“อย่าเพิ่งกลับนะ รอเปิดประตูให้เราก่อนกำลังไป...กลัวเมียไม่เปิดประตูให้”
พอออสตินพูดจบอีแมนนี่ก็เงยหน้าขึ้นมามองฉันตาโต ส่วนฉันก็ได้แต่นิ่งอึ้งไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าเพื่อน แล้วก็ทำปากพูดกับมันโดยที่ไม่ออกเสียงว่า วางสายได้แล้ว แต่มันกลับยิ้มเจ้าเล่ห์
“หืม~ ไม่ได้สิติน เนี่ยแมนนี่ต้องรีบไปต่อแถวซื้อเป้ Supreme x Louis Vuitton ที่พารากอนแล้วน่ะค่ะ เสียดายจังถ้าไม่ไปวันนี้ก็คงไม่ได้แน่” อีแมนจีบปากจีบคอพูดแล้วก็ทำท่าสะดีดสะดิ้งเหมือนมีผู้ชายหล่อ ๆ มานั่งอยู่ตรงหน้า
ที่ตลกไปมากกว่านั้นคือตินนี้ 2 ทุ่มจะ 3 ทุ่มแล้วกว่ามันจะไปถึงพารากอนคงปิดก่อนพอดี มันพูดจาเลอะเทอะบ้าบออะไร
“พรุ่งนี้มันจะไปวางอยู่หน้าห้องแมนนี่เลยจ้ะ” ออสตินพูดออกมาด้วยเสียงสดใส ส่วนอีแมนพอได้ฟังก็ดีดนิ้วเหมือนกับว่าทุกอย่างลงล็อคที่มันต้องการพอดีทำให้ฉันเข้าใจถึงบางอ้อว่าอีกระเทยมันกำลังใช้โอกาสนี้ในการรีดไถออสติน
“โอเคค่ะ! แมนนี่จะยืนรอหน้าประตูเลยนะคะตินตินสุดหล่อ เดินทางปลอดภัยค่า” อีแมนนี่ตอบกลับออสตินเสียงดังชัดเจนด้วยความดีใจก่อนจะกดวางสาย
“มึงทำบ้าอะไรอีแมน” ฉันหันไปแว๊ดเสียงใส่มันทันทีที่มันวางสาย
“คุยกับผัวมึงไงคะ แล้วกูชื่อแมนนี่ค่ะ แมนเมินอะไรของมึงชะนีเดี๋ยวตบปาก”
“ตลก!”
“เออน่า ต่อให้กูไม่เปิดคนอย่างอีตินมันก็หาทางเข้ามาในห้องนี้จนได้แหละค่ะ หรือไม่จริง” อีแมนนี่ตอบแล้วก็โปรยยิ้มหวานให้ฉัน
“มึงไม่ต้องมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มึงเอาความสงบของกูไปแลกกับกระเป๋า เลวมากกระเทย”
“โอ๊ย! ให้เพื่อนได้สักนิดเถอะค่ะ กูไม่มีผัวเปย์กูก็ต้องคอยรีดไถจากผัวเพื่อน ฮ่า ๆๆ” พออีแมนพูดจบฉันก็เลยนั่งบ่นมันชุดใหญ่พร้อมกับบอกมันเสียงเด็ดขาดว่าฉันไม่มีทางยอมให้มันเปิดประตูให้ออสตินเข้ามาแน่นอน
“มึงกลับไปได้แล้วอีแมนนี่” ฉันเอ่ยปากไล่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่อีแมนนี่กลับไม่ยอมไป
“ทำไมมินตราต้องไล่เจ้ด้วยล่ะคะ” อีแมนแกล้งทำเสียงน่าสงสาร ตบมันตอนนี้ได้ไหมนะ หมั่นไส้มาก
“อย่ามาดราม่า ไปเลยรีบไปไม่ต้องมานั่งรอทำอะไรเลย” ฉันบอกมันแล้วเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวสิมึง” อีแมนนี่ทำท่าทางอิดออดไม่ยอมลุกจากโซฟา
“ถ้ามึงไม่รีบกลับกูจะโกรธ กูกับออสตินมึงแคร์ใครอีแมนนี่” ฉันยื่นคำขาดให้มันจนมันต้องยอมหยิบกระเป๋าแล้วก็เยื้องกายเดินมาที่ประตูช้า ๆ มันมาถึงหน้าประตูด้วยสีหน้างอนแต่ฉันไม่สนใจนอกจากจัดการเปิดประตูให้มันซะ
แอด~
“...”
ปัง!
ฉันเปิดประตูได้ไม่ถึง 3 วินาทีก็ต้องรีบปิดประตูทันทีเพราะภาพที่เห็นด้านนอกคืออีตานั่นกำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องฉัน เขาเองก็ดูเหมือนจะตกใจที่ฉันเปิดประตูออกไป บ้าจริง! เขารู้ได้ไงว่าฉันอยู่ห้องไหน
“โอ๊ะ! แมนนี่ต้องไปแล้วนะคะลูกสาว เปิดสิคะ อยากกลับไปนอน” พออีแมนเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วก็เดินมาจะเปิดประตู
“ไม่! มึงไม่ต้องกลับแล้ว นอนนี่แหละ” ฉันห้ามมันไม่ให้เปิดประตูแต่อีแมนนี่ก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วก็สะดีดสะดิ้งใส่ฉันแตกต่างจากใบหน้างอนเมื่อกี้ลิบลับ
“โนว~ ค่ะ เจ้จะกลับแล้วค่ะ เมื่อกี้มึงไล่กูเอง ปล่อย!” อีแมนยื้อแย่งลูกบิดประตูกับฉันได้พักเดียวลูกบิดประตูก็อยู่ในกุมมือของมันแล้วมันก็รีบเปิดออกทันทีพร้อมกับเอาตัวกั้นประตูไม่ให้ฉันปิดได้อย่างรู้ทัน
“ฮาย~ ตินติน หล่อจังเลยค่ะวันนี้ หล่อวัวตายความล้มสมกับเป็นผัวมินตรา เชิญค่ะเชิญ แมนนี่กำลังจะกลับพอดี” อีแมนนี่ทำเสียงดัดจริตเช่นเคยแล้วก็เอ่ยทักออสตินด้วยความสดใสร่าเริงสุดแสนจะเกินจริง
“ขอบคุณนะแมนนี่ พรุ่งนี้เดี๋ยวส่งของให้” ออสตินรีบผลุบเข้ามาให้ห้องเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีแมนนี่รีบออกไปจากห้องเหมือนกำลังเล่นยื่นหมูยื่นแมวยังไงยังงั้นโดยที่ทั้งสองคนทำเหมือนเจ้าของห้องอย่างฉันไม่มีตัวตน! จากนั้นออสตินก็รีบปิดประตูล็อคห้อง
“นี่! ออกไปเลยนะใครอนุญาตให้เข้ามา” ฉันบอกออสตินทันทีที่ไอ้บ้านี่หันมายิ้มทักทาย
“คิดถึงจัง กินข้าวรึยังครับ” ออสตินเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉันแล้วก็เอามือมือขยี้ผมฉันเบา ๆ ไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเลย น่าโมโหชะมัด!
เพี้ยะ!
ฉันตีแขนที่กล้าเอื้อมมาเล่นหัวทำให้ออสตินหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความชอบใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก