“ไม่มีทาง ใครมันจะเป็นเพื่อนกับเมียได้วะ...มินแม่งงี่เง่าว่ะ”
ฉันได้แต่อ้าปากค้างด้วยความอึ้งในคำพูดของเขา ใครก็ได้ช่วยยืนยันกับฉันทีว่านี่คือออสตินตัวจริง แล้วไหนจะหน้าตาที่เริ่มแสดงออกชัดเจนว่ากำลังงอนนี่อีก
หน้าเขาตอนนี้เหมือนเด็กที่โดนขัดใจไม่ให้ซื้อขนมไม่ผิด จะว่าน่ารักก็คงไม่ใช่สำหรับฉันหรอกนะ มันไม่น่ารักเลยสักนิดที่ผู้ชายตัวโตกล้ามเป็นมัด ๆ มีหน้าตาหล่อมากตามสไตล์แบดบอยจะมานั่งทำหน้างอนตุ๊บป่องแบบนี้ น่าถีบให้ตกเตียงมากกว่า
“นายจะไม่เคารพการตัดสินใจของฉันหน่อยเหรอ” ฉันถามเขาออกไปอีกครั้ง ฉันว่าที่ฉันเสนอไปก็ถือว่าแฟร์มากแล้วนะ
“แล้วเธอจะไม่เคารพการตัดสินใจของฉันหน่อยเหรอ?”
“ฮะ?” ฉันอึ้งเลยค่ะ กล้าพูดออกมาได้ยังไง
“หึ! ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไปอาบน้ำได้แล้วไปเหม็นเหล้าว่ะ” ออสตินหันหน้าหนีฉันแล้วก็ลุกจากเตียงไปดื้อ ๆ เออให้มันแบบนี้สิ อย่าให้ฉันออกไปจากที่นี่ได้นะแล้วฉันไม่มีทางจะกลับมานั่งคุยกับเขาแบบนี้อีกแน่ไอ้คนเอาแต่ใจ!
“โทรศัพท์ฉันล่ะ” ฉันเดินตามออกมา ฉันติดโทรศัพท์ค่ะ ตื่นมายังไม่ได้เช็คข้อความเช็คโซเชียลเลย
“แบตหมด” ออสตินตอบฉันแบบไม่มองหน้าแล้วก็ตรงดิ่งไปที่ห้องครัวฉันเลยต้องเดินตามเขาไป เฮ้อ! ถึงแบตหมดก็ต้องเอามาให้ไหมวะ
“งั้นเอาที่ชาร์จนายมายืมหน่อย”
“ไปอาบน้ำก่อน เหม็น” ออสตินหันมาบอกแล้วทำหน้ายี้ใส่ทำเอาฉันชะงัก น้ำไม่อาบหน้าไม่ได้ล้างตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเมื่อกี้ก็นอนคุยกับเขาใกล้ ๆ อีก ที่สำคัญไม่ได้แปรงฟันด้วย พอนึกได้ฉันก็โคตรจะอายเลย
“เอ่อ...ฉันไม่มีผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันด้วย” ฉันตอบเขาเสียงเบา ความอายผุดขึ้นมาในสมองเหมือนดอกเห็ด
“อยู่ในห้องน้ำ เตรียมให้แล้ว” ออสตินตอบฉันเลยพยักหน้ารับแล้วหันหลังจะเดินไปห้องน้ำทันที
“เตรียมไว้ให้เธอคนเดียวนะคนอื่นไม่เคยมา มีแค่เธอคนเดียวอย่าเข้าใจผิดล่ะ” ออสตินพูดไล่หลังมาเบา ๆ แต่ฉันได้ยินชัดเจนทุกคำ พอฉันหันไปมองก็เห็นเขามองที่ฉันอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ
...เขิน -///- ถึงจะไม่อยากใจอ่อนแต่สารภาพตามตรงว่าตอนนี้เขินมากมายเลยล่ะ
พอฉันเข้ามาในห้องน้ำก็เจอแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นแปรงสีชมพูที่เหมือนกับแปรงอีกอันหนึ่งที่เป็นสีฟ้า แล้วก็มีโฟมล้างหน้า คลีนซิ่ง ครีมบำรุง โลชั่นทาผิว แชมพู คอนดิชันเนอร์ แล้วก็ครีมอาบน้ำ ทุกอย่างที่เห็นเป็นยี่ห้อที่ฉันใช้ประจำสมัยเรียน อย่าบอกนะว่าเขาจำได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่ได้ใช้ยี่ห้อพวกนี้แล้วแต่ก็ใจสั่นด้วยความดีใจที่เขาจำได้ อ้อ มีเสื้อผ้าชุดเมื่อคืนของฉันที่ซักเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย
-ครึ่งชั่วโมงต่อมา-
“กว่าจะเสร็จ ทำไมผู้หญิงอาบน้ำนานจังวะ” พอฉันออกมาด้านนอกห้องนอนก็เจอออสตินนั่งหน้ามุ่ยพร้อมกับบ่นทักทายฉัน
“ยุ่ง! เปิดประตูให้ด้วยจะกลับแล้ว”
“ไม่เอาเดี๋ยวค่อยกลับ มากินข้าวกันก่อน” ออสตินส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเดินมาจับมือฉันไว้ไม่ทันให้ฉันได้ตั้งตัวทำเอาใจฉันสั่นเพราะโดนสัมผัสจากเขา เคยเป็นไหมคะแค่โดนแตะนิดเดียวจากคนที่เรารู้สึกดีเราก็จะรู้สึกวูบ ๆ ในใจเหมือนโดนไฟช็อต
“ไม่กิน อย่ามาเยอะออสติน ฉันอยากกลับแล้ว” ฉันบิดข้อมือออกจากการจับของเขา ไม่อยากอยู่นานมันทรมานหัวใจ แค่นี้ก็เหมือนกำแพงจะพังทลายไปเกินครึ่งแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จเขายังจับเอาไว้ไม่ปล่อย
“สัญญาว่ากินข้าวเสร็จจะไปส่ง กินข้าวก่อนนะฉันทำอาหารของโปรดเธอทั้งนั้นเลย...นะครับ” ฉันอยากตะโกนบอกเขาไปในตอนนี้ว่าอย่าพูดเพราะ อย่ายิ้มอบอุ่นแบบนี้ให้ฉัน ขอร้องเถอะ ฉันไม่ชิน ไม่ดีต่อใจด้วย มันอันตรายกับใจฉันมากเกินไป
“...อืม” เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดของรอยยิ้มและแววตาของเขาฉันเลยตกลงแล้วเดินตามเขาที่จูงมือฉันให้ไปนั่งกินข้าว ขอแค่วันนี้วันเดียวแล้วกันนะแล้วพรุ่งนี้จะใจแข็ง
หลังจากนั้นเราก็นั่งกินข้าวด้วยอาหารที่เป็นฝีมือของออสติน เขาทำอาหารง่าย ๆ 3 เมนู แต่เป็นเมนูโปรดของฉันทั้งนั้นไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจหรอกนะ แต่น่าจะบังเอิญแหละ และฉันก็กินไปจนหมดด้วยความหิวเพราะฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าแถมตอนนี้ก็จะ 4 โมงเย็นแล้วด้วย กินข้าวท่ามกลางรอยยิ้มดีใจของออสตินที่ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะ” ฉันขอบคุณเขาหลังจากที่ช่วยกันล้างจานจนเสร็จ
“ครับ” ออสตินพูดแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนที่โซฟา ไม่ได้สนใจฉันที่ยืนถือกระเป๋ารอออกจากห้อง นี่จะมาเล่นลูกไม้ลีลาอะไรอีกเนี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก