พระอาทิตย์ส่องแสงจ้าและท้องฟ้าปลอดโปร่ง
ตระกูลเย้นไม่ได้อยู่ที่ประเทศจีน ที่นี่ไม่เฉลิมฉลองวันตรุษจีน แต่ว่าตระกูลเย้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนจีน ตั้งแต่เมื่อก่อนก็รักษาประเพณีการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนมาโดยตลอด
ปีนี้ก็เหมือนกัน
จากในบ้านสู่นอกบ้าน ล้วนมีบทกลอนคู่แปะติดหน้าประตู และก็แขวนห้อยโคมสีแดง สีแดงแห่งความโชคดีคึกคักครึกครื้น
เด็กๆ ของแต่ละบ้านต่างสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ถือประทัดวิ่งไปรอบๆ เสียงดังเปรี้ยงปร้าง
กงจืออวีสองสามีภรรยา เย้นโม่หลิน กู้จื่อเฟย และป่ายฉีต่างยืนอยู่ในลานจอดเครื่องบิน มองเฮลิคอปเตอร์สองลำบนท้องฟ้าที่ใกล้เข้ามาทุกทีด้วยความตื่นเต้นและรอคอย
เสียงใบพัดดังครืนๆ ราวกับเสียงฟ้าร้องก็ไม่ปาน
เฮลิคอปเตอร์จอดลงอย่างช้าๆ
ประตูโดยสารถูกเปิดออก ร่างสีแดงตัวน้อยๆ ก็กระโดดออกมา อ้าแขนแล้ววิ่งเข้ามาหา
"คุณยาย คุณยาย แรบบิทคิดถึงคุณยายจังเลย อุ้มๆ ~"
"จ๋า แรบบิทเด็กดี มา ให้ยายอุ้ม"
กงจืออวีก้าวไปด้านหน้าอย่างมีความสุข รับร่างน้อยๆ ไว้ แล้วอุ้มขึ้นมาหมุนรอบๆ
ทั้งยายหลายกอดหอมกันเกลียว
เย้นเจิ้นจื๋อเห็นดังนั้น จี๊ดด้วยความน้อยใจ "แรบบิทน้อย หนูกอดแต่คุณยาย ไม่คิดถึงคุณตาเหรอ"
"คิดถึงค่ะ แรทบิทคิดถึงคุณตามาก คุณตาจุ๊บๆ ~"
แรบบิทยื่นหน้ามาจูจุ๊บที่ใบหน้าของเย้นเจิ้นจื๋อไปหนึ่งที ทำให้ชายชราหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขทันที ดีใจสุดๆ
"เจ้าหนูน้อยแสนฉลาดคนนี้ ดูสิออดอ้อนคุณพ่อกับคุณแม่ใหญ่เลย ได้อั่งเปาซองใหญ่มาจนได้"
เย้นหว่านที่เดินตามอยู่ด้านหลังหัวเราะจนสำลัก
โห้หลีเฉินโอบอยู่ที่ไหล่ของเย้นหว่าน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักเอ็นดูและตามใจ "เงินทองไม่สามารถซื้อความสุขคุณพ่อคุณแม่ได้"
ดูคำพูดที่หวานหยดย้อยสิ
เย้นหว่านถลึงตาใส่เขา "คุณพ่อคนนี้นิ ถ้าหากคุณตามใจแรบบิทอย่างไม่มีขอบเขตจนเสียนิสัย ฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!"
ขณะที่พูด เย้นหว่านยังทำท่าทางดุร้าย กำหมัดแน่นราวกับจะต่อยคนอย่างไรอย่างนั้น
โห้หลีเฉินก็ให้ความร่วมมือด้วยการเขย่าตัวสั่น "เมียจ๋า แผลของผมยังไม่หายดีเลย อย่าตีนะ สู้ไม่ไหวหรอก ทนไม่ได้ด้วย แน่นอนว่าไม่หาเรื่องให้โดนตีหรอก วางใจได้ ตามใจแรบบิทผมย่อมมีขอบเขตอยู่แล้ว"
โห้หลีเฉินพึมพำในใจ ขอบเขตของผมคือการห้ามไม่ให้ใครมาทำร้ายแรบบิท ห้ามให้หนุ่มน้อยทั้งหลายชายตามองแรบบิท
อืม!
ขณะพูด เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินก็เดินมาถึงด้านหน้าของเย้นเจิ้นจื๋อ
"พ่อ แม่ สวัสดีปีใหม่ค่ะ/ครับ"
พวกเขาเอ่ยพูดพร้อมกัน
"ดีๆ สวัสดีปีใหม่ลูกๆ ด้วยนะ" กงจืออวีเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จึงมีความสุขและดีใจมากกว่าสิ่งใด เพียงแต่ เธอมองรอบๆ พวกเขาด้วยความงุนงง "หยูเซิงล่ะ เขาไม่ได้มาพร้อมกับพวกเธอด้วยเหรอ"
เย้นหว่านยิ้ม แล้วหันไปมองด้านหลัง
เห็นเด็กชายตัวเล็กๆ อายุเพียงห้าขวบ สวมชุดสูทสุภาพบุรุษ แก้มที่ชมพูยิ่งทำให้ดูดี แม้ยังเป็นเพียงเด็ก แต่ก็เห็นถึงความหล่อรางๆ
แต่แล้ว สิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ของเขาก็คือ ในมือของเขาอุ้มกล่องที่ดูเหมือนจะหนักกว่าตัวเขาเสียอีก และเดินมาทีละก้าวๆ อย่างทุลักทุเลราวกับจะล้มลงไปในกองหญ้า
เมื่อเห็นดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของกงจืออวีก็เปลี่ยนเป็นความโกรธทันที
กล่าวตำหนิอย่างไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...