บทที่ 56 คืนนี้ยังไงก็ต้องมา
ส้งหลิงหลิงยิ้มและผลักที่เซี่ยชีหรั่นและพูดเตือนขึ้นว่า "ไห่ได้เรียกเธอน้องชีหรั่นแล้ว ทำไมเธอยังไม่เรียกเขาว่าพี่ไห่อีกล่ะ รีบเรียกเขาสิจ๊ะ”
เธอจะพูดออกไปได้อย่างไรกัน ถ้าเธอทำ เย่เชินหลินผู้ที่ซึ่งคอยอิจฉาริษยาอยู่อย่างลับ ๆ นั้นและไม่รู้ว่าเขาจะยิ่งทำอะไรยังไงกับเธออีก
ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นคร่ำครวญคิดอยู่นั้น ของเธอเย่เชินหลินพูดเสียงเรียบขึ้นว่า "อะไรกัน หลิงหลิง วันนี้เป็นวันประชุมนับญาติกันหรือไง”
ปฏิกิริยาภายนอกของส้งหลิงหลิงยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่ภายในใจของเธอคิดอย่างขมขื่นว่า แท้จริงแล้วคุณอยากจะพูดออกมาสินะว่า คุณแค่ไม่อยากได้ยินเธอเรียกคนอื่นว่าพี่ชายใช่หรือไม่ เย่เชินหลินคุณกำลังรังแกฉัน ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณนะ คุณได้ทำเรื่องสนิทลึกซึ้งกับเธอมาแล้วหลังจากนั้นคุณยังมีหน้าพาเธอมาต่อหน้าทุกคน คุณไม่แคร์ความรู้สึกของฉันเลยใช่ไหม
เพื่อที่จะทำให้เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องอึดอัดไปมากกว่านี้ ไห่ลี่หมินพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า "จะเรียกยังไงก็เหมือนกันนั่นแหละ รีบ ๆนั่งลงเถอะครับ"
คนนามสกุลไห่ผู้นี้ ต่อหน้าต่อตาเขานั้นก็ยังคอยช่วยแก้ต่างให้กับเซี่ยชีหรั่นได้อยู่ไม่น้อย และนั่นยิ่งทำให้เย่เชินหลินดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก
ส้งหลิงหลิงยังคงยิ้มอยู่ และดึงให้เซี่ยชีหรั่นนั่งบนโซฟาอีกฝั่งหนึ่ง แล้วถามกับพานหยูว่า "พานพานเธอคิดว่าน้องสาวของฉันสวยมั้ย"
พานหยูหัวเราะ "สวยจริง ๆ เป็นคนสวยมากที่หาได้ยากจริง ๆ ครั้งต่อไปถ้ามีน้องสาวดี ๆ แบบนี้ แนะนำให้ฉันรู้จักสักคนด้วยนะเพราะการเป็นลูกคนเดียวนี่เหงาจะแย่แล้ว"
"นี่ อย่าเพิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องสวยๆงามๆก่อน เธอช่วยฉันคิดหน่อยว่าใกล้ๆตัวเธอตอนนี้มีหนุ่มหล่อๆรวยๆสักคน พอที่จะแนะนำให้มาแต่งงานกับน้องสาวของฉันบ้างไหม ตอนนี้เธอยังเป็นโสดอยู่เลย"
หลังจากที่ส้งหลิงหลิงได้พูดประโยคนั้นออกมา สายตาของเย่เชินหลินดูเหมือนจะมองอย่างสำรวจตรวจมาที่หน้าของไห่ลี่หมิน และไห่ลี่หมินเองก็กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นกัน
ทั้งคู่ยังคงสงบนิ่ง และในขณะเดียวกันต่างก็วัดความหึงหวงของอีกฝ่ายที่มีต่อคำพูดของส้งหลิงหลิง
เธอจะโสดได้อย่างไรเมื่อกี้นี้สภาพของเธอดูเหมือนเพิ่งจะ…… พานหยูได้แต่แอบคิดอยู่ในใจเงียบ ๆ แต่ตอบกลับอย่างรู้ทันสถานการณ์ว่า "แหมเธอก็เพิ่งจะพูดเอง ฉันยังคิดไม่ออกเลย และคนที่ฉันรู้จักเหล่านั้นส่วนมากทุกคนก็เสเพลเมาสุรานารีไปวันๆ ฉันไม่กล้าทำร้ายน้องสาวที่แสนดีของเธอโดยการแนะนำพวกนั้นมาให้รู้จักหรอกนะ"
ส้งหลิงหลิงยิ้มอย่างเฉยเมย ตอบกลับเธอว่า "เสเพลเหรอ งั้นไห่ลี่หมินก็……”
“เขาคือสุภาพบุรุษจ๊ะ!” พานหยูกระพริบๆตา และคล้องที่แขนของไห่ลี่หมิน
พวกเขาทั้งสองดูเหมือนจะรักใคร่กันมาก และเย่เชินหลินก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง
เขาแค่อยากรู้ว่าเพราะเธอนั้นรักไห่ลี่หมินมาก เธอจะทนเห็นเขากับผู้หญิงคนอื่นกะหนุงกะหนิงได้หรือไม่ ปฏิกิริยาของเธอจะเป็นเช่นไรกันแน่
ฉันซ่อนมันไว้อย่างดีเยี่ยม และดูไม่ตกใจ เขาอยากจะดูว่าเธอจะสามารถแกล้งทำเป็นไม่สนใจอย่างนี้ได้สำเร็จหรือไม่
เย่เชินหลินหยิบชาด้านหน้าเขาขึ้นมาจิบ แล้วพูดอย่างสบาย ๆ ว่า"คุณสองคน คุยกันเสียงดังเกินไปแล้ว หลิงหลิงพาพานพานไปคุยกันที่ห้องของคุณจะดีกว่า"
“โอเคค่ะ ถ้างั้นพวกคุณสองคนคู่หูก็คุยกันต่อที่นี่นะ น้องชีหรั่น เธอไปกับพวกเราด้วย!” ส้งหลิงหลิงยืนขึ้นแล้วลากมือเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาอีกครั้ง
"เธออยู่ก่อน"
คำสั่งของเย่เชินหลินไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงต้องการให้เธออยู่ต่อ อย่างไรก็ตามเขาได้แสดงให้เห็นแล้วในทางพฤตินัยว่าเขาไม่ได้คิดว่าเซี่ยชีหรั่นนั่นเป็นน้องสาวของส้งหลิงหลิง
รอยยิ้มของส้งหลิงหลิงนั้นดูค่อนข้างจะแข็งกระด้างเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดว่า "ก็ได้ค่ะ งั้นฉันขอตัวไปคุยกับพานพานเป็นการส่วนตัวสักครู่ งั้นน้องชีหรั่นเธออยู่ต่อเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นเดิมทีก็นั่งรออยู่อย่างกระสับกระส่ายมากแล้ว หลังจากที่ส้งหลิงหลิงและพานหยูไปแล้ว เธอก็ยิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้นไปอีก
สถานะของเธอคือยังเป็นคนรับใช้ ในใจเธอนั้นรู้ดี ดังนั้นหลังจากพวกเขาจากไป เธอก็ลุกยืนขึ้นและไปยืนก้มอยู่ถัดจากเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินดูสบาย ๆ เขาดูผ่อนคลายกลับมาเป็นตัวเองมากขึ้น เขายกชาขึ้นดื่มอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ พูดคุยกับไห่ลี่หมินว่า
"ไห่ จะหมั้นกันเมื่อไหร่เหรอ"
ขณะที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนเขานั้นจะไม่ได้มองที่ไห่ลี่หมินเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขากำลังสแกนหาปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงที่แสดงออกมาของเซี่ยชีหรั่น
"ก็แล้วแต่พานหยูจะพร้อม" ไห่ลี่หมินตอบเสียงเรียบ
“แล้วเมื่อไหร่ที่จะได้ดื่มฉลองมงคลสมรสของคุณกับหลิงหลิงล่ะ ฉันรู้ว่าเธออยากจะแต่งมาก ๆแล้ว ” ไห่ลี่หมินย้อนถามคำถามที่ดูอึดอัดกลับมาเช่นกัน และเช่นเดียวกันว่าเขาได้ทำแบบเดียวกับเย่เชินหลิน คือแอบไปที่เซี่ยชีหรั่น
ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไร เซี่ยชีหรั่นก็ได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่ชายร่างใหญ่โตทั้งสองคนนี้นั้นดูเหมือนกับเด็กเสียจริง ๆ
ในห้องพักของส้งหลิงหลิง เธอกับพานหยูกำลังคุยกันอย่างเสียงเบา ๆ ราวกับกระซิบ
พวกเขาเป็นเพื่อนที่ไม่ต้องพูดก็รู้ใจกันทุกอย่าง วันนี้เรื่องระหว่างส้งหลิงหลิงและเซี่ยชีหรั่นนั้นทำให้พานหยูแอบสงสัยอยู่ไม่น้อย เธออดกลั้นวันค่อยคุยกันตามลำพังสองคน เมื่อได้โอกาสเธอก็ได้ถามทุกข้อสงสัยที่เธอมีอยู่ในสมองและในใจของเธอ
"พานพานฉันจะบอกความจริงกับเธอนะว่า นังเซี่ยชีหรั่นนั่นเธอได้จับเชินหลินไว้ได้อยู่หมัดเสียแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกถึงกับต้องรับเธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมของฉัน เธอก็คงจะเห็นละว่าทำถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่สามารถหยุดยั้งได้ เธอมีไอเดียดี ๆมากที่สุด โปรดช่วยฉันคิดทีสิว่าฉันจะแยกพวกเขาออกจากกันได้อย่างไร "
พานหยูไตร่ตรองอยู่นาน แล้วพูดอย่างหงุดหงิดว่า " ไม่ใช่ว่าเธอจะให้ฉันแนะนำคนที่เหมาะสมกับหล่อนไม่ใช่หรือไง ฉันคิดว่าเธอ ... "
ส้งหลิงหลิงพยักหน้า และก็มีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง เธอจับคอของพานหยูและพูดอย่างจีบปากจีบคอว่า "พานพานนี่ก็ยังเก่งที่สุดเลย มันเป็นวิธีที่ดีมากๆ ฉันจะโทรหาทันทีในตอนนี้"
เย่เชินหลินและไห่ลี่หมิน พูดคุยกันซักพักแล้วเขาก็ขอตัวลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ไห่ คุณนั่งเล่นไปก่อน ฉันมีบางอย่างที่จะต้องจัดการสักหน่อย เดี๋ยวฉันกลับมา"
เพื่อป้องกันไม่ให้เย่เชินหลินต้องเกิดความเข้าใจผิดไปมากกว่านี้เซี่ยชีหรั่นได้เดินตามรอยเท้าของเขาไปด้วย เธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่คนเดียวตามลำพังเพื่อเผชิญหน้ากับไห่ลี่หมิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...