี่จิ้นเหวินอยากจะห้าม แต่ห้ามไว้ไม่อยู่แล้ว
เพราะว่าเธอกระโดดขึ้นไปแล้ว
หนานซ่งจินตนาการถึงตัวเอง เมื่อเริ่มเต้นก็คงจะสวยทีเดียว อย่างน้อยแขนขาของเธอก็มีความยืดหยุ่น และการเต้นของเครื่องเต้นก็ดูไม่น่าจะยาก แค่เหยียบตามจุดที่ไฟสว่างก็ได้แล้ว ถึงแม้เธอจะเคยสาบานกับคนในครอบครัวว่าเธอจะไม่เต้นอีก
แต่ในมุมมองของยวี่จิ้นเหวิน
เหมือนกับดูละครหนังกลางแปลง และก็เหมือนกับได้ดู “เทพของการเต้น” มองซ้ายขวาบนล่างดูไม่เหมือนการเต้น
เหมือนกับนักเรียนที่ออกกำลังยืดเส้นยืดสาย และก็ไม่ได้มาตรฐานไม่มีมาตรฐานมาก ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...