ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 28

ถามออกไปมองดูลักษณะท่าทางของพวกนางมีคนใช้สายตาดูแล้วไม่น่าไว้ใจ

 

“พวกเจ้าบ้านอยู่ไหนกันบ้าง แล้วรู้จักเรื่องแม่ครัวได้ยังไงหรือท่าป้าบอกข้าได้หรือไม่เจ้าค่ะ”

 

               หญิงนางหนึ่งยกยิ้มมุมปากคิดถึงสิ่งที่ตนเองเก็บไว้อยู่ นางเพียงแค่เดินขายของแต่มีคนผู้หนึ่งเข้ามาบอกให้นางไปสมัครงานเป็นแม่ครัวที่นี่เรือนนั้นรับประกาศอยู่ แล้วส่งถุงเงินที่พอนางรับมาแล้วรู้ได้ทันทีว่าในนั้นมีเงินเยอะแค่ไหน และคนผู้นั้นเอ่ยอีกว่าหากนางได้รับหน้าที่เป็นแม่ครัวของที่นี่ นางจะได้รับเงินอีกถุงหนึ่งจำนวนเท่ากัน มีหรือนางจะไม่มา แค่คำพูดไม่กี่คำจากการถามของเด็กน้อยตรงหน้า ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วเข้าปากเสียอีก 

 

“ตัวข้าเป็นแม่ค้าแถวนี้ ขายของที่ตลาดแห่งนี้อยู่มานานแล้ว ข้าไดยินใครๆบอกว่าที่นี่รับสมัครแม่ครัว ข้าเองขายของไม่ดีถึงได้มาลองสมัครดู”

 

“ข้าชื่อข่งเหมียนอี้ เดิมเป็นอี้โจวแต่พอแต่งเข้าบ้านสามีตามมาอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ ข้าเองอยู่บ้านไม่มีลูกและสามีเองบาดเจ็บทำงานไม่เต็มที่ข้าเป็นเมียต้องหาทางช่วยเหลือสามีเจ้าค่ะ”

 

“ท่าป้าบอกชื่อแซ่ของท่านได้หรือไม่”

 

“โอ้ยทำไมจะไม่ได้เล่า ข้าชื่อม่านสุ่ยเป็นคนหานโจว”

 

“(ฉือฮั่วนางส่งยิ้มให้เบาๆ) ข้าขอแจ้งไว้ก่อนนะ ข้าคิดหาแม่ครัวสองคน เพื่อต้องการช่วยทำอาหารให้คนงานของข้า มีเงินให้ และคุ้มกับงานไม่ยากและไม่เหนื่อยจนเกินไป ข้าต้องการคนที่ซื่อสัตย์สุจริตไม่เที่ยวคดโกงเงินค่าอาหาร ไม่นำเรื่องของพายในเรือนออกไปเล่าสู่คนข้างนอก รวมทั้งสามี อนุญาตเล่าเพียงว่าทำงานอะไร เหนื่อยไหมในส่วยของหน้าที่อื่นๆข้าไม่ให้เข้ามาข้องเกี่ยว และมีสัญญาว่าจ้าง  ค่าจ้างต่อวันสี่สิบอีแปะเจ็ดวันพวกท่านจะได้รับเงินพ้นหนึ่งเดือนรับเป็นรายเดือนไป หากข้อตกลงจากนี้ที่ท่านรับทราบแล้วเริ่มงานพรุ่งนี้ได้ นี่เป็นสัญญาจ้างงาน ท่านอ่านหนังสือออกไหม”

 

               ฉือฮั่วนางจ้องมองตาคนทั้งสองดูท่าทีของพวกนาง ท่านป้าข่งน่ารับพิจารณาแต่ทางท่านป้าม่านสุ่ยนางรู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล ท่าทางนางมั่นอกมั่นใจให้ทำก็ดี ไม่ทำก็ได้ ต้องมีอะไรแน่ๆกับผู้หญิงนางนี้

 

“ข้าอ่านหนังสือไม่ออกเจ้าค่ะ”

 

“ได้ งั้นข้าให้สาวใช้ข้าอ่านให้พวกท่านฟังแล้วกัน”  เพียงนางแค่โบกมือให้สัญญาณพี่หลันฮวา นางก้าวออกมาด้านหน้าอ่านข้อความด้านในช้าๆ ชัดๆ ให้คนทั้งสองฟัง

"ข้าชื่อตรงนี้ใส่ชื่อพวกเจ้าหากเขียนไม่เป็นข้าเขียนให้ บอกที่อยู่ของเรือนตนเองข้าเขียนให้ มีข้อห้ามดังต่อไปนี้ หากข้าทำผิดข้อใดข้อหนึ่งข้ายินดียอมรับความผิดและนายจ้างข้าสามารถดำเนินคดีกับข้าได้ทันที ข้อที่หนึ่ง ข้ายินดีรับค่าอาหารทุกวันจากนายจ้างเป็นเงินหนึ่งร้อยอีแปะ และเงินจำนวนนี้ใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารสองมื้อ หากเงินขาดแจ้งได้ หากเงินเกินทบไว้ และต้องเขียนรายจ่ายทุกอย่างตามจริงหากมีการตรวจสอบและทำผิดคดโกงเงินพวกนี้จะถูกพาขึ้นศาลทันทีและชดเงินคืนทั้งหมดตามความจริง

ข้อสอง ไม่นำความใดๆออกไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง แม้กระทั่งครอบครัวแจ้งแค่ว่าตนมีเพียงหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารไม่รู้ไม่เห็นว่าโรงงานนี้ทำอะไร หากมีความใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้แพล่งพลายออกไปให้คนนอกรู้ ถูกตรวจสอบพบความผิดเป็นข้าที่นำความบอกเล่าแก่ผู้อื่น ข้ายินดีรับโทษและถูกพาขึ้นศาลทันที พร้อมชดเชยค่าเสียหายตามที่เจ้านายเรียก

ข้อที่สาม ข้ามีหน้าที่เป็นแม่ครัวไม่มีหน้าที่ส่วนอื่นส่วนใดและไม่ต้องก้าวก่ายงานของผูใด ด้วยความปราถนาดีก็ตามหรือมีจุดประสงค์เป็นอื่น หากถูกตรวจสอบว่าข้าก้าวก่ายงานที่มิใช่ขอตน ข้ายินดีถูกให้ออกและไม่ได้รับเงินเดือนใดๆของเดือนนั้น

 

                   เมื่อพี่หลันฮวาเอ่ยจบผู้หญิงทั้งสองงงมาก เพราะไม่เคยได้ยินสัญญาว่าจ้างเช่นนี้ออกมา หากคนที่มีจิตใจคิดอยากทำงานย่อมไม่ลังเลที่จะตอบตกลง และเป็นดั่งขาด ป้าข่งนางเอ่ยยินดีและทำตามข้อสัญญาว่าจ้างนี้ และนางบอกชื่อ ที่อยู่ สุดท่าย เมื่อเห็นสาวใช้คุณหนูเขียนชื่อของนางในตอนท้าย และให้นางปั้มนิ้วมือกำกับทั้งหมดมีสองฉบับเขียนและทำเหมือนกัน เมื่อปั้มลายนิ้วมือเรียบร้อยสาวใช้ส่งสัญญาหนึ่งฉบับส่งให้ตนเก็บไว้และอีกฉบับทางสาวใช้เก็บไว้ นางมายืนข้างๆคุณหนูเจ้าของเรือน และรออีกคนที่ที่ชื่อม่านสุ่ยบอกชื่อที่อยู่ตามแบบของนาง แต่รออยู่ครึ่งเค่อไม่มีท่าทีที่ป้าท่านนี้จะขยับ แต่ดูเหมือนว่าคุณหนูเพียงแค่ส่งยิ้มให้และหันมากล่าวกับตนว่า

 

“ท่านป้าข่งรีบไหมหรือยังต้องกลับไปดูแลสามี”

 

“ไม่เจ้าค่ะ”

 

“…” นางไม่ตอบยิ้มกลับมาและพยักหน้า

 

"ท่านป้าท่านนี้ตกลง  ท่านยินดีร่วมงานกับข้าหรือไม่ หากไม่ท่านอย่าอยู่เสียเวลาที่นี่เลยข้ามีอย่างอื่นที่ต้องทำมากมายไม่มีเวลารอท่านตัดสินใจ หรือเอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ท่านกลับไปปรึกษาครอบครัวของท่านก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่"  คุณหนูพูดอย่างท่าทีใจดีอย่างมากแต่มีบางคำที่หากตั้งใจฟังดีดีจะรู้สึกได้ในคำพูด ซึ่หลันฮวาเองชอบมากที่จะติดตามคุณหนูของตนอย่างมาก ความฉลาดของคุณหนูมีเยอะและนางเต็มใจสอนและค่อยๆสอนหากไม่ทันนางเพียงแค่ยิ้มและบอกว่า (ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ มาเริ่มกันใหม่เถอะ) เพียงเท่านี้ สาวใช้อย่างนางไม่เคยพบเจอนายที่เป็นอย่างนี้มาก่อนหากไม่พอใจขว้างของใส่ตบตีทำร้ายร่างกายจนร่างกายบอบช้ำใกล้ตายก็มี และนายของตนเองคุณหนูหกไม่มีเลยกับการกระทำเหล่านั้น

 

“…”

 

“เอาล่ะท่านป้าเชิญคนของข้าไม่ส่งนะ”  (และนางลุกออกจากเก้าอี้)  “ท่านป้าข้งเจ้าค่ะตามข้ามา”

 

“…”

 

“สามีท่านป่วยมากหรือไม่เจ้าค่ะ ตอนนี้ทำงานหนักได้แค่ไหน”

 

“เรียนคุณหนูสามีข้าเป็นพรานเจ้าค่ะ แต่เมื่อไม่นานถูกหมูป่าทำร้ายเข้าไม่ทันระวังดีแต่เพื่อนบ้านคอยช่วยไม่งั้น…”

 

“แล้วตอนนี้เป็นเช่นไร อืม สามารถทำสวนปลูกผักขุดดินพวกนี้ได้หรือไม่”

 

“ตอนนี้ทำได้บ้างเจ้าค่ะ หรือว่า !! คุณหนูท่านจะจ้างสามีข้าด้วยหรือเจ้าค่ะ”

 

“ใช่ และพวกท่านเป็นผู้ใหญ่ที่สุด ท่านสามารถทำอาหารเลี้ยงคนเกือบสิบคนได้หรือไม่ หากเป็นพวกล้างผักใช้พวกเด็กเล็กมาช่วยท่านสามารถคัดเด็กพวนนั้นได้เลยสักไม่ต่ำกว่าห้าขวบหรือจะสลับใช้พวกนั้นได้ไม่ว่าแต่ท่านต้องเป็นผู้ปรุงหากสามีท่านมาช่วยงานได้ยิ่งดีช่วนท่านเรื่องคุมไฟอาหารหาฟืนพวกนี้ ท่านลองถามสามีท่านดูหากว่าสามีท่านยินยอม ให้มาทำเลย”

 

“ไดเจ้าค่ะคุณหนูข้าจพถามสามีข้าให้ ข้าขอบคุณคุณหนูที่เมตตาข้า”

 

“ข้าเองฝากท่านดูแลพวกเด็กพวกนั้นด้วย อาหารเช้าพวกนั้นท่านไม่ต้องกังวลแค่หาเตรียมอาหารเที่ยงเท่านั้น หนังสือท่านเขียนไม่เป็นข้าไม่ว่า แต่ตอนที่ไปซื้อของกลับมาท่านต้องจำให้ดีว่าซื้อของอะไรจ่ายไปเท่าไหร่ หรือท่านลองถามเจ้าพวกนั้นดูว่ามีใครอ่านออกเขียนได้ไหม ให้พวกเขาช่วย เจ้าพวกนั้นน่าสงสารไม่มีพ่อแม่ ต้องหาขโมยของกิน”

 

“ท่านแค่จดไว้และนี่เงิรค่าอาหาร เน้นพวกเนื้อ ทุกวันอาหารไม่ต้องประหยัดเพทาอข้านะจ่ายออกไปให้เต็มที่ เอาล่ะคุยเรื่องงานของสามีท่านดีกว่า นี่ห้องครัว ท่านลองดู สามีท่านให้ขุดดินไว้ยกแปลงดินไว้ปลูกผัก ตอนนี้แค่หน้าหนาว มีเพียงลม หากเมื่อไหร่ดูอากาศหากหิมะใกล้ตกค่อยทำโรงเรือนสำหรับปลูกผัก นอกจากยกแปลงดินคอยมาครวจดูเจ้าลิงพวกนี้ทำงานข้าจะจ้างเด็กพวกนั้นเก็บดอกไม้”

 

“เก็บดอกไม้ เอาไปทำอะไรเจ้าค่ะ ข้าถามได้หรือไม่คุณหนูคิดตั้งโรงงานทำอะไรหรือ”

หนูคิดตั้งโรงงานทำอะไรหรือ”  สีหน้าแสดงออกว่าสงสัยอย่างมาก ไม่คิดว่าเด็กที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้อยุไม่ถึงสิบหนาว คิดทำการค้าแล้ว อาจจะเป็นเพราะครอบครัวนางคงตามใจอย่างมาก ถึงได้ปล่อยให้เด็กคนนึงเอาเงินมาทิ้งขวางแบบนี้

 

“คิกคิก ท่าป้าข่งท่านคงสงสัยมาก ใช่แล้วอายุอย่างข้าไม่ควรออกมาทำงานข้างนอกเช่นนี้ แต่ข้าอยากให้ท่านรู้ไว้ก็พอ ว่าข้าไม่อาจทำตามคนทั่วไปได้หรอกนะเจ้าค่ะ ข้ายังมีแม่และน้องที่ยังไม่เกิดหากข้าไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง บางทีตอนนี้เราคงไม่ได้พบกัน ข้าบอกท่านได้เพียงเท่านี้”

 

“เจ้าค่ะ ป้ารู้แล้วและจะไม่สงสัยอีก ข้าขอตัวกลับก่อนเจ้าค่ะ”

 

“ขอให้ท่าป้าข่งเดินทางปลอดภัย พรุ่งนี้พบกัน”  ฉือฮั่วนางไม่รั่งหญิงคนนี้ไว้อีก ปล่อยให้กลับบ้านถามสามีให้มาช่วยงานได้ นี่เป็นก้าวสำคัญของโรงงานก้าวแรก ของนาง

 

“คุณหนู บ่าวสงสัยเจ้าค่ะ เหตุใดถึงต้องให้เขียนสัญญาว่าจ้างด้วยเจ้าค่ะ”

 

“เรื่องนี้นี่เอง พี่หลันฮวาท่านป้าอะไรนะที่ไม่ยอมลงชื่อทำสัญญา ท่าทางนางเป็นเช่นไร”

 

“นางน่าสงสัยเจ้าค่ะ ดูท่าทางเจ้าเลห์เพทุบายนัก”

 

“อย่างที่ท่านว่าไม่ผิด นางน่าจะถูกจ้างให้เข้ามาทำงานกับเรา เพราะข้าแจ้งเรื่องไม่รับคนงานที่ฮูหยินใหญ่ส่งมาให้ พวกนางคงต้องหาทางสักทางที่จะหาคนเข้ามา และทางเดียวคือจ้างคน และที่ข้าทำสัญญาว่าจ้าง คนพวกนั้นต้องคิดก่อนทำอยู่แล้ว นางต้องลังเลว่าคุ้มไหม หากถูกทางเราจับได้ล่ะ มันจะได้ไม่คุ้มเสีย ข้าถึงต้องทำอะรัดกุมแบบนี้ขึ้นมา พี่เองต้องระวังเอาไว้ด้วยล่ะข้าไม่อาจช่วยท่านได้ตลอดเวลา หากคิดจะติดตามข้า ท่านต้องไตร่ตรองให้มาก และตามข้าให้ทัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว