ตอนที่ 555 สาวใช้ตัวแสบ 459
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นออกเดินทางไปนั้น หลี่เหอไท้ก็พูดกับจ้าวเหวินอิง : “แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมส่งคนให้ไปติดตามชีหรั่นแล้วนะครับ ถึงแม้ว่าคนจะไม่เยอะมาก แต่ฝีมือดีมากๆเลยนะครับ ”
“ โอเค เหอไท้ เรื่องช่วงนี้ของเธอก็ต้องรบกวนให้คุณช่วยเยอะหน่อยนะ พวกคุณเป็นวัยรุ่นกันทั้งคู่ พูดกับง่าย คุณแนะนำเธอหน่อย เพื่อบางครั้งเธอคิดไม่ออก ”
“แม่ ผมรู้แล้ว แม่วางใจเถอะครับ ผมจะดูแลแน่ ”
“อือ ” จ้าวเหวินอิงก็รู้ว่าหลี่เหอไท้กตัญญูต่อเธออย่างมาก บริษัทของเขานับว่ามีอยู่ทุกที่ทั่วโลก แต่เขาไม่ได้เปิดสาขาย่อยที่ตงเจียง
เศรษฐกิจในตงเจียงยังไม่นับว่าดีมากๆ ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ของระหว่างประเทศ การลงทุนผลกำไรในที่นี้ไม่สูงมากนัก
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาของผลประโยชน์ที่ได้รับ หลี่เหอไท้เลยไม่ได้เปิดบริษัทที่ตงเจียง ตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักลูกสาวที่แท้จริงของเธอที่ตงเจียง หลี่เหอไท้ก็เริ่มที่จะเปิดบริษัทที่ตงเจียงแล้ว นี้แสดงให้เห็นว่าเขารู้ว่าแม่จะอยู่ที่ตงเจียง เขาก็เอางานที่สำคัญๆมาไว้ที่นี่
เขาไม่เคยพูด จ้าวเหวินอิงก็รู้อย่างแน่นอน
ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นอกหักแล้ว เขาก็วางแผนที่ให้เซี่ยชีหรั่นมาทำงานที่บริษัทอีก แน่นอนว่านี้ก็เป็นสิ่งที่เธอทำในฐานะแม่
เธอปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก ความคับอกคับใจในอดีตทั้งหมด ก็หายไปตั้งนานแล้ว
มองเห็นท่าทางที่ไม่มีจิตวิญญาณและชีวิตชีวาของเซี่ยชีหรั่นอย่างนั้น มีบางครั้งเธอก็คิดว่า เธอควรที่จะสนับสนุนให้เธอเลิกกับเย่เชินหลิน หรือว่าสนับสนุนให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อที่จะได้อยู่กับเขาต่อกันแน่
เธอผ่านอุปสรรคความลำบากมาแล้ว มีความสุขในวันนี้ได้ ลูกสาวของเธอจะมีความสุขไม่ได้เหรอ?
เย่เชินหลินไม่เหมือนกับจงหวีฉวน เขาชอบเซี่ยชีหรั่นด้วยใจจริง เมื่อวานตอนกลางคืนยืนลานนอกบ้านมองขึ้นไปบนตึกอย่างบริสุทธิ์ใจ จ้าวเหวินอิงจะไม่เคยเห็นได้ยังไง
ท่าทางของเซี่ยชีหรั่น เธอไม่ได้ถาม ก็รู้ว่านอนหลับไม่ดีแน่ๆ
“แม่ ให้เธอคิดเอาเองเถอะ พวกเราไม่มีทางที่จะก้าวก่ายได้ จะยอมแพ้หรือว่าจะยืนหยัดต่อไป ก็ดูว่าเธอจะเลือกทางไหน พวกเราก็ช่วยได้เท่าที่พวกเราจะช่วยได้ ” หลี่เหอไท้พูดเสียงเบา จ้าวเหวินอิงฝืนยิ้มออกมานิดหนึ่ง
“แม่รู้ คุณไปทำงานเถอะ ตอนเที่ยงกลับมากินข้าวไหม? อยากกินอะไร แม่ทำให้กิน ”
“อยากกิน หมูนึ่งข้าวคั่วที่แม่ทำ ” หลี่เหอไท้พูดอย่างไม่เกรงใจ
หมูนึ่งข้าวคั่วทำยุ่งยากนิดหน่อย เขาแค่อยากให้จ้าวเหวินอิงทำกับข้าวเพื่อที่จะได้ไม่คิดเรื่องนั้น
เซี่ยชีหรั่นออกไปคนเดียว ที่จริงหลี่เหอไท้อยากที่จะสั่งให้คนรถไปส่ง แต่ก็กลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับ
เขาไม่อยากทำท่าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าเธอจะคิดไปอย่างอื่น คิดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาคิดว่า ผ่านไปสักระยะหนึ่ง เขาจะไปเลือกรถที่เหมาะสมกับเธอให้เธอ
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นออกไป ที่จริงอยากที่จะนั่งรถสาธารณะ แต่คิดไปคิดมา เรียกรถแท็กซี่ดีกว่า
ตอนเธอยืนรถอยู่นั้น รถเบนท์ลีย์สีดำก็มาหยุดที่ข้างๆเธอ ประตูรถเปิดออก บอดี้การ์ดหนึ่งคนลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ
เธอรู้จักบอดี้การ์ดและรถคันนั้น เป็นของคฤหาสน์ตระกูลเย่
“คุณผู้หญิงเย่ เชิญขึ้นรถ ” คนนั้นเดินมาข้างๆเซี่ยชีหรั่น พูดด้วยความเคารพ
“ขอบคุณ แต่ฉันไม่ใช่คุณผู้หญิงเย่อีกต่อไปแล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องลำบากพวกคุณแล้ว พวกคุณไปเถอะ ฉันจะบอกคุณเย่เอง ว่าให้เขาเปลี่ยนแผนอย่างอื่นให้พวกคุณเอง ”
“คุณผู้หญิงเย่ วันนี้ตอนเช้าคุณเย่สั่งพวกเรา บอกว่าคุณก็คือคุณผู้หญิงเย่ พวกเราจำเป็นต้องติดตามคุณ รับผิดชอบความปลอดภัยของคุณ ถ้าคุณไม่นั่งรถไปกับพวกเรา นั้นก็เป็นเพราะพวกเราไม่มีพรสวรรค์ในการพูดที่จะโน้มน้าวคุณได้ พวกเราก็จะต้องถูกไล่ออกจากงาน ”
เซี่ยชีหรั่นเม้มริมฝีปาก คิดในใจ เขาต้องการที่จะทำอะไรกันแน่?
ไม่ใช่พูดแล้วเหรอว่าแยกจากกันก็จะไม่ติดต่อกันแล้วอ่ะ?
เธอลืมไปแล้ว คำพูดนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยพูด
“ก็ได้ วันนี้ก็รบกวนพวกคุณอีกสักรอบนะ ฉันไปบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป จะพูดกับคุณเย่เอง พวกคุณวางใจเถอะ ฉันจะให้เขากลืนคำพูดตัวเอง ” เซี่ยชีหรั่นพูดจบ บอดี้การ์ดก็โค้งตัวเปิดประตูรถด้านหลังให้กับเธอ
“คุณผู้หญิงเย่ ที่พวกเราทำแบบนี้ ไม่เพียงแต่เป็นแค่คำสั่งของคุณเย่ ทุกคนในบ้านตระกูลเย่ของพวกเรารู้สึกว่าการดูแลคุณผู้หญิงเย่ ก็คือความสุขที่สุดของพวกเรา ” ปกติบอดี้การ์ดมักจะไม่ค่อยพูด และก็มักจะทำหน้าตาเคร่งขรึม คิดไม่ถึงว่าชายแกร่งกล้าหาญจะมีอารมณ์อ่อนโยนแบบนี้ด้วย เผยให้เห็นด้านอ่อนโยนบ้างก็ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจเหมือนกันนะ
เซี่ยชีหรั่นก็เป็นคนที่อ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ได้ฟังคำพูดแบบนี้ ดวงตาก็ร้อนขึ้นมา พูดออกมาด้วยความจริงใจอีกครั้ง : “ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆนะ ”
ขอบคุณกันไปมา เธอกับเขาแยกจากกันแล้ว ยังได้รับสิ่งของจากตระกูลเย่ และคนของตระกูลเย่อีก ไม่ดีเลย เธอจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้กับเย่เชินหลินให้ชัดเจน
รถเคลื่อนไปบนทางที่คุ้นเคย เวลาครึ่งปีนั้น เธอล้วนอยู่ที่บ้านแม่ เย่เชินหลินมารับเธอทุกวัน ทั้งสองคนก็ใช้เส้นทางนี้นั่งรถไปทำงานด้วยกัน
เพราะฉะนั้นบนเส้นทางที่คุ้นเคยสายนี้ ล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำที่หอมหวาน
มีร้านชานมหนึ่งร้าน เธอจำได้ว่าเธอหันไปมองแค่สองครั้ง เย่เชินหลินก็สั่งให้คนรถจอดรถ เขาไปซื้อชานมเผือกให้เธอด้วยตัวเองแล้วเอามายื่นให้เธอตรงหน้า ทั้งรักทะนุถนอมเธอ และยังพูดกับเธอว่า : “ให้กินแค่ครั้งเดียว ชานมไม่มีทั้งนม และก็ไม่มีทั้งชา ทั้งหมดล้วนปรุงแต่งขึ้นมา ไม่ดีต่อสุขภาพ ”
ผ่านร้านชานมนั้น เธอเหมือนกับมองเห็นฉากที่มีร่างสูงยาวซื้อชานมให้เธอกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...