สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 19

รางวัลที่ฟางเหนียงได้มา 10 ชิ้นมีรางวัลใหม่อยู่ 3 อย่างคือ ที่ดักปลา 1 อัน ปุ๋ยเม็ด 2 ห่อ ถ่านหิน 3 อัน เสื้อคลุม 2 ตัว และรางวัลที่เคยได้มาแล้ว 1 อย่างคือปุ๋ยผง 2 ห่อ รางวัลที่ได้ซ้ำคือรางวัลที่ใช้แล้วหมดไป ระบบถึงทำการซ้ำรางวัลให้ แต่ถ้าหากนางต้องการรางวัลที่ระบบไม่ได้ซ้ำให้ก็สามารถซื้อเพิ่มได้ นางเอาของรางวัลทั้งหมดนี้ไว้ในตู้ก่อนเพราะตอนนี้นางยังไม่ต้องการใช้มัน

หลายวันมานี้เหมยเหม่ยกับฟางเหนียงขึ้นเขาไปขุดหน่อไม้เกือบทุกวัน นางเอาหน่อไม้ที่ได้มาทำเป็นหน่อไม้ตากแห้ง หน่อไม้ดอง หน่อไม้นึ่ง หน่อไม้ที่นางทำนี้เก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี วันนี้นางจะไปที่ลำธารเพื่อจะลองใช้ที่ดักปลาอันใหม่ ที่ดักปลานี้จะมีสรรพคุณอย่างที่ระบบบอกไว้รึไม่ นางมาถึงลำธารก็หาจุดดักปลาตรงที่ไม่ค่อยมีคน แล้วเดินลงไปในลำธารที่ตอนนี้น้ำไหลแรงมากแต่ไม่ลึก นางเอาที่ดักปลาลงไปในซอกหินที่พอดีกับที่ดักปลา เสร็จแล้วจึงเดินขึ้นมาทางที่นางวางตะกร้าไว้ ในขณะที่รอปลาติดกับอยู่นั้นนางหันไปเจอต้นพุทราที่มีผลดกอยู่เต็มต้น นางสะพายตะกร้าได้ก็รีบวิ่งไปทางต้นพุทราอย่างตื่นเต้นเพราะนางชอบกินพุทราเป็นอย่างมาก พุทราต้นนี้ไม่สูงมากนางจึงเก็บได้ง่าย นางเก็บพุทราจนพอใจแล้ว จึงเดินกลับมาดูว่าปลาติดกับแล้วรึยัง

“โอ้โห!!!ได้เยอะขนาดนี้เลยรึ ข้าออกไปเก็บพุทราแค่แป๊บเดียวเองนะ” เป็นอย่างที่ระบบบอกไว้จริงๆ ด้วย ที่ดักปลาอันนี่จะดึงดูดเอาแต่ปลาที่โตเต็มวัยเท่านั้น นางเอาพุทราที่ห่อไว้ในตะกร้าออกมา แล้วเทปลาลงในตะกร้าแทน นางแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยปลามือข้างหนึ่งก็ถือห่อพุทรากลับบ้านอย่างอารมณ์ดี นางเดินมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจ “รถม้าของใครกันทำไมถึงมาจอดอยู่หน้าบ้านของข้า” นางจึงเดินตรงไปที่คนขับรถม้าเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงมาจอดรถม้าขวางทางหน้าบ้านของนาง คนขับรถม้าที่เห็นว่านางน่าจะเป็นเจ้าของบ้านที่เขากำลังตามหาอยู่จึงหันไปเรียกแม่สื่อที่มากับเขา

“เจี้ยเช่าเหริน เจ้าของบ้านมาแล้วขอรับ” หญิงวัยกลางคนที่ตอนแรกนั่งรออยู่ในรถม้า ได้ยินเช่นนั้นก็ลงมาจากรถม้าทันที “แม่นาง ใช่หลิวฟางเหนียงหรือไม่ ตระกูลเหย่ส่งข้าให้มารับแม่นาง” ฟางเหนียงยืนนิ่งอยู่สักพักจึงพยักหน้าตอบ “ใช่เจ้าค่ะ เอ่อ เช่นนั้นเชิญทั้งสองท่านเข้าไปคุยข้างในก่อนเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนเดินตามนางเข้าไปในบ้าน นางจัดน้ำจัดท่าให้ทั้งสองคนดื่ม หญิงวัยกลางคนผู้นี้จึงเอ่ยถึงเรื่องที่ได้รับมอบหมายขึ้นมาทันที

“ตอนนี้แม่นางก็อายุครบ 17 ปีแล้ว คุณชายเจิ้งเจี๋ยจึงส่งตัวข้าให้มารับแม่นางกลับไปแต่งงานตามสัญญาที่เคยหมั้นหมายไว้เมื่อครั้งในอดีต” ฟางเหนียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไปในทันที ไหนท่านลุงบอกว่าเดือน 2 เดือนถึงจะมาแล้วนี่อะไรผ่านไปแค่ 2 อาทิตย์เองทำไมถึงได้มาเร็วถึงเพียงนี้ล่ะ เฮ้อ จะช้าจะเร็วก็ได้แต่งอยู่ดีสินะ ก็แค่แต่งงานมีสามี มีอะไรให้น่ากลัว แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิตก็แล้วกัน

“ท่านทั้งสองมาถึงเหนื่อยๆ พักผ่อนก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าขอตัวไปทำกับข้าวก่อน” วันนี้นางทำปลาราดพริก ผัดหน่อไม้กระดูกหมู ต้มปลาหน่อไม้ดอง หลังจากทั้งสามคนทานข้าวเสร็จ หญิงวัยกลางคนท่านนี้ก็ให้นางเตรียมสิ่งของที่จะนำไปด้วยขึ้นรถม้าเลย เพราะพรุ่งนี้จะออกจากหมู่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ นางมีแค่ตู้กับเสื้อผ้าเท่านั้นที่จะเอาไปด้วย แต่หญิงวัยกลางคนท่านนี้ให้นางนำหน่อไม้ที่ทำไว้ไปด้วยทั้งหมด เก็บไว้ที่นี่ก็ไม่มีใครกิน นางว่ามันก็ดีเช่นกันอุตส่าห์ขึ้นเขาไปขุดตั้งหลายวัน

นางตื่นตั้งแต่ยามอิ๋น วันนี้นางเอาเสื้อคลุมในตู้มาใส่เพราะรู้สึกว่าวันนี้อากาศหนาวมาก ระบบบอกนางว่าเสื้อคลุมตัวนี้หากใส่ช่วงอากาศหนาวจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแต่ถ้าใส่ในช่วงอากาศร้อนก็จะทำให้ร่างกายเย็นสบาย อากาศหนาวนางไม่ต้องใส่เสื้อหลายชั้นแล้วใส่แค่เสื้อคลุมตัวนี้ตัวเดียวก็ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาทันที นางเตรียมตัวเสร็จแล้วจึงออกไปลาเหมยเหม่ยกับท่านลุงท่านป้า ตั้งแต่นางมาอยู่ที่นี้ก็มีแต่ครอบครัวของเหมยเหม่ยที่ดีกับนางเสมอ ตอนนี้ถึงคราวต้องจากกันทำให้นางรู้สึกเสียใจไม่น้อย นี่สินะสัจธรรมชีวิต มีพบก็ต้องมีจาก งานเลี้ยงไม่มีวันไม่เลิกรา

“ฟางเหนียง เจ้าไปอยู่ที่นู่นแล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ หากมีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ไข อย่าได้กลัวแล้วมันจะผ่านไปเอง” ท่านลุงเอ่ย “ท่านป้าขอให้เจ้ามีความสุข เชื่อฟังสามีเขาจะได้รักเจ้าให้มากๆ ท่านป้าคิดถึงเจ้าเสมอนะ หากเจ้ามีเวลาว่างก็มาหาท่านป้าได้ตลอด” ท่านป้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ฟางเหนียงเจ้าไม่อยู่ ข้าคงไม่มีเพื่อนไปไหนด้วยกันแล้ว เจ้าไปอยู่เมืองอื่นก็ดูแลตัวเองให้ดี งานแต่งเจ้าข้าคงไปไม่ได้ ข้าก็ขอให้เจ้าอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข รักกันมากๆ มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง” เหมยเหม่ยพูดแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาทันที ฟางเหนียงเห็นดังนั้นก็ร้องไห้เช่นกัน ไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่

“ขอบคุณท่านลุงท่านป้าแล้วก็เหมยเหม่ยมากเลยนะเจ้าค่ะ ที่คอยดูแลข้ามาตลอด ข้าจากไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกทีเมื่อไหร่ ข้าขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง อย่าได้มีโรคภัยมารบกวน ส่วนเหมยเหม่ยข้าคงไม่ได้อยู่รอดูเจ้าใส่ชุดแต่งงาน แต่ข้าก็ขอให้สามีรักเจ้า เชื่อฟังเจ้า ให้เกียรติเจ้า ขอให้เจ้ามีความสุขมากๆ นะ หากคิดถึงก็ส่งสารไปหาข้าได้เลย ตอนนี้จะสายแล้วเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าค่ะ” นางกล่าวลาเสร็จแล้วก็เข้าไปกอดเหมยเหม่ยครั้งสุดท้ายแล้วจากไปอย่างอาวรณ์ เหมยเหม่ยออกมาส่งนางขึ้นม้าด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด นางโบกมือลาเหมยเหม่ยจนลับสายตา

การเดินทางไปเมืองเฟิ่งฟู่ครั้งนี้ปกติราบรื่นทุกอย่าง ฝนก็ไม่ตกเช่นกัน ใช้ระยะเวลาทั้งหมดร่วม 10 วัน นางแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมถึงใช้เวลาเดินทางนานกว่าครั้งที่แล้ว แต่นางก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา หลังจากที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยในที่สุดก็มาถึงที่หมาย แต่นางก็ต้องแปลกใจขึ้นไปอีกเพราะบ้านตะกูลเหย่ไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ แล้วหญิงวัยกลางคนท่านนี้พานางมาที่ไหนกัน นางเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย “เจี้ยเช่าเหริน ตระกูลเหย่ไม่ได้อยู่หมู่บ้านนี้ไม่ใช่รึ” หญิงวัยกลางคนคิดว่าแม่นางคนนี้คงยังไม่รู้เรื่องของตระกูลเหย่เป็นแน่ จึงบอกเรื่องราวคร่าวๆ กับนางไป

“แม่นาง ตระกูลเหย่ย้ายมาที่หมู่บ้านนี้ได้ 3 ปีแล้ว ได้ยินมาว่าโดนโกงเรื่องการค้านี่แหละ ชาวบ้านเขาลือกันว่าพ่อแม่ของคุณชายเจิ้งเจี๋ยทำใจไม่ได้จึงตรอมใจตายเมื่อ 2 ปีก่อน เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ค่อยใจเท่าไหร่” หญิงวัยกลางคนท่านนี้พูดจบ รถม้าก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง นางลงมาจากรถม้าแล้วมองไปที่บ้านหลังนั้น มีชายร่างผอมคนหนึ่งยืนรออยู่หน้าบ้าน คนขับรถม้าเอาของลงให้นางหมดแล้วก็จากไปพร้อมหญิงวัยกลางคนท่านนั้น นางยืนมองบ้านที่มีสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมาก นางไม่คิดเลยว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านของตระกูลเหย่จริงๆ นางเดินเข้าไปหาชายผู้นั้นที่ตอนนี้กำลังมองนางอย่างไม่ละสายตา สายตาที่เขามองนางอยู่นั้นเป็นสายตาที่รู้สึกผิดอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ