ท้องน้อยของหนานซ่งยังคงแบนราบ ตัวเองก็ทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ดูไม่ออกเลยว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่
ทางด้านยวี่จิ้นเหวินกลับดูออกแล้ว
เขาเหมือนกับหวังผิง อาการหนักมาก หนานซ่งยังไม่เริ่มแพ้ท้อง เขากลับอาเจียนตั้งหลายวันแล้ว
เขารู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนตลอดเวลา
“นายกังวลอะไร?”
หนานซ่งมองดูใบหน้าซีดเซียวและวิตกกังวลของยวี่จิ้นเหวิน เธออยากจะชี้แนะเขา
ยวี่จิ้นเหวินพูด: “เป็นพ่อคนครั้งแรก ไม่มีประสบการณ์...”
หนานซ่งพูดในใจ: ใครไม่ได้เป็นแม่คนครั้งแรกบ้าง?
โชคดีที่ในบ้านไม่ได้มีเธอที่ตั้งครรภ์อยู่คนเดียว ยังมีเสี่ยวเหวิน แล้วก็มีพี่สะใภ้สามที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้พวกเธอ ตอนนี้เธอกับเสี่ยวเหวินเหมือนกับนักเรียนที่รักการเรียนสองคน ตามติดถามนู่นถามนี่ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการตั้งครรภ์กับซูอิงทุกวัน
ยวี่จิ้นเหวินกับหวังผิงก็ขอคำชี้แนะจากเฮ่อเซินถึงเรื่องต่าง ๆ ที่คุณพ่อมือใหม่ต้องระวัง
ทั้งสองคน ต่างคนต่างถือสมุดหนา ๆ อยู่ในมือ ด้านในจดบันทึกความรู้ไว้อย่างแน่นหนา เป็นข้อมูลที่พวกเขาศึกษาเองในช่วงนี้ ตอนนี้เฮ่อเซินพูดไปด้วยพวกเขาก็จดบันทึกไปด้วย สีหน้าจริงจังและความอยากรู้อยากเห็น หากใครไม่รู้คงนึกว่าพวกเขากำลังประชุมสำคัญกันอยู่
หนานหนิงซงเห็นพวกเขาพูดคุยกันอย่างคึกคัก เขาจึงยกกาน้ำชามาเข้าร่วม
เฮ่อเซินพูด: “ช่วงที่ผู้หญิงตั้งครรภ์อันที่จริงพวกเราช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย อย่างเดียวที่สามารถทำได้ก็คืออยู่เคียงข้าง แล้วก็อย่าเพิ่มความรำคาญใจให้กับพวกเธอ พวกเธอต้องการอะไรก็รับปากพวกเธอ ที่บ้านเตรียมของอร่อยไว้เยอะหน่อย ช่วงตั้งครรภ์รสนิยมเปลี่ยนไปหลากหลาย ตอนแรกชอบกินเปรี้ยว ไม่แน่ผ่านไปครู่หนึ่งก็อาจจะชอบกินเผ็ด และก็ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่งก็กินอะไรไม่ได้เลย ได้กลิ่นอะไรก็อยากจะอาเจียน ต้องรู้จักการปรับตัวไปตามสถานการณ์...”
หวังผิงกับยวี่จิ้นเหวินพยักหน้าแล้วครุ่นคิด ปากกาจดบันทึกเรื่องสำคัญลงบนสมุด
ยวี่จิ้นเหวินจดไปด้วยถามไปด้วย “เตรียมอะไรถึงจะดีนะ? ตัวอย่างเช่น”
“ขอเพียงอร่อย ก็เตรียมไว้หน่อยแล้วกัน”
เฮ่อเซินนึกย้อนถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน เขายังจำได้ จึงพูดขึ้น: “ฉันจำได้ว่ามีอยู่คืนหนึ่งเสี่ยวซูอยากกินไอศกรีม พอดีกับที่ไอศกรีมแท่งสุดท้ายถูกฉันกินไปแล้วในตอนบ่าย เธอเปิดตู้เย็นไม่เห็นไอศกรีม ฉันบอกว่าฉันกินไปแล้ว จากนั้นสายตาที่เธอมองฉัน รู้สึกเหมือนวินาทีต่อมาเธอจะกินฉันแล้ว...”
คิดถึงสายตานั้น เฮ่อเซินกลืนน้ำลายด้วยความใจเสียวไม่หาย
ยวี่จิ้นเหวินกับหวังผิงฟังแล้ว ก็พากันเงยหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงวิกฤตหนัก จากนั้นก็ก้มหน้าเขียนลงในสมุดว่า “ไอศกรีม” ยวี่จิ้นเหวินเขียนเครื่องหมายตกใจไว้ด้านหลัง ส่วนหวังผิงขีดเส้นใต้สองเส้นเพิ่มลงไป
หนานหนิงซงก็นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วพูดขึ้น: “ของลูกยังดีหน่อย ไอศกรีมสามารถซื้อได้ในทันที แม่ของลูก ดึก ๆ ดื่น ๆ นึกประหลาด เตะพ่อขึ้นจากเตียง เธอเกิดอยากกินเต้าหู้เหม็นขึ้นมา ตีสามหัวรุ่ง พ่อจะไปซื้อเต้าหู้เหม็นที่ไหนให้เธอล่ะ? เธออยากจะกิน ถ้าไม่ได้กินก็จะกัดพ่อ ไม่มีทางเลือก กลางดึกพ่อวิ่งแจ้นออกไปซื้อให้เธอ แต่หาซื้อไม่ได้จริง ๆ ก็เลยซื้อเต้าหู้กลับมาก้อนหนึ่ง จะลงมือทำเอง กว่าจะทอดออกมาได้ เธอกลับบอกว่าไม่กินแล้ว ได้กลิ่นแล้วอยากอ้วก จากนั้นก็มองพ่ออย่างน่าสงสาร แล้วบอกว่าอยากกินช่วนช่วน”
ยวี่จิ้นเหวินกับหวังผิงได้ยินแบบนี้ พวกเขามุมปากกระตุกพร้อมกัน
ทั้งสองมองตากัน ยวี่จิ้นเหวินพูดแนะนำ: “ไม่งั้นผมจ้างเชฟทำอาหารว่างมาที่บ้านดีไหม?”
หวังผิงพยักหน้า “ฉันคิดว่าได้นะ”
เดิมทียวี่จิ้นเหวินคิดว่าตัวเองเรียนทำเองก็ได้ แต่เมื่อได้ฟังพ่อตากับพี่สามพูดแบบนี้ บางทีความเร็วในการเรียนทำอาหารคงตามไม่ทันความเร็วในการเปลี่ยนรสชาติของภรรยา เชิญพ่อครัวใหญ่มาที่บ้าน อุ่นใจกว่า
เฮ่อเซินพูด: “ตอนนี้ฉันก็ยังเรียนรู้อยู่ ช่วงตั้งครรภ์ ช่วงอยู่เดือนเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงอ่อนแอและอ่อนไหวมากที่สุด พวกเธอไม่ใช่แค่ต้องต่อสู้กับร่างกาย แถมยังต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจ ช่วงเวลานี้พวกเราจะอืดอาดไม่ได้ จะต้องตื่นตัวหน่อย ไม่อย่างงั้นจะถูกอาฆาตเอาง่าย ๆ แล้วก็ยากที่จะแก้ตัวไปตลอดชีวิต”
เขาเรียนรู้มาเยอะมาก และก็ได้ฟังบทเรียนมากมาย ในที่สุดก็ผ่านมาได้อย่างราบรื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...