ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 29

“ฉะนั้นต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้วเลือกสิ่งใด”  ฉือฮั่วให้โอกาสเด็กเหล่านั้น เพราะชาติก่อนนางเองได้รับโอกาสแบบนี้เช่นกัน และเมื่อนางได้มีชีวิตอีกชาติหนึ่งทำไมจะไม่ให้โอกาสแก่ผู้อื่นล่ะ 

 

“…”

 

“ข้าได้เร่งให้พ่อบ้านจากเรือนของข้าจ้างช่างให้ก่อสร้างเรือนพักของพวกเจ้า แยกหญิงชาย มีตู้เสื้อผ้าให้พวกเจ้าได้เก็บของส่วนตัว เด็กเล็กที่อายุห้าหนาวขึ้นไปพวกเจ้าสามารถช่วยทำงานเล็กพวกนี้ได้ อาทิเช่น ข้าจ้างแม่ครัวมาทำอาหารให้พวกเจ้ากินเป็นมื้อกลางวัน และมื้อเย็น นางคนเดียวเตรียมงานล้างผักหันหมูไก่พวกนี้คงไม่ทันให้พกพี่ๆและพวกเจ้าได้กินกัน ฉะนั้นอย่างอยู่เฉย พลัดกันช่วยท่านป้าเขา อ้อ เรียกนางว่าป้าข่งแล้วกัน”

 

“แล้วคนอื่นๆที่ไม่ได้ช่วยล่ะขอรับ”

 

“ดีมาก ส่วนเด็กคนอื่นๆข้าจะให้พวกเจ้าช่วยกัยเก็บดอกไม้ต่างๆ คัดแยกแต่ล่ะชนิดให้ข้า เด็ดเอาเฉพาะกลีบดอก จากนั้นล้างให้สะอากผึงให้แห้ง จากนั้นรอข้าสอนงานต่อไป  และจะมีร้านเครื่องเคลือบมาส่งของ พวกเจ้าเลือกคนที่รู้หนังสือรับของ นับให้ข้าด้วยตรงกันไหม ข้าจะได้จ่ายเงินส่วนที่เหลือ ดูว่าของพวกนั้นมีร่องรอยร้าวแตกหรือชำรุดด้วยนะ คัดแยกไว้แล้วแจ้งข้า จะมีพ่อบ้านคนใหม่มาเป็นคนของข้า พวกเจ้าต้องเคารพ และหากมีเรื่องใดให้ปรึกษาเอา”

 

“…”

 

“ส่วนพวกเจ้าโตแล้ว ข้าจะให้สูตรบางอย่างเป็นสารที่ใช้ในการทำสบู่มันสำคัญมากพวกเจ้าต้องระวังอย่าให้ผู้ใดรู้ อย่างที่ข้าบอกเมื่อข้ารุ่งเจ้ารุ่ง หากข้าล้มเจ้าล้มไม่ต่างจากข้า และข้าสามารถไว้ใจพวกเจ้าได้ไหม”

 

“คุณหนูหก ท่านวางใจพวกข้าจะช่วยท่านสุดความสามารถ”  เด็กผู้ชายที่อ่านออกเขียนได้คนนั้นตบอกของตัวเอง 

 

“ใช่สิ พวกเจ้ามีชื่อเรียกไหม ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้ามีชื่อใดกันบ้าง”

 

"พวกข้าถูกทิ้ง ไม่มีชื่อหรอกขอรับ

 

"งั้นข้าตั้งให้ ผู้หญิงเป็นดวงจันทร์ ข้าตั้งชื่อเกี่ยวกับดวงจัทร์ดีไหม เจ้าโตสุด เยว่ซิน ดวงจันทร์แห่งความสุข เจ้าเยว่เล่อ เยว่ส่าง เยว่ชื่อ  ส่วนเจ้าอ้อแอ้นั้นผู่เยว่ ชอบไหม

ส่วนชาย เจ้ารู้หนังสือ ห้าวอู๋ จักรวาลกว้างใหญ่ เจ้าห่าวหราน อู๋ซวน ความหมายเดียวกัน เจ้าอู๋ห่าง อู๋เจ๋อ  ความหมายท่องโลกกว้าง เจ้าซีห่าว  ความสุขมุ่งมั่น ซีซวน ร่าเริง ห่าวซวน ศิลปะ อู๋เฌิ๋น อนาคตสดใส เอาล่ะ ชอบกันไหมเล่า ชื่อพวกนี้

 

“ชอบมากขอรับ ความหมายดีมาก”

 

“ดีที่พวกเจ้าชอบ ตรงนี้เป็นเงินที่ข้ามอบให้เจ้าเอาไปซื้อเครื่องนอน  ให้ครบคน อ้อเผื่อพ่อบ้านด้วย เยว่ซินเจ้าชักชวนพวกห้าวอู๋ไปเป็นเพื่อน ข้าคงต้องกลับแล้ว”  นางบอกเด็กๆพวกนั้น ต้องกลับไปเตรียมของบางอย่างและกลับมาอีกครั้งมนวันพรุ่งนี้ เมื่อเอ่ยลา นางเดินออกมาพบ ท่าพ่อบ้านยืนทำหน้าปุเหลี่ยนอยู่ ไม่กล้าขยับตัวไปท่างใด บางเลิกคิ้วสงสัย

 

“ท่านพ่อบ้านเกิดเรื่องอะไรหรือเจ้าค่ะเหตุใดท่านมีท่าทีเช่นนี้เล่า”

 

“คุณหนู ข้าว่า (มองซ้ายขวาเข้าไปกระซิบ)”

 

“ท่านตรวจสอบแล้วหรือ”

 

“ขอรับ”

 

“เราไม่รู้ว่าใครนะ เราเดินทางกลับจวนและคุยกันไปด้วยำม่เสียเวลา” และเดินออกไปจากโรงงาน  ทั้งสามคนขึ้นรถม้า พ่อบ้านมองหน้าฉือฮั่วประมาณว่าเล่าได้เลยไหม าวใช้อยู่ด้วยนะ แต่ได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

 

“หญิงที่มาสมัครแม่ครัวตอนนี้ร่างของนางศาลส่งให้สามีรับไปแล้วขอรับ”

 

“เรื่องนี้ตามหาคนผิดไม่ได้ใช่หรือไม่ ท่านไปสืบมาว่างัย”

 

“แจ้งว่าถูกฆ่าเพราะปล้นชิงทรัพย์ขอรับ เพราะมีเชือกเงินอีแปะอยู่ในมืออีกอย่างพบเงินอีแปะตกอยู่ในที่เกิดเหตุขอรับคุณหนู”

 

"ถ้าสถานการณ์เช่นนี้ มีสองอย่างที่ข้าคิดได้ตอนนี้ คือ นางถูกเก็บจากผู้ว่าจ้างที่ฆ่านางปิดปาก และอีกอย่างเป็นไปตามรูปการณ์ที่ศาลว่าไว้ …!!!(ฉือฮั่วยกมือใช้นิ้วลูบตรงคางคิดพิเคราะห์เรื่องราวและกำลังคาดการณ์ในอนาคตข้างหน้า) หากนางถูกเก็บจริงคนร้ายต้องเป็นคนที่อยากรู้เรื่องภายในโรงงานข้าถึงได้ว่าจ้างคนมาสมัครเป็นแม่ครัว และไม่ได้รับเข้างาน คนร้ายคิดว่านางไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้และ ท่าทางนางเองเป็นคนปากเช่นนั้นด้วย เห่อออ (มือของฉือฮั่วรวบกุมมืออยู่บนตักของนางเอง) ตอนนี้ข้าคิดว่าหากมีเรื่องเช่นนี้ มีสองข้อ ที่ข้าคิด 

หนึ่งข้าไม่มีเรื่องที่ไหนกับใครหากจะมีคงเป็นคนที่เรือนจวนโหว แต่ใครล่ะ? ทำเพื่ออะไร? 

สองคือคู่แข่งของข้า อันนี้ยากมาก เราไม่มีทางรู้เลยว่าสินค้าข้าขัดขวางใครขนาดนั้น สินค้าข้าเองยังไม่มี และไม่ได้ ประกาศอย่างเป็นทางการ และอีกอย่างคือคนพวกนั้นทำไปอยากรู้สูตรข้าหรือ ทั้งที่ข้ายังไม่ได้ให้ใครนอกจากเรือนของข้า"

 

“คุณหนูขอรับแล้วเราจะทำเช่นไรต่อไปขอรับการตั้งรับ และป้องกันยังไง”

 

“ท่านพ่อบ้านข้าเองยังคิดไม่ออก ข้าเพิ่งแค่สิบหนาวนะ หรือท่านลืมไปแล้วหรือ”  น้ำเสียงที่ตอบกลับไป มิได้ฉุนเฉียงแต่อย่างใด ออกจะขบขันหยอกเย้าตนเสียมากกว่า พ่อบ้านชะงักไปชั่วขณะและเขินไปในที "(ตนเองนั้นลืมไปได้เช่นไร นางเพิ่งสิบหนาวเอง)" พ่อบ้านเพียงคิดในใจ

“ท่านพ่อบ้าน ท่านเป็นคนของท่านย่า ท่านว่าท่านย่าจะมีวิธีช่วยข้าคิดหรือไม่ หากข้าปรึกษาท่านแม่ เรื่องพวกนี้คงได้ล้มก่อนเริ่มเสียอีก หากเป็นท่านย่าเล่า ท่านคิดว่ามันจะมีสักกี่ส่วนกัน”  นางหันรวดเร็วและร่างกายนางเร็วกว่าความคิด นางเขย่าแขนท่านพ่อบ้าน โดยที่หลันฮวาทำตาโตตกใจ คุณหนูของนางไม่มีความสำรวมสักนิด 

 

“คุณหนูเจ้าค่ะไม่สำรวมเลยเจ้าค่ะ”

 

“พี่หลันฮวาท่านนี่ดุข้ารึ ข้านี่เด็กอยู่นะ อีกอย่างข้านี่หลานท่านพ่อบ้านได้แล้วท่านนี่”  นางตอบกลับไปพร้อม ชี้นิ้วไปทางพี่หลันฮวาสาวใช้วนเป็นวงกลมเชิงเย้าและมีแต่เสียงหัวเราะ เรื่องที่เคลียดเมื่อครู่หายไปแล้ว และแล้วถึงที่จวน เข้ายามเซินนางเดินตรงไปเรือนของตัวเองก่อนอันดับแรก  รายงานตัวกับท่านแม่ เพราะวันนี้นางออไปนานมากดีที่มีขนมทานรองท้องกัน นายทานแค่นั้น บ่าวอย่างพ่อบ้านและหลันฮวาจะเหลือหรือ แต่เพียงแค่มื้อเที่ยงเท่านั้น บ่าวทั้งสองทนได้ แต่นางไม่ต้องการให้ทุกคนต้องมาอดอาหาร

 

“พ่อบ้านท่านอย่าเพิ่งไปเจ้าค่ะ อยู่ทานข้าวที่นี่สักครู่ข้าจะให้พี่เสี่ยวชุ่ยทำกินง่านๆให้ท่านทั้งสองทานก่อน เพื่อเริ่มงานอื่น”

 

“คุณหนู คงจะเห็นต้องปฏิเสธขอรับ บ่าวไม่อาจ”

 

“อย่าคิดมาก วันนี้ท่านเองทำงานให้ข้าเหนื่อยขนาดไหนมีหรือข้าไม่แจ้ง เอาตามนี้ ”

 

“พี่เสี่ยวชุ่ย ท่านช่วยทำไข่เจียวให้ข้าสักสามถ้วยสิเจ้าคะ ให้ข้าพ่อบ้านและพี่หลันฮวา เอาขอพ่อบ้านเยอะนะข้าวอ่ะ”

 

“เจ้าค่ะ”  พี่เสี่ยวชุ่ยรู้ดีว่าคุณหนูของนางอยากให้ทำอาหารที่รวดเร็วและชื่ออาหารนี้นางทำเร็วตามที่คุณหนูสั่ง ช้าเพียงแค่ก่อไฟเท่านั้น ที่เหลือคือง่ายมากนางตักข้าวออกมาแบ่งไว้สามถ้วยแต่ของพ่อบ้านเป็นจาน จากนั้นทำไข่เจียวทันที ไม่ถึงสองเคอด้วยซ้ำอาหารอยู่ตรงหน้าแล้ว 

 

“เร็วดี หืมมมหอม ทานกันเลย”  พูดจบผายมือเชิญพ่อบ้านนั่งและทานพร้อมกัน แต่พ่อบ้านอิดออด ฉือฮั่วมองหน้าพี่หลันฮวาพยักหน้าส่งสายตาให้ (ท่านให้พ่อบ้านนั่งสิข้าขี้เกียจพูด) หลันฮวาเองรู้ความหมาย บังคับแถมขู่อีก พ่อบ้านถึงได้นั่งทานพร้อมกัน

 

“  พี่เสี่ยวชุ่ย ท่านแม่ล่ะเจ้าค่ะ แจ้งท่านแม่ด้วยข้าเห็นที่ข้าวเย็นคงร่วมทานไม่ได้ ให้ท่านแม่ทานคนเดียวก่อนและข้าต้องเข้าไปเรือนฮูหยินผู้เฒ่า คงออกมาหลังท่านแม่ทานอาหารแล้ว”

 

“เจ้าค่ะ”  

 

“พ่อบ้านท่านทานเรียบร้อยแล้วหรือยัง  งั้นเราเข้าไปหาท่านย่ากันเถอะ”

 

 

 

 

 

“งั้นเราเข้าไปหา ท่านย่ากันเถอะ” ประโยคง่ายๆ เหมือนญาติพี่น้องคุยกัน ไม่มีความเป็นนายใช้สั่งงาน บังคับ การกระทำของคุณหนูทุกอย่างนางไม่เคยถือตัวว่านางเป็นคุณหนูของจวนแห่งนี้ ทั้งนางเคารพตนในฐานะที่อายุมากกว่า ที่จะมองตนเป็นเพียงบ่าว มีหรือใครไหมที่เคยได้พบเจอนายแบบนี้ หาได้ไม่ ไม่มีใครเป็นเหมือนนาง พ่อบ้านเดินนำทางไปคิดไปด้วย ไม่นานถึงเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า นางแจ้งบ่าวว่านางเองและพ่อบ้านต้องการพบท่านย่า ไม่นานแม่นมเดินออกมา และเชิญทั้งคู่ไปพบฮูหยินผู้เฒ่าทันที

 

“ฉือฮั่วคารวะท่านย่า/บ่าวคารวะฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ” นางและพ่อบ้านเคารพท่านย่าพร้อมกันรอจนกระทั่งไดรับอนุญาต ถึงได้นั่งลง ส่วนพ่อบ้านยืนอยู่ด้านข้าง

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว