“ท่านแม่ เสียวเป่าติด รีบเอาเสียวเป่าออกไป”
“เหอะๆ เอ่อ…ขายหน้าต่อหน้าท่านอ๋องแล้ว”
ซูเนี่ยนเดินจากข้างหลังฉู่อี้หานไปตรงหน้ารูนั่น จากนั้นออกแรงดึงเสียวเป่าออกมาอย่างสุดฤทธิ์ เห็นฉู่อี้หานจ้องที่รูใหญ่นั่น แล้วหันไปมองเสี่ยวฮุยที่เหม่ออยู่
ซูเนี่ยนคิดในใจว่าแย่แล้ว จึงส่งสายตาให้กับเสี่ยวฮุย
“เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นหน้าหนูสีเทาตัวนี้นัก” ฉู่อี้หานค่อยๆ กวาดสายตาไปที่ซูเนี่ยนกับเสียวเป่าเหมือนมีอะไรบางอย่าง
“จี๊ดๆ” ฉู่อี้หานกล่าวจบ เสี่ยวฮุยตัวสั่นทันที จากนั้นวิ่งหนีไปด้วยความเร็วสุดขีดของตน
“มั่วหลิง จับหนูสีเทานั่นไว้ซะ” ฉู่อี้หานสั่งการ
“พ่ะย่ะค่ะ”
ซูเนี่ยน “…”
เสียวเป่า “เสี่ยวฮุย ตามเวรตามกรรมเถิดนะ”
“เชอะ” เสียวเป่าเห็นว่าฉู่อี้หานกำลังจ้องตนอยู่ จึงสะบัดหน้าไปด้านข้าง ทว่าสายตายังคงแอบมองฉู่อี้หานอยู่บ่อยๆ
ซูเนี่ยนเม้มริมฝีปาก แล้วกอดเสียวเป่าแน่น
“คือว่า…ฮ่าๆ ท่านอ๋อง ข้าจะชดใช้ค่าเสียหายของห้องตำรานี้ให้” เมื่อเห็นฉู่อี้หานยังคงจ้องรูนั่นอยู่ ซูเนี่ยนจึงลองคำนวณดู น่าจะเสียเงินไม่มากนัก
“พระชายาจะเอาเงินมาจากไหน” ฉู่อี้หานกล่าว หลายปีมานี้ ไม่มีเขาสั่งให้คนดูแลความเป็นอยู่ของซูเนี่ยน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหรียญเงินเลย หากจะพูดถึงสินเดิมล่ะก็ สินเดิมตอนที่ซูเนี่ยนแต่งเข้ามายังจวนอ๋องมีน้อยเสียจนน่าสงสาร ทั้งยังอยู่ในคลังประจำจวนทั้งหมดด้วย ในเมื่อไม่มีเงิน แต่เหตุใดสีหน้าของสองแม่ลูกนี้ถึงได้คนหนึ่งแดงยิ่งกว่าคนหนึ่งล่ะ
“ท่านแม่” เสียวเป่าดึงมือซูเนี่ยนเป็นเชิงบอกให้ไปได้แล้ว
ประโยคนี้เพิ่งจบลง ก็ได้ยินเสียงโครมครามดังขึ้น กำแพงด้านข้างของห้องตำราได้พังทลายลงแล้ว
หนูกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันวิ่งพล่านออกมา ซูเนี่ยนเห็นสีหน้าของฉู่อี้หานดำมืดอีกครั้ง
หลังจากที่กำแพงพังทลายลง การจัดวางต่างๆ ในห้องก็ปรากฏให้เห็น ตำรากระจัดกระจายไปทั่วห้อง บางเล่มมีหน้ากระดาษขาดหายไป น้ำหมึกหกบนพื้น แม้แต่พู่กันก็เหลือเพียงก้านเปล่าเท่านั้น
เรื่องพวกนี้ยังน้อยๆ มีหนูตัวน้อยตัวหนึ่งปีนป่ายขึ้นบนโต๊ะ แล้วถ่ายหนักออกมาสองสามก้อนต่อหน้าต่อตาผู้คน
องครักษ์ที่ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาต่างมองหน้ากัน ทำอะไรไม่ถูก
ห้องตำราเป็นสถานที่ลับของจวนอ๋องเชียวนะ
“ซูเนี่ยน! เจ้าอธิบายมาเสียดีๆ” ฉู่อี้หานกล่าวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“เช่นนั้น ข้าพาเสียวเป่ากลับก่อนนะเพคะ สุขสันต์วันสมรสใหม่นะเพคะ” ซูเนี่ยนโบกมือพาเสียวเป่ากลับเรือนลั่วสุ่ย
“วันสมรสใหม่?”
ฉู่อี้หานขมวดคิ้วมองแผนหลังที่ห่างไปไกลของทั้งสอง ซูเนี่ยนมีศัพท์ใหม่มากจริงๆ
ณ เรือนเฉียงเวย
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ในสวนของจวนอ๋องประดับไปด้วยตะเกียงเทียน เรือนเฉียงเวยเป็นตำหนักของซูเยียนหรัน แสงไฟบริเวณตำหนักสว่างชัดเจน สาวใช้และคนใช้เฝ้าอยู่หน้าประตู
ด้านในห้อง มีเทียนมงคลมังกรหงส์ตั้งวางอยู่ บนเตียงนอนปูด้วยผ้าห่มสีแดงมงคล บนถาดผลไม้และกาน้ำชาก็มีคำมงคลสีขาดติดประดับไว้ด้วย รูปปั้นวัวมรกตสองตัวที่ตั้งวางอยู่ใจกลางห้องจุดติดธูปหอมเอาไว้ ทำให้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง หอมจนทำให้คนอยากคล้อยหลับไป
ซูเยียนหรันเดินวนไปมาอยู่ในห้องอย่างกังวลใจ ไม่รู้เพราะเหตุใดนางถึงได้ไม่สบายใจเช่นนี้ หรืออาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของซูเนี่ยนในวันนี้ ทำให้นางได้รับผลกระทบอย่างมากก็เป็นได้
“เอี๊ยด”
เสียงเปิดประตูดังขึ้น มั่วเอ๋อร์ สาวใช้ของซูเยียนหรันเดินเข้ามา แล้วปิดประตูอย่างระมัดระวัง มั่วเอ๋อร์เดินสืบเท้าเข้าไปหาซูเยียนหรันอย่างรีบร้อน
จากนั้นสั่งให้สาวใช้คนอื่นๆ ออกไปจากห้อง ซูเยียนหรันมองไปที่มั่วเอ๋อร์ แล้วเอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณหนู ไม่สำเร็จเจ้าค่ะ ซูเนี่ยนนั่นไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงได้รู้วิชาแพทย์! องค์หญิงใหญ่กับเด็กในท้องจึงถูกช่วยเอาไว้ได้ บัดนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งจวนอ๋องแล้วเจ้าค่ะ บอกว่านางเป็นฮัวโต๋กลับชาติมาเกิด โดยเฉพาะหมอตำแยที่ทำคลอดให้เจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง