ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 30

“กรี๊ดดดด” ………………………!!!!! เสียงร้องของฉือฮั่วดังขึ้น จนสาวใช้พากันวิ่ง "ตึงๆ" สอบถามคุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่ามีเรื่องอะไร ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุนะหรือ ยืมซอยเท้าเอามือปิดปาก ใบหน้าเจือไปด้วยรอยยิ้ม

 

“สำเร็จแล้วได้ผล น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็นของข้าสำเร็จ”  เท้าของนางกระโดดซอยไป นิ้วชี้ยื่นไปทางโอ่งที่ทำเมื่อวาน รูปภาพเงินก้อนลอยอยู่ในตาเป็นภาพให้ได้ชื่นมื่นเสียจริง

 

“มา มา เลยมาพวกพี่ไปหยิบกระชอนที่ข้าสั่งให้บ่าวชายทำไว้พี่เสี่ยวชุ่ยหยิบผ้ามากรองเร็วที่ข้าเตรียมไว้ในห้อง พี่มี่ฮวา เอาอะไรมาใส่น้ำมันมะพร้าวข้านะ อืมเอามาสักสามสีใบ ข้าจะได้รีบกรอง ของที่ร้านเครื่องเคลือบวันนี้มีมาส่งไหมเจ้าค่ะ พี่เสี่ยวชุ่ย”

 

“มีมาคะ อยู่ตรงนู้นค่ะคุณหนูบ่าวตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีชำรุดเลยและครบตามจำนวนที่เถ้าแก่เขียนแจ้งไว้”

 

“ดีเจ้าค่ะ ข้าขอไปดูสักหน่อย จะได้นำน้ำมันมะพร้าวส่งไปเรื่อนสาวๆของจวนกันเอาไว้ใช้ทาร่างกายนะ ใช้นิดเดียวพอ เวลาอาบน้ำเสร็จทาได้เลย อากาศเริ่มเย็นแล้วตัวนี้จะช่วยได้เยอะผิวเราจะไม่แห้งแตก” 

 

                เดินก้าวเท้าตรงที่วางเครื่องเคลือบต่างๆ มีหลายขนาด ขนาดที่ตรงกับใส่ชาด คืนนี้ได้ทดลองแล้ว สนุกจริงๆเลย อีกชิ้นเป็นขวดขนาดเล็กคำนวนขนาดตามชาติที่แล้วหกสิบมิลิลิตร สามารถใส่น้ำมันหอมกลิ่นต่างๆ กุหลาบ มะลิ ดอกท้อ กล้วยไม้ เบจมาศ บานชื่น ตอนนี้น้ำมันกลิ่นที่นางสกัดอยู่ ส่วนสีที่จะทำชาดทำไว้เยอะพอควรแต่ทำไว้เรื่อยๆ และการผลิตทุกอย่าง มีแค่สี่คนทำเป็นพอ ให้พวกบ่าวพวกนั้นเป็นฝ่ายเตรียมวัตถุดิบ ค่อยๆทำเก็บผสมไปเรื่อยๆเมื่อวัตถุดิบครบแล้วถึงเวลาปรุงชาดแล้วคืนนี้  ส่วนชวดรูปทรงสูง ขนาด350มิลิลิตร ตามที่นางคาดไว้ เอาไว้ใส่ยาสระผม และครีมนวดผม 

 

                นางเรียกสาวใช้ ล้างเครื่องเคลือบเหล้านี้ บอกพวกนางค่อยๆล้างเพราะมันแตกง่ายมากหากกระทบกันแรง ส่วนนางกรองน้ำมันมะพร้าว นางตักชั้นแรกออก น้ำมันมันมะพร้าวใสๆค่อยๆหยดลงผ่านผ้าสะอาดสำหรับกรอง นางยืนมองภาพตรงหน้าช่างภูมิใจตนเองจริงๆ ค่อยบอกพี่ว่าระวังอย่าให้ถูกชั้นน้ำเปรี้ยว จากนั้นนางหันไปแจ้งบ่าวชายคนหนึ่งให้ไปร้านเถ้าแก่ไม้ประดับบอกที่อยู่ ส่งจดหมายโดย เนื้อในจดหมายนางต้องการ เยียจึ [มะพร้าว] เช่นเดิม นำไปส่งที่โรงงานและนางเขียนที่อยู่ไว้ ค่าใช้จ่ายส่งมาเก็บที่จวนคุณหนูหกจวนโหว 

 

 “เอาไปให้เถ้าแก่ ส่งเสร็จรีบกลับมา ข้ามีอย่างอื่นให้เจ้าทำอีก”

 

“ขอรับ”  นางส่งเงินสิบอีแปะเป็นค่าจ้าง มันไม่ใช่งานยากที่จริงนางไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้แต่หากจะหาคนให้เป็นพวกของตัวเองมันต้องทำเช่นนี้ เงินซื้อใจคนไม่ว่าสมัยไหนยุคไหนก็ตามใช้ได้หมด

 

               ต่อไปคิดอยากจะทำน้ำยาสระผม และ ครีมนวดผม นางคิดว่าจะทำที่นี่หรือที่โรงงานดี มองรอบๆตัวสุดท้ายตัดสินใจเอาของขนไปไว้โรงงานดีกว่าทำทุกอย่างที่โรงงานนางสบายใจกว่า และต้องหาคนคุ้มกันด้วยดีกว่าเกิดเรื่องขึ้น นางไม่อาจวางใจได้ พรุ่งนี้ต้องไปร้านค้าทาส เมื่อวางเป้าหมายที่จะทำในวันพรุ่งนี้นางเพียงจดจำไว้ในใจ

 

               นางเข้าไปในครัว หาของให้ที่ตนเองต้องการ และแล้วครบ นางจะเริ่มทำชาดใช้เองก่อนแล้วกัน ขี้ผึ้งที่นางทำไว้ นำออกมาด้วย ใช้ถ้วยชา ทดลอง เอาเตาสำหรับต้มน้ำร้อนชงชา มาวางไว้จากนั้น นังทำอยู่คนเดียว

          

               น้ำของดอกไม้ที่พี่เสี่ยวชุ่ยทำไว้เมื่อวานมีหลายสีมาก สามารถลองทำสีทาริมฝีปากง่ายๆเหมาะกับวัยของนาง  นางนำน้ำมันมะพร้าวผสมสีของดอกไม้ มีสีแดงได้จาก เหมยกุ้ย เจี๋ย [ดอกกระเจี๊ยบ] คนให้สีออกแดง ได้สีที่ตนเองต้องการนางใสขึ้นผึ้งลงไปนิดนึง จากนั้นวางบนเตาต้มน้ำร้อน ใช้ไฟไม่แรง คนส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อขี้ผึ้งละลาย นางยกลง ใส่พิมพ์โถสำหรับใส่ชาด รอให้เย็นนางล้างทำสีอื่นๆต่อไป สีที่ทำได้มีแดงสด แดงกุหลาบชมพู และมีสีส้ม และไม่มีสี รอให้เย็น นางเดินไปหาท่านแม่ ตอนนี้เข้าต้นยามห้าย แล้ว นางเดินออกไปดูด้านนอก ทุกคนทำงานเก็บของเป็นที่เรียบร้อย ช่างดีเสียจริง

 

              “ก๊อก~ก๊อก” นางเคาะประตูเบาๆเสียงภายในห้องดังขึ้นถามว่าใคร “ข้าเองเจ้าค่ะฉือฮั่ว”

 

“ลูกหกหรือ” เสียงของป๋ายอี๋เหนียงดังขึ้นถามผู้อยู่นอกห้อง

 

“เจ้าค่ะ  ท่านแม่ข้าเอง”

 

“เข้ามาสิ ไปทำอะไรมาวันนี้มาหาแม่ดึงเชียว”

 

“ข้ากลับจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าจากนั้นเข้าทดลองทำชาดในห้อง”

 

“จริงหรือ แม่อยากเห็นชาดของเสียแล้วสิว่าสีออกมาจะสวยเพียงใด”

 

“พรุ่งนี้เจ้าค่ะ ตอนนี้ยังร้อนอยู่ ชาดข้าสามารถบำรุงริมฝีปากได้ด้วยนะเจ้าค่ะ”

 

“จริงรึ ดีจริงเชียว” 

 

“เจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะนำมาให้ท่านแม่เลือกสีก่อนเพื่อนเลย   ท่านแม่ข้าขอกลับก่อนนะเจ้าค่ะ ท่านแม่มิได้คิดมากใช่ไหมเจ้าค่ะที่ช้าไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับท่านนานๆเลย ข้าคิดถึงท่าน” นางเองยังโหยหาความรักจากผู้เป็นมารดา ชาติที่แล้วของนางไม่มีทั้งพ่อและแม่ เติมโตมาโดยมีผู้ใจบุญส่งเสีย ตอนนี้นางมีมารดา นางจะถนอมคนรักของนางไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าต้องเกิดความทุกข์ใจ

 

             เมื่อนางขอตัวมารดากลับโดยที่ท่านแม่ของนางรวบนางไปกอด และอ้อมกอดนั้นมันช่างอบอุ่นมาก นางเข้าห้องโดยที่พี่กลันฮวาเตรียมน้ำร้อนให้เรียบร้อยรอเพียงนางเข้ามาอาบน้ำ วันนี้นางใช้สบู่กลิ่นใหม่ของตนเอง เป็นกลิ่นโม่ลี่ฮวา [กลิ่นมะลิ]

 

              อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยนางยังไม่นอน แต่เวลาไม่มากเท่าไหร่นางคัดอักษรโดยที่พี่หลันฮวาอยู่ช่วยฝนหมึกข้างกาย วันนี้ฝึกคัดใช้เขียนด้วยพู่กันตัวอักษรเล็ก พรุ่งนี้ช่างทำพู่กันไว้ใช้สำหรับทาชาดที่นางสั่งทำมาส่ง เพื่อนเป็นการหางานให้ชาวบ้านเอาเหงื่อแลกเงิน นางมีความคิดช่วยเหลือเสมอ แต่หากคนใดมาเพื่อต้องการฝ่ายเดียวและเอาไปโดยที่ไม่ทำอะไรเลย นางเองมีวิธีโต้กลับเช่นกัน 

 

“พรุ่งนี้ท่านลุงที่รับทำพู่กันนั้นจะส่งของตามสั่งใช่หรือไม่เจ้าค่ะ หากว่าข้าจำไม่ผิด”

 

“เจ้าค่ะคุณหนู”

 

“ท่านจำบ้านลุงท่านนั้นได้หรือไม่ หากได้พรุ่งนี้ไปที่นั้นตอนเช้า แจ้งให้ส่งของไปที่โรงงานทั้งหมด บอกที่อยู่ให้เรียบร้อยด้วย ข้าหวังพึ่งท่านแล้วพี่หลันฮวา”

 

“คุณหนูอย่าได้คิดเยี่ยงนั้นนะเจ้าค่ะ ข้าเป็นบ่าวสมควรรับใช้คุณหนูให้ถึงที่สุด”

 

“ไม่ว่าท่านจะคิดเช่นไร ในสายตาข้าท่านคือเพื่อนที่ข้าสนิทและไว้ใจที่สุด”

 

              และทั้งสองคนเงียบไปต่างฝ่ายต่างอยู่ในความคิดของตนเองสำหรับฉือฮั่วเองนางเพียงคิดว่าพรุ่งนี้ต้องเริ่มไปที่ใดบ้าง และทำอะไรต่อไป ใช้เวลาแต่ล่ะที่นานแค่ไหน  สำหรับสาวใช้สนิทอย่างหลันฮวา นางไม่คิดมาก่อนว่าชีวิตนี้ที่นางถูกขายแล้วเจอกับเจ้านายที่ดีเช่นนี้ และนางสาบานไว้ว่าชั่วชีวิตนี้นางจะแปลเปลี่ยนและซื่อสัตย์ต่อคุณหนูของนางตลอดจนลมหายใจสุดท้ายของนาง คิดแต่เพียงผู้เดียวเพียงลำพังโดยที่คนที่นึกถึงหาได้ล่วงรู้ความคิดไม่

 

               เรียบเรียงความคิดของวันพรุ่งนี้ ตารางงานของพรุ่งนี้นางต้องทำอะไรบ้างที่ไหนยังไง เพื่อสะดวกและนางคิดว่าจะมอบหน้าที่เลขาให้กับพี่หลันฮวาเป็นคนทำ แค่คิดว่ามอบหน้าที่เพิ่ม มิรู้ว่าเจ้าตัวจะยอมไหมนะ แต่หากโรงงานเป็นรูปเป็นร่างเมื่อไหร่พี่หลันฮวาของนางสบายขึ้นเยอะ คิดอยู่ลำพังจนรู้สึกตัวอีกที่คือสาวใช้เตือนว่าดึกมากแล้วนางควรเข้านอนได้แล้ว และเราทั้งสองคนช่วยกันเก็บอุปกรณ์ที่เขียน และฉือฮั่วเข้านอนทันที  และศีรษะถึงหมอนนางหลับทันที

 

 

              เช้ามืดวันนี้ฉือฮั่วตื่นเช้ากว่าทุกวัน คัดตัวอักษรต่อ วันนี้นางเลือกคัดบทกวีใช้เวลาคัดราวๆ สองเค่อ พี่หลันฮวาเข้ามาพอดี นางล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย เดินตรวจดูผลงานของตัวเองที่ทำไว้เมื่อวาน ลองใช้แบบไม่มีสีก่อน นางทำมาหลายตลับ กลิ่นเยียจึ[มะพร้าว] หอมมากทีเดียว ตลับนี้ใช้เรียกสีผึ้งบำรุงริมฝีปาก จะใช้ก่อนนอนเพื่อบำรุงหรืออยากใช้แบบไม่มีสียิ่งดี และหากชาวบ้านซื้อไปใช้มันสามารถใช้ได้ไม่แพงแต่อย่างใด ราคาเอื่อมถึง 

                 

                   นางลองคำนวนแล้วต้นทุนอยู่ที่ค่า มะพร้าว ตลับ และค่าแรง คิดสะระตะแล้วหกสิบตำลึงต่อหนึ่งชิ้น ราคาพอเหมาะ หากชาดทั่วไปราคาแพงกว่านี้เพราะใช้เวลาแต่ละชิ้นใช้เวลามาก แต่ของนางเพียงแค่ตวงวัตถุดิบตามที่นางคิด ทำเพียงครั้งเดียวได้มากทีเดียว หากเป็นในอดีตของนาง คงเหมือนโรงงานเครื่องจักรที่เดียว

 

“พี่หลันฮวา พี่นำตลับชาดพวกนี้ไปเรือนท่านแม่ข้าด้วยเจ้าค่ะ ข้าจะให้ท่านแม่เลือกสีก่อน”

 

“ได้เจ้าค่ะคุณหนู”

 

                    ทั้งสองเดินไปทางเรือนของป๋ายอี๋เหนียง พี่เสี่ยวชุ่ยกำลังตั้งสำรับอาหารขึ้นโต๊ะ ท่านแม่นั่งลูบท้องกลมๆนั้นอยู่ 

 

“ท่านแม่” ฉือฮั่วทำความเคารพแม่ของนาง จากนั้นทำท่าทางให้พี่หลันฮวานำชาดให้ท่านแม่เลือกก่อนทานอาหาร ท่านแม่เลือกสีชมพูอ่อนๆ นางลองหยิบขึ้นมาดมกลิ่นดู

 

“เจ้าหก ชาดของเจ้าแปลกตานักทั้งยังสีสวยมากแต่แม่ขอเลือกสีนี้แล้วกัน อืมงานดีทีเดียวสีนี่ทาแล้วติดดีมาก”

 

“งั้นท่านแม่ลองทาชาดก่อนทานอาหารสิเจ้าค่ะ ว่าทนติดดีอย่างไร เมื่อเวลาข้าขายจะได้บรรยายสรรพคุณตามจริง เพื่อให้ลูกค้าอยากเสียเงินคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว