ครีมไม่เชื่อว่าเธอทำไม่ได้ และกล่าวว่า: “พวกเธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลธวัชพลังกรด้วยกัน มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะไปได้เส้นผมของเขามา”
“เธอก็รู้ว่านี่คือคฤหาสน์ของตระกูลธวัชพลังกร มีบ้านในทางตะวันออก ตะวันตก เหนือและใต้แต่ละหลัง ซึ่งเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน และไม่ติดต่อกันเลย จะให้ได้เส้นผมของเขามาได้อย่างไร” มีนายังคงปฏิเสธ
ครีมพูดต่อว่า: “ยังไงเธอก็ต้องคิดหาวิธีให้ได้ ต่อให้ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ก็ยังอยู่ในคฤหาสน์เดียวกัน ซึ่งดีกว่าคนที่ไม่สามารถเข้าคฤหาสน์ตระกูลธวัชพลังกรอย่างฉันด้วยซ้ำ เธอลองคิดถึงเด็กคนนั้นสิ เธอไม่อยากพาเขาหนีออกไปเหรอ?”
มีนาพูดไม่ออกครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “แล้วฉันจะพยายามหาวิธีเอง ถ้าการแต่งงานของเธอกับธารณ์สำเร็จ อย่าลืมสิ่งที่สัญญากับฉันล่ะ”
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะแอบคืนเด็กให้เธอ แล้วช่วยเธอจัดหาเส้นทางการหลบหนี และไม่ให้ใครรู้อีกด้วย” ครีมให้คำมั่นสัญญาไว้
มีนารู้ว่าคำพูดของเธอไม่สามารถเชื่อได้ ทว่าถ้าตอนนี้ไม่ยอมแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับเธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
ปริญให้เธอแต่งเข้าตระกูลธวัชพลังกร ก็เพื่อต้องการให้เธอเป็นเครื่องมือในตระกูลธวัชพลังกร ดังนั้นปริญจะไม่ปล่อยเธอกับลูกไปอย่างง่ายๆแน่ ยิ่งไม่สามารถให้มาร์ชรู้เรื่องที่เธอจะหนีไป
“โอเค เธอรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรก็พอ ไม่เช่นนั้นพวกเราทั้งสองจะไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งนั้น” มีนาพูดจารุนแรง แล้ววางสายของครีมไป
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลธวัชพลังกร พอเธอผ่านบ้านหลังใหญ่ เธอก็หยุดและมองเข้าไปข้างใน
ในยามค่ำคืน บ้านหลังใหญ่เปิดแสงจนสว่างไสว ซึ่งนั่นหมายความว่า วรรณและธารณ์ล้วนอยู่ในนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถเข้าไปได้
เธอกำลังคิดหาวิธีได้เส้นผมของธารณ์ เธอก็ค่อยๆเดินกลับไปที่บ้านพักของนายท่าน ทันใดนั้นเธอก็ชนเข้ากับกำแพง จนเธอเงยหน้าขึ้นแล้วถอยหลังออกไปสองสามเก้า และพบว่านั่นไม่ใช่กำแพง แต่เป็นมาร์ชขวางทางอยู่
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้ชนคนได้” มาร์ชถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
มีนาสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า: “ฉันขอโทษ ฉันไม่เห็นนายยืนอยู่ที่นี่ และนายไม่ได้อยู่ในอาคารเล็กๆของคุณย่า คือกำลังรอฉันอยู่ในสวนเหรอ? พอถึงตอนกลางคืนแล้ว แสงไฟในสวนมืดเกินไปนะ……”
“ใครรอเธอ ฉันแค่ทานอาหารอิ่มจนเกินไป เลยออกมาเดินเล่นแค่นั้น และไม่คิดว่าจะเจอเธอที่คนซุ่มซ่ามได้
“โอ๋” มีนามองไปรอบๆสวน แล้วสงสัยว่ามาร์ชมีนิสัยชอบเดินเล่นหลังอาหารเย็นด้วยเหรอ เขาไม่ใช่ว่าไม่สนใจสวนดอกไม้นี้เหรอ เพราะเธอเห็นเขาเดินผ่านไปมาสวนดอกไม้หลายรอบก็ไม่เคยเหลียวแลมันเลย
และเมื่อเห็นเขาแบบนี้แล้ว เธอก็คิดว่าในสวนดอกไม้นี้มีผีจนทำให้เขากลัวซะอีก
มีนายิ้มและพูดว่า: “ถ้างั้นนายก็เดินต่อไปนะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากจะกลับห้องไปพักผ่อนน่ะ”
มาร์ชจับมือเธอโดยไม่รู้ตัว: “ฉันก็เดินเหนื่อยแล้ว เรากลับกันเถอะ และเธอกินข้าวเย็นหรือยัง ป้าเค้กเหลืออาหารไว้ให้เธอด้วย”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด มีนาก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ จนมีเสียงท้องร้อง แล้วเธอก็เอามือปิดท้องด้วยความเขินอายแล้วพูดว่า: "
“ยังไม่ได้กินข้าวเลย”
“งั้นเธอไปทานข้าวที่ที่ห้องครัวก่อน ส่วนฉันจะกลับห้องก่อน” มาร์ชพาเธอเข้าไปในอาคารเล็กๆด้วยกัน
แล้วจู่ๆมีนาก็คิดวิธีหนึ่งออก พรุ่งนี้ลองแกล้งทำเป็นท้องเสีย แล้วพักผ่อนอยู่ในห้องไม่ไปที่บริษัทกับมาร์ช และรอจนกว่าในคฤหาสน์ไม่มีคน แล้วแอบเข้าไปในห้องของธารณ์เพื่อหาเส้นผม
“ทำไมถึงมีความสุขขึ้นมา?” มาร์ชเห็นคิ้วของเธอคลายลง
“ไม่คิดเลยว่าป้าเค้กจะเหลือข้าวให้ฉัน และฉันก็กำลังหิ้วอยู่พอดี เลยมีความสุขที่มีกินข้าวน่ะ” มีนายิ้มให้เขาเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...